“สุขุมพันธุ์” เดินหน้าตั้งคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการจัดหาทุนของ กทม.เพื่อศึกษาการออกพันธบัตร สลากการกุศลพิเศษ เงินกู้ แต่คาดออกสลากวงเงินพันล้านบาทได้เร็วสุดไม่เกินกลางปีหน้า ขณะที่เตรียมรีไฟแนนซ์บ้านให้กับข้าราชการกทม.อีก 4,200 ราย วงเงิน 2,100 ล้านบาท
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกทม.ว่า ในปีงบประมาณ 2552 กทม.ต้องปรับลดงบประมาณลงประมาณ 4,000 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจทำให้ กทม.จัดเก็บรายได้น้อยลง ขณะที่เงินอุดหนุนจากรัฐบาลก็น้อยลงเช่นกันเนื่องจากจัดเก็บภาษีได้น้อยลงซึ่งทำให้ กทม.จะต้องศึกษาให้รอบด้านหากจะลงทุนโครงการต่างๆและไม่ทำให้กทม.เป็นหนี้โดยคำนึงถึงความสามารถของ กทม.ในการผ่อนชำระในอนาคต
ทั้งนี้ กทม.เตรียมที่จะแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการจัดหาทุนของกทม.โดยขณะอยู่ขั้นตอนการยกร่างแต่งตั้งซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะเป็นผู้พิจารณาศึกษาความเป็นไปได้ในการการจัดหาเงินทุน กทม. ทั้งการออกพันธบัตร เงินกู้ และการออกสลากการกุศลพิเศษ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สามารถดำเนินการได้เร็วสุด คือ การออกสลากการกุศลพิเศษ ใช้เวลาไม่เกินกลางปีหน้า โดยเงินที่ได้จะต้องนำสร้างประโยชน์เพื่อประชาชนเป็นหลักทั้งการสร้างโรงพยาบาล โรงเรียน บ้านพักคนชรา บ้านพักสำหรับเด็กเร่ร่อน ส่วนจะถูกมองว่าเป็นการมอมเมาประชาชนหรือไม่นั้น กทม.มีเป้าหมายที่ชัดเจนจึงไม่น่าจะเป็นปัญหา
ขณะที่การออกพันธบัตรต้องใช้เวลา 1-2 ปี ส่วนการกู้เงินนั้นตนไม่มีความคิดในเรื่องนี้ อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อสรุปในเรื่องเหล่านี้และยังไม่ได้ตัดสินใจต้องรอให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการจัดหาทุนของ กทม.ให้แล้วเสร็จตลอดจนศึกษาวิธีการจัดหาเงินทุนให้เรียบร้อยก่อนจึงจะพิจารณาอีกครั้ง
นายธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ โฆษก กทม.กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับวงเงินการออกสลากการกุศลพิเศษนั้นอยู่ที่ 500-1,000 ล้านบาท โดยมีขั้นตอนคือเสนอความเห็นชอบผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ แล้วออกเป็นข้อบัญญัติ กทม.ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ กทม.พ.ศ.2528 ต่อไป
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าโครงการบ้านยิ้มสำหรับข้าราชการ-ลูกจ้าง กทม.นั้นเฟสต่อไปจะเดินหน้ารีไฟแนนซ์ให้แก่ข้าราชการ กทม.ที่ผ่อนชำระที่อยู่อาศัยอยู่แล้วและต้องการเข้าร่วมกับโครงการนี้ประมาณ 4,200 ราย ใช้วงเงินรวมประมาณ 2,100 ล้านบาท