อ้างกระแสโลกาภิวัฒน์ทำวิถีการอยู่อาศัยเปลี่ยน ผู้บริหารคอนโดเข้าฟ้อง วธ. เจอลูกบ้านเจ้าปัญหาทิ้งของเรี่ยราด ไร้ระเบียบ ปลัด วธ.ตามน้ำ เตรียมจัดระเบียบวัฒนธรรมคอนโดฯ ทำคู่มือจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังฯ 5 หมื่นเล่มแจกทุกจังหวัด-สถาบันการศึกษาขยายเครือข่ายงานทุกหน่วย
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวในงานประชุมสัมมนาพัฒนาระบบเครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม รุ่นที่ 4 กระทรวงวัฒนธรรม ว่า งานเฝ้าระวังฯ ในปัจจุบันกลายเป็นกลไกสำคัญในการดูแลและเป็นหูเป็นตาให้กับสังคมในหลายๆ ด้าน ทั้งทางภัยพิบัติ สาธารณสุข และอาชญากรรม อย่างไรก็ตาม งานเฝ้าระวังของ วธ.จะอาศัยเพียงการทำงานของกลุ่มเฝ้าระวังฯ ส่วนกลางไม่ได้ แต่ต้องอาศัการทำงานจากทั้งระดับภูมิภาคและอาศัยจิตสำนึกของประชาชนด้วยจึงจะเกิดประสิทธิภาพ
“ตามที่กลุ่มเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ได้ดำเนินการรณรงค์ให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดและสถานศึกษาต่างๆ มีกลุ่มเฝ้าระวังฯ นั้น วธ.ได้จัดทำคู่มือการจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม จำนวน 50,000 เล่ม เพื่อแจกจ่ายไปตามจังหวัดต่างๆ และในสถานศึกษา ขยายเครือข่ายศูนย์เฝ้าระวังฯ ให้เกิดอย่างครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย” นายวีระ กล่าว
นอกจากนี้ ปลัดวธ.ยังเปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้บริหารคอนโดมิเนียมได้เข้ามาพบตนเพื่อหารือและขอความร่วมมือกับกระทรวงวัฒนธรรมเพื่อขอให้ วธ.ช่วยสร้างวัฒนธรรมในคอนโดฯ ขึ้นมาใหม่เนื่องจากพบว่าปัจจุบันคนรุ่นใหม่ซึ่งมาจากต่างที่ต่างถิ่นนิยมอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมมากขึ้น แต่กลับพบปัญหาการอยู่ร่วมกัน และการใช้สมบัติส่วนรวม เช่น การโยนของจากชั้นบนลงชั้นล่าง ทิ้งก้นบุหรี่ วางรองเท้าระเกะระกะหน้าห้อง ทั้งนี้ ทาง วธ.ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาแล้ว โดยจะมีคณะกรรมการพิจารณาเพื่อร่วมกำหนดวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันในคอนโดมิเนียมต่อไป ซึ่งถือเป็นหนึ่งในงานเฝ้าระวังที่ต้องเท่าทันในยุคโลกาภิวัตน์ด้วย
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวในงานประชุมสัมมนาพัฒนาระบบเครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม รุ่นที่ 4 กระทรวงวัฒนธรรม ว่า งานเฝ้าระวังฯ ในปัจจุบันกลายเป็นกลไกสำคัญในการดูแลและเป็นหูเป็นตาให้กับสังคมในหลายๆ ด้าน ทั้งทางภัยพิบัติ สาธารณสุข และอาชญากรรม อย่างไรก็ตาม งานเฝ้าระวังของ วธ.จะอาศัยเพียงการทำงานของกลุ่มเฝ้าระวังฯ ส่วนกลางไม่ได้ แต่ต้องอาศัการทำงานจากทั้งระดับภูมิภาคและอาศัยจิตสำนึกของประชาชนด้วยจึงจะเกิดประสิทธิภาพ
“ตามที่กลุ่มเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ได้ดำเนินการรณรงค์ให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดและสถานศึกษาต่างๆ มีกลุ่มเฝ้าระวังฯ นั้น วธ.ได้จัดทำคู่มือการจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม จำนวน 50,000 เล่ม เพื่อแจกจ่ายไปตามจังหวัดต่างๆ และในสถานศึกษา ขยายเครือข่ายศูนย์เฝ้าระวังฯ ให้เกิดอย่างครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย” นายวีระ กล่าว
นอกจากนี้ ปลัดวธ.ยังเปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้บริหารคอนโดมิเนียมได้เข้ามาพบตนเพื่อหารือและขอความร่วมมือกับกระทรวงวัฒนธรรมเพื่อขอให้ วธ.ช่วยสร้างวัฒนธรรมในคอนโดฯ ขึ้นมาใหม่เนื่องจากพบว่าปัจจุบันคนรุ่นใหม่ซึ่งมาจากต่างที่ต่างถิ่นนิยมอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมมากขึ้น แต่กลับพบปัญหาการอยู่ร่วมกัน และการใช้สมบัติส่วนรวม เช่น การโยนของจากชั้นบนลงชั้นล่าง ทิ้งก้นบุหรี่ วางรองเท้าระเกะระกะหน้าห้อง ทั้งนี้ ทาง วธ.ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาแล้ว โดยจะมีคณะกรรมการพิจารณาเพื่อร่วมกำหนดวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันในคอนโดมิเนียมต่อไป ซึ่งถือเป็นหนึ่งในงานเฝ้าระวังที่ต้องเท่าทันในยุคโลกาภิวัตน์ด้วย