สธ.เผยรู้ผลแล็บตรวจหวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ 2009 เด็กนักเรียน 13 ราย โรงเรียนเอกชนชื่อดังย่านดุสิตบ่ายนี้ เชื่อมใยงเด็ก 11 ขวบติดเชื้อจากไหน ก่อนพิจารณาสั่งปิดโรงเรียนหรือห้องเรียนเพิ่ม ขณะที่คณะครู 30 คน เตรียมเดินทางกลับจากอเมริกาใน 2-3 วันนี้ “มานิต” สั่งกรมอนามัยลงพื้นที่รณรงค์เด็กกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 11 มิถุนายน นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีเด็กนักเรียนชาย วัย 11 ปี โรงเรียนเอกชนชื่อดังย่านดุสิต ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 โดยที่ไม่มีประวัติที่ตนเองและคนในครอบครัวเดินทางไปต่างประเทศว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่านักเรียนคนดังกล่าวติดเชื้อจากที่ไหน
อย่างไรก็ตาม นักเรียนโรงเรียนนี้มีจำนวนมากที่เดินทางกลับจากการไปต่างประเทศเพื่อศึกษาภาคฤดูร้อนระยะสั้น อีกทั้ง ในอีก 2-3 วันนี้จะมีคณะครูของโรงเรียนนี้อีกประมาณ 30 คน เดินทางกลับจากการศึกษาดูงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย ส่วนจะมีการสั่งปิดโรงเรียนหรือห้องเรียนเพิ่มเติมหรือไม่ต้องรอผลการตรวจเชื้อจากห้องปฏิบัติการว่านักเรียนอีก 13 คนที่ส่งตัวอย่างเชื้อตรวจติดเชื้อไวรัสนี้ด้วยหรือไม่ ซึ่งคาดว่าผลจะออกภายในบ่ายวันนี้
“จากการจะประมวลผลได้ว่านักเรียนชายคนนี้ติดเชื้อมาได้อย่างไร หรือติดจากเพื่อนร่วมโรงเรียนที่เดินทางไปต่างประเทศมาหรือไม่นั้น ต้องรอผลการตรวจสอบเชื้อของนักเรียนคนอื่นๆก่อน แต่ผมได้สั่งการให้กรมอนามัยส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปยังโรงเรียนดังกล่าวเพื่อรณรงค์ให้นักเรียนเข้าใจถึงวิธีการป้องกันตนเองให้ปลอดจากเชื้อโรค ด้วยการกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัยป้องกันการแพร่เชื้อไปให้ผู้อื่นหากไม่สบาย” นายมานิตกล่าว
นายมานิตกล่าวด้วยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการว่าหากจะมีการพิจารณาปิดโรงเรียนก็ให้ดำเนินการตามความเหมาะสม โดยให้ประสานกับกระทรวงศึกษาธิการด้วย
นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่มีนักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนเอกชนชื่อดัง ย่าน ถ.สามเสนติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิด A H1N1 ว่า ตนได้รับรายงานจาก นพ. ปราชญ์ บุญยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่าขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ได้เข้าไปดูแลและดำเนินการตามกระบวนการทางการแพทย์เพื่อระวังและป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดไปยังนักเรียนรายอื่นแล้ว ดังนั้น ขอให้ผู้ปกครองอย่าเพิ่งตื่นตระหนก หรือกังวลจนเกินไป โดยขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของ สธ.อย่างเคร่งครัด หากพบว่าบุตร หลานไม่สบาย ขอให้หยุดเรียนและรีบไปพบแพทย์โดยด่วน อย่ากลัวว่าจะต้องขาดเรียนเพราะเรื่องของสุขภาพสำคัญกว่า
“ส่วนจะต้องถึงขั้นปิดโรงเรียนหรือไม่นั้น ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของโรงเรียนและผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุข สำหรับโรงเรียนอื่นๆ ได้เคยมอบนโยบายให้คุมเข้มเรื่องนี้ก่อนเปิดเทอมอยู่แล้ว ดังนั้น ขอให้ทุกโรงเรียนปฏิบัติตามนโยบายอย่างเคร่งครัด”นายจุรินทร์กล่าว
