เลขาธิการ สช.เผยโรงเรียนติดหวัด 2009 จำนวน 60 โรง ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนรัญและเอกชนชื่อดัง คาดติดจากสถาบันกวดวิชา กำชับหากกวดวิชาที่ไหนมีเด็กขาดเรียนเยอะให้แจ้งมาที่ ศธ. เพื่อประสาน สธ.และ กทม.เข้าไปทำความสะอาด
นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิด เอ H1N1 กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยรายชื่อ 60 สถานศึกษา ที่พบผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ว่า ขณะนี้ได้มอบนโยบายไปแล้วว่าขอให้เป็นอำนาจการตัดสินใจของสถานศึกษาเองว่า จะต้องมีการปิดการเรียนการสอนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคหรือไม่ ซึ่งสถานศึกษาทั้ง 60 แห่งนั้น ก็มีทั้งที่พิจารณาสั่งปิดไปแล้ว และยังเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ
อย่างไรก็ตาม จากการหารือร่วมกับฝ่าย สธ.ก็ไม่อยากให้โรงเรียนตื่นตระหนก และปิดการเรียนการสอนเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น โดยให้คำแนะนำผู้บริหารสถานศึกษาดูแลนักเรียนนักศึกษาอย่างใกล้ชิด และพิจารณาเป็นระดับชั้น โดยหากพบนักเรียน นักศึกษาป่วย และต้องสงสัยว่าอาจจะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ฯ ก็ต้องพิจารณาว่ามีการแพร่ระบาดในชั้นเรียนหรือไม่ เช่น มีนักเรียนป่วย ไข้ขึ้นสูง มีน้ำมูก ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป อาจจะต้องสั่งปิดการเรียนการสอนในระดับชั้นนั้นๆ แต่หากมีการแพร่กระจายไปยังระดับชั้นอื่นๆ จึงจะพิจารณาสั่งปิดโรงเรียนต่อไป
ด้านนายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กล่าวว่า จากข้อมูลดังกล่าวจะพบว่าโรงเรียนส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนรัฐและเอกชนชื่อดัง ซึ่งจากที่ได้หารือกับทาง สธ.สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นการแพร่ระบาดในโรงเรียนกวดวิชา เพราะโรงเรียนกวดวิชาบางแห่งก็เป็นห้องแอร์ขนาดเล็ก มีนักเรียนจำนวนมาก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคได้ง่าย ซึ่งตนได้ทำหนังสือแจ้งไปยังโรงเรียนกวดวิชาทุกแห่งแล้วให้ติดตามมาตรการของ สธ. ดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด หากมีนักเรียนที่ป่วยและหยุดเรียนจำนวนมากก็ขอให้แจ้งเข้ามา เพื่อจะได้ประสานไปยัง สธ. และกทม. เพื่อเข้าไปทำความสะอาด