ผู้จัดการ กยศ.หนักใจสภาพคล่องกองทุน หากมีผู้ชำระหนี้คืนน้อย หรือไม่ได้รับงบประมาณเพิ่มส่งผลกระทบแน่ เผยปี 2552 มีนักเรียน นักศึกษายื่นกู้ กยศ.แล้ว 940,000 ราย
นพ.ธาดา มาร์ติน ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ กยศ.เปิดให้นักเรียน นักศึกษา ยื่นคำร้องขอกู้เงิน กยศ. ผ่านระบบ e-studentloan ทางเว็บไซต์ www.studentloan.or.th ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ - 10 มิถุนายน 2552 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเปิดให้ยื่นกู้ตามกำหนดการเดิม มียอดผู้ยื่นกู้แล้ว 940,000 ราย ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่กองทุนฯ ตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม ยังมีนักเรียน นักศึกษาบางส่วนที่ระบุว่ายื่นกู้ไม่ทัน กยศ.จึงได้ขยายเวลาให้ยื่นกู้ต่อไปได้อีก 5 วัน จนถึงวันที่ 15 มิถุนายนนี้ สำหรับยอดเงินกู้ปีการศึกษา 2552 ทั้งสิ้น มีประมาณ 38,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่มาก และแม้จะเพียงพอสำหรับดำเนินการโอนให้ผู้กู้ในปีนี้ แต่ก็ยอมรับว่าหนักใจ เพราะเรื่องสภาพคล่องหรืองบประมาณที่กองทุนฯ ได้รับน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ตามปัจจัยทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน
“การปล่อยกู้ให้กับนักเรียน นักศึกษาต้องอาศัยเงินที่จะได้รับจากการใช้คืนจากผู้กู้ที่จบการศึกษาแล้วมาหมุนเวียนให้กู้ต่อไป ซึ่งหากปีต่อไป กองทุนฯ ไม่ได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้น หรือจำนวนผู้ชำระหนี้ลดน้อยลงก็จะเป็นปัญหาทางการเงินของกองทุนได้ในอนาคต เพราะแนวโน้มรัฐบาลยังต้องจัดงบประมาณในลักษณะขาดดุลต่อเนื่องอีกระยะ ซึ่งเป็นไปตามสภาพคล่องของประเทศ หากประเทศไม่มีสภาพคล่องทางการเงิน ก็จะกระทบต่อสภาพคล่องของกองทุนด้วย โดยจะได้รายงานผลการปฏิบัติงานและสภาพปัญหาต่อคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อรายงานไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อรับทราบต่อไป”นพ.ธาดากล่าว
สำหรับปีกรณีที่รัฐบาลได้เปิดโอกาสให้นักศึกษาชั้นปีที่ 2-4 ที่ไม่ได้กู้ต่อเนื่องจากปีที่ 1 ได้กู้เงิน กยศ.ได้ด้วยนั้น ผู้จัดการ กยศ.กล่าวว่า มีผู้ยื่นกู้ไม่มากนัก โดยนิสิต นักศึกษาชั้นปีที่ 2-4 รวมกันยื่นกู้ประมาณ 30,000 ราย ขณะที่นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ยื่นกู้ประมาณ 100,000 ราย
นพ.ธาดา มาร์ติน ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ กยศ.เปิดให้นักเรียน นักศึกษา ยื่นคำร้องขอกู้เงิน กยศ. ผ่านระบบ e-studentloan ทางเว็บไซต์ www.studentloan.or.th ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ - 10 มิถุนายน 2552 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเปิดให้ยื่นกู้ตามกำหนดการเดิม มียอดผู้ยื่นกู้แล้ว 940,000 ราย ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่กองทุนฯ ตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม ยังมีนักเรียน นักศึกษาบางส่วนที่ระบุว่ายื่นกู้ไม่ทัน กยศ.จึงได้ขยายเวลาให้ยื่นกู้ต่อไปได้อีก 5 วัน จนถึงวันที่ 15 มิถุนายนนี้ สำหรับยอดเงินกู้ปีการศึกษา 2552 ทั้งสิ้น มีประมาณ 38,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่มาก และแม้จะเพียงพอสำหรับดำเนินการโอนให้ผู้กู้ในปีนี้ แต่ก็ยอมรับว่าหนักใจ เพราะเรื่องสภาพคล่องหรืองบประมาณที่กองทุนฯ ได้รับน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ตามปัจจัยทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน
“การปล่อยกู้ให้กับนักเรียน นักศึกษาต้องอาศัยเงินที่จะได้รับจากการใช้คืนจากผู้กู้ที่จบการศึกษาแล้วมาหมุนเวียนให้กู้ต่อไป ซึ่งหากปีต่อไป กองทุนฯ ไม่ได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้น หรือจำนวนผู้ชำระหนี้ลดน้อยลงก็จะเป็นปัญหาทางการเงินของกองทุนได้ในอนาคต เพราะแนวโน้มรัฐบาลยังต้องจัดงบประมาณในลักษณะขาดดุลต่อเนื่องอีกระยะ ซึ่งเป็นไปตามสภาพคล่องของประเทศ หากประเทศไม่มีสภาพคล่องทางการเงิน ก็จะกระทบต่อสภาพคล่องของกองทุนด้วย โดยจะได้รายงานผลการปฏิบัติงานและสภาพปัญหาต่อคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อรายงานไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อรับทราบต่อไป”นพ.ธาดากล่าว
สำหรับปีกรณีที่รัฐบาลได้เปิดโอกาสให้นักศึกษาชั้นปีที่ 2-4 ที่ไม่ได้กู้ต่อเนื่องจากปีที่ 1 ได้กู้เงิน กยศ.ได้ด้วยนั้น ผู้จัดการ กยศ.กล่าวว่า มีผู้ยื่นกู้ไม่มากนัก โดยนิสิต นักศึกษาชั้นปีที่ 2-4 รวมกันยื่นกู้ประมาณ 30,000 ราย ขณะที่นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ยื่นกู้ประมาณ 100,000 ราย