“ศิริราช” เผยหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ไม่รุนแรงเท่า H5N1 เตือนประชาชน ล้างมือสะอาด สวมหน้ากากอนามัยในที่ชุมชน ไม่ควรกินยาต้านไวรัสหวัดใหญ่หากมีไข้ต่ำ หรือไม่รุนแรง เพราะอาจทำให้เชื้อดื้อยา
วันนี้ (4 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จัดการบรรยายให้ความรู้แก่คณะแพทย์ และพยาบาล ตลอดจนประชาชนทั่วไป เพื่อทำความเข้าใจเรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และเตรียมรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาด ที่คาดว่าจะมาถึงประเทศไทยในเร็วๆ นี้
รศ.ดร.พิไลพันธ์ พุธวัฒนะ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ กล่าวว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เกิดจากการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส ติดต่อได้ง่ายจากคนสู่คน จึงเป็นผลให้เกิดการแพร่ระบาดทั่วโลก ซึ่งมีความแตกต่างจากไข้หวัดนก ที่ติดต่อจากสัตว์ปีกมาสู่คนได้ยาก โดยในอดีตประมาณ ค.ศ.1918 มีการระบาดของเชื้อไวรัส A (H1N1) รู้จักกันในนาม Spanish FLU. และในประเทศไทยเองก็มีการล้มตายมากเช่นกัน ซึ่งในสารศิริราชระบุว่าเชื้อ H1N1 มีอยู่ในหมูตั้งแต่ 60 ปีมาแล้ว แต่ไข้หวัดสายพันธุ์ที่พบในปัจจุบัน เป็นโมเดลใหม่โดยมีการผสมระหว่าง เชื้อหวัดที่อยู่ในสัตว์ปีก ในหมู และในมนุษย์
รศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ หัวหน้าสาขาโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช กล่าวว่า ความรุนแรงของ H1N1 ยังไม่รุนแรงเท่า H5N1 เนื่องจากอัตราการตายในประเทศแพร่เชื้อ คือ เม็กซิโกมีเพียง 5% ขณะที่ในสหรัฐอเมริกามี 0.5% แต่อย่างไรก็ตาม อัตราการติดต่อจากคนสู่คนของ H1N1 ยังติดต่อได้ง่ายกว่า ดังนั้น หากประเทศไทยควบคุมอัตราการติดต่อให้ได้น้อยกว่า 5% ความน่ากลัวของ H1N1 ก็จะลดลง อย่างไรก็ตามขอเตือนประชาชนที่มีอาการไข้สูง ปวดหัว ไอ ซึ่งเป็นอาการทั่วไปของไข้หวัดใหญ่ ให้รีบมาพบแพทย์ทันที อย่ารับประทานยาแอสไพริน ไม่ใช้สารสเตียร์รอย หรือยาพ่น เพราะอาจทำให้เชื้อฟุ้งกระจายในอากาศ และอาจจะเป็นอันตรายกับคนข้างเคียงได้ โดยการป้องกันต้องหมั่นล้างมือให้สะอาด หากเป็นไปได้ควรพกแอลกอฮอลล์เจลติดตัวไว้ สวมหน้ากากอนามัยในสถานที่ที่มีผู้คนหนาแน่น
“อยากจะแนะนำมารยาทในการไอ การไอแต่ละครั้งต้องไอใส่ทิชชู เมื่อไอเสร็จแล้วให้ทิ้งทิชชู่ทันที หลีกเลี่ยงการไอใส่ผ้าเช็ดหน้าเพราะเป็นอันตราย เนื่องจากมีเชื้อโรคสะสมอยู่มาก กรณีที่ไม่มีทิชชู่ให้ยกแขนขึ้นมาระดับจมูก แล้วก้มหน้าแนบกับต้นแขนแล้วจึงไอ”
รศ.พญ.กุลกัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่ายังไม่มีข้อมูลยืนยันว่า การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดตามฤดูกาล จะช่วยป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้ แต่โดยส่วนตัวขอแนะนำให้ประชาชนไปรับวัคซีน โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็ก เชื่อว่าจะช่วยบรรเทาอัตราการตายให้น้อยลงได้ อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้ทานยาทามิฟูล(Tamiflu) โดยที่ไม่มีอาการไข้ หรือมีแต่ไม่รุนแรงจะทำให้ดื้อยา และเกิดอาการข้างเคียงคือจะเกิดภาพหลอน ซึ่งการได้รับยาชนิดนี้ ต้องรอให้แพทย์สั่งเท่านั้น และความพร้อมของคณะแพทย์ศิริราช ขณะนี้มีความพร้อมที่จะดูแลผู้ป่วยได้ หากมีผู้ติดเชื้อในประเทศไทย และเชื่อว่า 6 มาตรการป้องกันการระบาดของกระทรวงสาธารณสุข จะสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดในประเทศไทยได้ ซึ่งหากมีข้อสงสัยประชาชนสามารถเข้าไปติดตามข้อมูล และวิธีป้องกันตนเองได้ที่ www.moph.go.th
รวมข่าวเกี่ยวเนื่องโรคหวัดเม็กซิโกในประเทศไทย
รู้จัก “ไวรัสไข้หวัดหมู” มฤตยูสายพันธุ์ล่าสุด!
สธ.สั่งจับตาหวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ในเม็กซิโกใกล้ชิด ยันไม่พบเชื้อนี้ในไทย ปชช.ไม่ต้องกังวล
คุมเข้ม! ตั้งด่านวัดอุณหภูมิ สนามบินสุวรรณภูมิสกัดหวัดหมู เน้นขาเข้าจากเม็กซิโก-อเมริกา
สธ.เปิดสายด่วนไข้หวัดหมู ป้องกันประชาชนตระหนก
สธ.รับมือ “หวัดหมู” กระจายยาสำหรับ 3 แสนคน WHO เผยติดจากคนสู่คน
แพทย์ระบุ “หวัดหมู” รุนแรงน้อยกว่าหวัดนก แต่กระจายได้มากกว่า
“สุวรรณภูมิ” จับตา 8 เที่ยวบินจากเม็กซิโก ยังไม่พบติดเชื้อหมูมรณะ
สธ.เตรียมใช้แผนรับหวัดนก หาก WHO เพิ่มความรุนแรง “หวัดหมู” เตรียมทำคู่มือแจกปชช.
รับมือ “ไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก” (ฉบับประชาชน)/เอมอร คชเสนี
WHO ยกระดับ “หวัดเม็กซิโก” ระดับ 4-สธ.ชง ครม.ตั้งกรรมการคุมระบาด
สธ.เฝ้าระวัง "หวัดเม็กซิโก"เข้มข้น คัดกรองทุกสนามบิน วอนคนไทยเลี่ยงไปพื้นที่ระบาด
ครม.ตั้ง “เสธ.หนั่น” นั่งประธานคุม “หวัดเม็กซิโก”
ด่วน! ไทยพบผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อ “หวัดเม็กซิโก” หลังกลับจากเมืองจังโก้ รพ.จุฬาฯ แถลง 4 โมงเย็นนี้
จุฬาฯ แถลงพบหญิงผู้ป่วยเฝ้าระวัง “หวัดจังโก” วัย 42 ปี ลุ้นผลแล็บคืนนี้
ไทยโล่ง! ผลตรวจผู้ป่วยต้องสงสัย แค่หวัดธรรมดา-สธ.ออกแถลงการณ์ ฉ.1
คำแนะนำ สธ.เรื่องโรคไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในเม็กซิโก ฉบับที่ 1
จุฬาฯ แถลงชัดสาวใหญ่ป่วยหวัดใหญ่ธรรมดา ไม่ใช่หวัดเม็กซิโก
กรมการจัดหางานเตรียมพร้อมอพยพแรงงานไทยหาก “หวัดเม็กซิโก” คุมไม่อยู่
กทม.ร่อนสารแจ้งโรงแรมทั่วกรุงเฝ้าระวังหวัดเม็กซิโก หวั่นนักท่องเที่ยวนำเชื้อ
รับมือ “ไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก”/ศ.นพ.ประเสริฐ เอื้อวรากุล ภาควิชาจุลชีววิทยา
สธ.ออกคำแนะนำเรื่อง “หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009” ฉบับที่ 2
แพทย์จุฬาฯ ปรับวิธีตรวจหาเชื้อไวรัสแค่ 4 ชม.รู้ผล - อเมริกาส่งเชื้อหวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ให้วิจัยถึงไทยจันทร์นี้
สธ.เตรียมรับคนไทยกลุ่มแรกจากเม็กซิโก จัดทีมแพทย์ตรวจยิบ
ตื่นหวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ 2009! อภ.เผยปชช.โทร.ซื้อ"โอเซลทามิเวียร์" เพียบ ระบุต้องหมอสั่ง ซื้อทั่วไปไม่ได้
สธ.เพิ่มมาตรการเข้มหลังหวัดใหญ่ 2009 ลามถึงฮ่องกง-เกาหลีใต้ ไทยเหลือผู้ป่วยเฝ้าระวัง 2 ราย
“เสธ.หนั่น” ตรวจด่านคุมโรคสุวรรณภูมิ เพิ่มเทอร์โมสแกนเต็มพิกัด 6 จุด เผยยังไม่พบหวัดใหญ่ 2009
ทูตเม็กซิโกประจำประเทศไทยทำหนังสือขอบคุณ สธ.ช่วยให้ข้อมูลหวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ถูกต้อง
“มาร์ค” ยันไทยยังไม่ติดหวัด 2009 กทม.ระดมเขต-อสม.-อปพร.มอบนโยบายป้องกัน
ทูลกระหม่อมหญิงฯทรงแนะ สธ.เข้มมาตรการระวังสูง “หวัด 2009” ให้สูงกว่ามาตรฐานเพื่อความมั่นใจ
สธ.ยังไม่ห้ามคนไทยเข้า 16 พื้นที่ระบาด-จัดทีมแพทย์รับคนไทยจากเม็กซิโกถึงสนามบินคืนนี้
ยันคนไทยเฝ้าระวังปลอดหวัด 2009 แนะเดินทาง ตปท.ควรสังเกตอาการตัวเอง
“วิทยา” นำทีม สธ.รับครูและ นร.AFS จากเม็กซิโก-เผยผลตรวจ ด.ช.11 เดือนบุรีรัมย์ไม่ติดหวัด 2009
สธ.เผยผลตรวจ 14 นร.ไทยกลับจากเม็กซิโก มีไข้สูง 1 ราย เจ็บคอ มีน้ำมูก 2 ราย
“วิทยา” จวก ตม.สุวรรณภูมิควบคุมหวัด 2009 หละหลวม ไม่สวมหน้ากาก หวั่นเอาไม่อยู่
แนะเลิกเหล้า-บุหรี่ ป้องกันหวัดสายพันธุ์ใหม่ได้
วันนี้ (4 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จัดการบรรยายให้ความรู้แก่คณะแพทย์ และพยาบาล ตลอดจนประชาชนทั่วไป เพื่อทำความเข้าใจเรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และเตรียมรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาด ที่คาดว่าจะมาถึงประเทศไทยในเร็วๆ นี้
รศ.ดร.พิไลพันธ์ พุธวัฒนะ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ กล่าวว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เกิดจากการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส ติดต่อได้ง่ายจากคนสู่คน จึงเป็นผลให้เกิดการแพร่ระบาดทั่วโลก ซึ่งมีความแตกต่างจากไข้หวัดนก ที่ติดต่อจากสัตว์ปีกมาสู่คนได้ยาก โดยในอดีตประมาณ ค.ศ.1918 มีการระบาดของเชื้อไวรัส A (H1N1) รู้จักกันในนาม Spanish FLU. และในประเทศไทยเองก็มีการล้มตายมากเช่นกัน ซึ่งในสารศิริราชระบุว่าเชื้อ H1N1 มีอยู่ในหมูตั้งแต่ 60 ปีมาแล้ว แต่ไข้หวัดสายพันธุ์ที่พบในปัจจุบัน เป็นโมเดลใหม่โดยมีการผสมระหว่าง เชื้อหวัดที่อยู่ในสัตว์ปีก ในหมู และในมนุษย์
รศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ หัวหน้าสาขาโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช กล่าวว่า ความรุนแรงของ H1N1 ยังไม่รุนแรงเท่า H5N1 เนื่องจากอัตราการตายในประเทศแพร่เชื้อ คือ เม็กซิโกมีเพียง 5% ขณะที่ในสหรัฐอเมริกามี 0.5% แต่อย่างไรก็ตาม อัตราการติดต่อจากคนสู่คนของ H1N1 ยังติดต่อได้ง่ายกว่า ดังนั้น หากประเทศไทยควบคุมอัตราการติดต่อให้ได้น้อยกว่า 5% ความน่ากลัวของ H1N1 ก็จะลดลง อย่างไรก็ตามขอเตือนประชาชนที่มีอาการไข้สูง ปวดหัว ไอ ซึ่งเป็นอาการทั่วไปของไข้หวัดใหญ่ ให้รีบมาพบแพทย์ทันที อย่ารับประทานยาแอสไพริน ไม่ใช้สารสเตียร์รอย หรือยาพ่น เพราะอาจทำให้เชื้อฟุ้งกระจายในอากาศ และอาจจะเป็นอันตรายกับคนข้างเคียงได้ โดยการป้องกันต้องหมั่นล้างมือให้สะอาด หากเป็นไปได้ควรพกแอลกอฮอลล์เจลติดตัวไว้ สวมหน้ากากอนามัยในสถานที่ที่มีผู้คนหนาแน่น
“อยากจะแนะนำมารยาทในการไอ การไอแต่ละครั้งต้องไอใส่ทิชชู เมื่อไอเสร็จแล้วให้ทิ้งทิชชู่ทันที หลีกเลี่ยงการไอใส่ผ้าเช็ดหน้าเพราะเป็นอันตราย เนื่องจากมีเชื้อโรคสะสมอยู่มาก กรณีที่ไม่มีทิชชู่ให้ยกแขนขึ้นมาระดับจมูก แล้วก้มหน้าแนบกับต้นแขนแล้วจึงไอ”
รศ.พญ.กุลกัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่ายังไม่มีข้อมูลยืนยันว่า การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดตามฤดูกาล จะช่วยป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้ แต่โดยส่วนตัวขอแนะนำให้ประชาชนไปรับวัคซีน โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็ก เชื่อว่าจะช่วยบรรเทาอัตราการตายให้น้อยลงได้ อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้ทานยาทามิฟูล(Tamiflu) โดยที่ไม่มีอาการไข้ หรือมีแต่ไม่รุนแรงจะทำให้ดื้อยา และเกิดอาการข้างเคียงคือจะเกิดภาพหลอน ซึ่งการได้รับยาชนิดนี้ ต้องรอให้แพทย์สั่งเท่านั้น และความพร้อมของคณะแพทย์ศิริราช ขณะนี้มีความพร้อมที่จะดูแลผู้ป่วยได้ หากมีผู้ติดเชื้อในประเทศไทย และเชื่อว่า 6 มาตรการป้องกันการระบาดของกระทรวงสาธารณสุข จะสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดในประเทศไทยได้ ซึ่งหากมีข้อสงสัยประชาชนสามารถเข้าไปติดตามข้อมูล และวิธีป้องกันตนเองได้ที่ www.moph.go.th
รวมข่าวเกี่ยวเนื่องโรคหวัดเม็กซิโกในประเทศไทย