นักศึกษาอุเทน-ผู้ปกครอง ร้องรับน้องโหดเพิ่มอีก 20 ราย เผยรุ่นพี่ขู่หากปูดเรื่องจะตามไปทำร้ายถึงบ้าน พ่อแม่ นศ.เผย ลูกถูกเผาขนเพชร ถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ ตัดใจให้ลูกย้ายที่เรียน ทั้งที่อยากให้เรียนอุเทน เพราะจะมีงานทำ ด้านเหยื่อรับน้อง เผย พฤติกรรมโหด สเปรย์พ่นอวัยวะเพศ จุดไฟเผาขนเพชร บังคับค้างบ้านรุ่นพี่ รุมทำร้าย ไม่ให้นอนหลับ ไม่ให้กลับบ้าน
ที่มูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี คลอง 7 จ.ปทุมธานี มีนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย และผู้ปกครองรวมประมาณ 20 คน เดินทางมาร้องเรียนว่า ถูกบังคับให้เข้าร่วมกิจกรรมรับน้องใหม่ที่ใช้ความรุนแรง ถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ โดยต่างมีอาการหวาดหวั่น ไม่อยากให้ข้อมูล หรือเปิดเผยตัวกับผู้สื่อข่าว เพราะถูกรุ่นพี่ที่อุเทนถวายขู่ว่า หากนำเรื่องนี้ไปเปิดเผย จะตามไปทำร้ายถึงบ้าน
นางกฤษณา ต้นแทน มารดาของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 อุเทนถวาย ซึ่งเดินทางมาร่วมร้องเรียน กล่าวว่า สนับสนุนให้ลูกชายเข้าเรียนที่อุเทนถวาย เพราะเห็นมาตลอดว่ามีบริษัทต้องการตัว หากเรียนจบแล้วจะมีงานทำแน่นอน แต่ไม่คิดว่าลูกจะถูกทารุณเช่นนี้ ตั้งแต่เปิดภาคเรียนมาไม่กี่วัน ลูกต้องกลับบ้านดึกเที่ยงคืนทุกวัน และถูกเรียกตัวตั้งแต่ตี 3 เพื่อไปร่วมกิจกรรมรับน้อง และพบว่า ถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ ถูกฉีดสเปรย์และจุดไฟเผาขนเพชร ถูกชกที่หน้าอกจนเป็นรอยช้ำ ถูกบังคับให้จับปืนยิงใส่เพื่อน แต่ลูกไม่กล้ายิง รุ่นพี่ก็สั่งให้ยิงตัวเอง ทุกวันนี้ลูกตกอยู่ในความเครียดมาก และไม่กล้าไปที่สถาบันอีก ซึ่งตนคิดว่าคงจะไม่ให้ลูกไปเรียนอีกแล้ว ตั้งใจส่งลูกไปเรียน ไม่ใช่ส่งไปเป็นโจร อย่างไรก็ตาม ไม่อยากแจ้งความดำเนินคดี เพราะกลัวรุ่นพี่จะตามมาทำร้ายลูกถึงที่บ้าน
ต่อมา นางปวีณา หงสกุล ได้นำนักศึกษาและผู้ปกครองที่มาร้องเรียน เข้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง จากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งประกอบด้วย ฝ่ายนิติการของ สกอ.และ ผู้แทนอาจารย์จากอุเทนถวาย
นายสรรค์ วรอินทร์ ที่ปรึกษา สกอ.ในฐานะประธานกรรมการสอบข้อเท็จจริง กล่าวว่า นอกจากจะเก็บข้อมูลอย่างละเอียดจากนักศึกษาทุกคน เพื่อเอาผิดกับรุ่นพี่ที่ทำร้ายจิตใจละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของรุ่นน้องแล้ว จะตรวจสอบความเข้มงวดกวดขันของมหาวิทยาลัยด้วยว่า ได้ปฏิบัติตามระเบียบและประกาศกระทรวงศึกษาธิการอย่างเคร่งครัดหรือไม่ เพื่อจะให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยมีส่วนร่วมรับผิดชอบ
ด้านนักศึกษาชั้นปีที่ 1 อุเทนถวาย ที่มาร้องเรียน เล่าว่า ในมหาวิทยาลัยมีทั้งรุ่นพี่ที่ดีและรุ่นพี่ที่ใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มที่เรียนจบไปแล้วกลับมาร่วมรับน้อง ตนเข้าไปได้ 3 วัน ก็รู้สึกรับไม่ได้กับสิ่งที่ได้เจอ ทั้งการกดดันด้วยคำพูดคำด่าหยาบคาย เพื่อนบางคนถูกเวฟ หรือการเผาขน ทั้งขนรักแร้ และขนเพชร
ส่วนตนเคยโดนเรียกไปต่อยหน้าอก ทั้งนี้ ตนเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 และตั้งความหวังมาตลอดว่าต้องการจะเรียนที่อุเทนถวาย รู้ว่าจะมีกิจกรรมรับน้อง แต่ไม่คิดว่าจะรุนแรงถึงขนาดนี้ ขณะนี้ตัดสินใจไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งแล้ว และไม่คิดแจ้งความเอาผิดรุ่นพี่
นักศึกษาอีกคน เล่าว่า ในวันแรกกิจกรรมรับน้องยังไม่ค่อยกดดัน แต่พอวันที่ 2 เริ่มกดดันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลายคนโดนต่อย เพราะทิ้งเพื่อนให้วิ่งตามขึ้นตึกไม่พร้อมกัน วันต่อมาเริ่มมีกิจกรรมการกินพริก และลูกอม ที่ให้กินหรืออมเม็ดเดียวคายส่งให้กินร่วมกันทั้งห้อง ส่งต่อด้วยปากต่อปาก
อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่า ยังไม่ค่อยหนักเท่ากับการที่บังคับให้รุ่นน้องไปค้างบ้านรุ่นพี่ ตนกับเพื่อนรวม 3 คน ไปค้างที่ห้องพักของรุ่นพี่ที่มารับจำนวน 5 คน ช่วงแรกคุยตามปกติ แต่พอตกดึกขึ้น รุ่นพี่เริ่มเมา มีอารมณ์เสีย และลงไม้ลงมือ ให้ตนและเพื่อนถอดเสื้อออก และถูกเตะถูกถีบหน้าอก คืนนั้นถูกบังคับให้กินพริกเข้าไปเป็นขีด ไม่ยอมให้นอนพอเช้าก็ไม่ยอมให้กลับบ้าน
นักศึกษายังเล่าต่อไปว่า มีอยู่วันหนึ่งที่ภายในมหาวิทยาลัย รุ่นพี่เรียกน้องใหม่ขึ้นไปบนตึกเข้าไปในห้องทีละคน ในห้องมีรุ่นพี่อยู่ 2 คน ตนได้เข้าไป รุ่นพี่ให้ถอดกางเกงออก จากนั้นเอาสีสเปรย์มาฉีดพ่นปลายอวัยวะเพศและจุดไฟเผาขนเพชร รุ่นพี่ให้ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ก่อนจึงจะเป่าให้ไฟดับได้
“ที่ตัดสินใจมาเรียนอุเทนถวาย เพราะที่นี่ รุ่นพี่เขาไปเปิดบริษัทไว้รองรับรุ่นน้อง และมีโอกาสในการทำงานมากกว่า แต่ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้ เรื่องที่รุนแรงรับไม่ได้ คือ ถูกต่อยหน้าอก แม้ไม่มีแผลให้เห็น แต่ช้ำข้างใน ตอนนี้ไอก็เจ็บ หัวเราะก็เจ็บ” นักศึกษากล่าว
ที่มูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี คลอง 7 จ.ปทุมธานี มีนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย และผู้ปกครองรวมประมาณ 20 คน เดินทางมาร้องเรียนว่า ถูกบังคับให้เข้าร่วมกิจกรรมรับน้องใหม่ที่ใช้ความรุนแรง ถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ โดยต่างมีอาการหวาดหวั่น ไม่อยากให้ข้อมูล หรือเปิดเผยตัวกับผู้สื่อข่าว เพราะถูกรุ่นพี่ที่อุเทนถวายขู่ว่า หากนำเรื่องนี้ไปเปิดเผย จะตามไปทำร้ายถึงบ้าน
นางกฤษณา ต้นแทน มารดาของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 อุเทนถวาย ซึ่งเดินทางมาร่วมร้องเรียน กล่าวว่า สนับสนุนให้ลูกชายเข้าเรียนที่อุเทนถวาย เพราะเห็นมาตลอดว่ามีบริษัทต้องการตัว หากเรียนจบแล้วจะมีงานทำแน่นอน แต่ไม่คิดว่าลูกจะถูกทารุณเช่นนี้ ตั้งแต่เปิดภาคเรียนมาไม่กี่วัน ลูกต้องกลับบ้านดึกเที่ยงคืนทุกวัน และถูกเรียกตัวตั้งแต่ตี 3 เพื่อไปร่วมกิจกรรมรับน้อง และพบว่า ถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ ถูกฉีดสเปรย์และจุดไฟเผาขนเพชร ถูกชกที่หน้าอกจนเป็นรอยช้ำ ถูกบังคับให้จับปืนยิงใส่เพื่อน แต่ลูกไม่กล้ายิง รุ่นพี่ก็สั่งให้ยิงตัวเอง ทุกวันนี้ลูกตกอยู่ในความเครียดมาก และไม่กล้าไปที่สถาบันอีก ซึ่งตนคิดว่าคงจะไม่ให้ลูกไปเรียนอีกแล้ว ตั้งใจส่งลูกไปเรียน ไม่ใช่ส่งไปเป็นโจร อย่างไรก็ตาม ไม่อยากแจ้งความดำเนินคดี เพราะกลัวรุ่นพี่จะตามมาทำร้ายลูกถึงที่บ้าน
ต่อมา นางปวีณา หงสกุล ได้นำนักศึกษาและผู้ปกครองที่มาร้องเรียน เข้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง จากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งประกอบด้วย ฝ่ายนิติการของ สกอ.และ ผู้แทนอาจารย์จากอุเทนถวาย
นายสรรค์ วรอินทร์ ที่ปรึกษา สกอ.ในฐานะประธานกรรมการสอบข้อเท็จจริง กล่าวว่า นอกจากจะเก็บข้อมูลอย่างละเอียดจากนักศึกษาทุกคน เพื่อเอาผิดกับรุ่นพี่ที่ทำร้ายจิตใจละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของรุ่นน้องแล้ว จะตรวจสอบความเข้มงวดกวดขันของมหาวิทยาลัยด้วยว่า ได้ปฏิบัติตามระเบียบและประกาศกระทรวงศึกษาธิการอย่างเคร่งครัดหรือไม่ เพื่อจะให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยมีส่วนร่วมรับผิดชอบ
ด้านนักศึกษาชั้นปีที่ 1 อุเทนถวาย ที่มาร้องเรียน เล่าว่า ในมหาวิทยาลัยมีทั้งรุ่นพี่ที่ดีและรุ่นพี่ที่ใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มที่เรียนจบไปแล้วกลับมาร่วมรับน้อง ตนเข้าไปได้ 3 วัน ก็รู้สึกรับไม่ได้กับสิ่งที่ได้เจอ ทั้งการกดดันด้วยคำพูดคำด่าหยาบคาย เพื่อนบางคนถูกเวฟ หรือการเผาขน ทั้งขนรักแร้ และขนเพชร
ส่วนตนเคยโดนเรียกไปต่อยหน้าอก ทั้งนี้ ตนเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 และตั้งความหวังมาตลอดว่าต้องการจะเรียนที่อุเทนถวาย รู้ว่าจะมีกิจกรรมรับน้อง แต่ไม่คิดว่าจะรุนแรงถึงขนาดนี้ ขณะนี้ตัดสินใจไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งแล้ว และไม่คิดแจ้งความเอาผิดรุ่นพี่
นักศึกษาอีกคน เล่าว่า ในวันแรกกิจกรรมรับน้องยังไม่ค่อยกดดัน แต่พอวันที่ 2 เริ่มกดดันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลายคนโดนต่อย เพราะทิ้งเพื่อนให้วิ่งตามขึ้นตึกไม่พร้อมกัน วันต่อมาเริ่มมีกิจกรรมการกินพริก และลูกอม ที่ให้กินหรืออมเม็ดเดียวคายส่งให้กินร่วมกันทั้งห้อง ส่งต่อด้วยปากต่อปาก
อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่า ยังไม่ค่อยหนักเท่ากับการที่บังคับให้รุ่นน้องไปค้างบ้านรุ่นพี่ ตนกับเพื่อนรวม 3 คน ไปค้างที่ห้องพักของรุ่นพี่ที่มารับจำนวน 5 คน ช่วงแรกคุยตามปกติ แต่พอตกดึกขึ้น รุ่นพี่เริ่มเมา มีอารมณ์เสีย และลงไม้ลงมือ ให้ตนและเพื่อนถอดเสื้อออก และถูกเตะถูกถีบหน้าอก คืนนั้นถูกบังคับให้กินพริกเข้าไปเป็นขีด ไม่ยอมให้นอนพอเช้าก็ไม่ยอมให้กลับบ้าน
นักศึกษายังเล่าต่อไปว่า มีอยู่วันหนึ่งที่ภายในมหาวิทยาลัย รุ่นพี่เรียกน้องใหม่ขึ้นไปบนตึกเข้าไปในห้องทีละคน ในห้องมีรุ่นพี่อยู่ 2 คน ตนได้เข้าไป รุ่นพี่ให้ถอดกางเกงออก จากนั้นเอาสีสเปรย์มาฉีดพ่นปลายอวัยวะเพศและจุดไฟเผาขนเพชร รุ่นพี่ให้ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ก่อนจึงจะเป่าให้ไฟดับได้
“ที่ตัดสินใจมาเรียนอุเทนถวาย เพราะที่นี่ รุ่นพี่เขาไปเปิดบริษัทไว้รองรับรุ่นน้อง และมีโอกาสในการทำงานมากกว่า แต่ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้ เรื่องที่รุนแรงรับไม่ได้ คือ ถูกต่อยหน้าอก แม้ไม่มีแผลให้เห็น แต่ช้ำข้างใน ตอนนี้ไอก็เจ็บ หัวเราะก็เจ็บ” นักศึกษากล่าว
