“อู๊ดด้า” แถลงจัดงานเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 8-12 ก.ค. ระบุเด็กอ่านหนังสือ 69.1% แต่ในปี 2551 เหลือเพียง 66.3% เกิดจากเด็กไปดูโทรทัศน์มากขึ้น และคนไทยใช้เวลาอ่านหนังสือน้อยลง จากปี 2548 คนไทยอ่านหนังสือ 51 นาทีต่อวัน เหลือเพียง 39 นาทีต่อวันในปี2551
ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานงานแถลงข่าวการจัดเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 7 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-12 กรกฎาคม จัดโดยสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย นายจุรินทร์ กล่าวว่า จากผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า
เด็กไทยอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป อ่านหนังสือน้อยลง จากเดิมปี 2548 เด็กอ่านหนังสือ 69.1% แต่ในปี 2551 เหลือเพียง 66.3% เกิดจากเด็กไปดูโทรทัศน์มากขึ้น ซึ่งทำให้เด็กขาดจินตนาการ ขาดความคิดสร้างสรรค์ และยังพบว่า คนไทยใช้เวลาอ่านหนังสือน้อยลง จากปี 2548 คนไทยอ่านหนังสือ 51 นาทีต่อวัน เหลือเพียง 39 นาทีต่อวันในปี 2551 ซึ่งเป็นผลในทางลบ จะต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน
ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดนโยบายด้านการอ่านและแต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการอ่านเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยมี รมว.ศธ.เป็นประธาน และแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 3 ชุด ดำเนินการ 3 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1.พัฒนาคนไทยให้มีความสามารถด้านการอ่าน ทำให้คนไทยอ่านหนังสือได้อย่างเข้าใจ 2.พัฒนาคนไทยให้มีนิสัยรักการอ่าน เพื่อสร้างนิสัยรักการอ่าน และ 3. สร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมการรักการอ่าน จากนั้นจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ต่อไป
โดยมีเป้าหมาย 2 เรื่อง คือ ให้การอ่านเป็นวาระแห่งชาติและกำหนดให้วันที่ 2 เมษายน ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นวันแห่งการรักการอ่าน
นายจุรินทร์กล่าวด้วยว่า แหล่งเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือ ห้องสมุด โดยเฉพาะห้องสมุดในสถานศึกษา ศธ. มีนโยบายจะสร้างห้องสมุด 3 ดี ในสถานศึกษาทั่วประเทศในทุกระดับการศึกษา ซึ่งมีองค์ประกอบ 3 ข้อ คือ หนังสือดี บรรยากาศดี และบรรณารักษ์ดี นอกจากนี้ ศธ. จะต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อสนับสนุนการทำงานของห้องสมุดในรูปแบบต่างๆ เพื่อช่วยสนับสนุนหนังสือดีๆ และมีหนังสือใหม่เข้ามาเรื่อยๆ เพื่อให้ห้องสมุดสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน