xs
xsm
sm
md
lg

“จุรินทร์” ชู 3 ยุทธศาสตร์ดันรักการอ่านเป็นวาระแห่งชาติ ขอเวลา 1 เดือนชงเข้า ครม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ
“จุรินทร์” เตรียมดัน 3 ยุทธศาสตร์รักการอ่านเป็นวาระแห่งชาติ หวังปลูกฝังคนไทยอ่านภาษาไทยแตก ขอเวลาทำงาน 1 เดือนเก็บสถิติการอ่านหนังสือของคนไทยก่อนดันเข้า ครม.

วันนี้ (29 เม.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการอ่าน เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต ว่า ครั้งนี้เป็นการประชุมนัดแรก โดยมีเป้าหมายให้การส่งเสริมรักการอ่านเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อนำไปสู่การนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งวันที่ 2 เม.ย.เป็นวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี กำหนดให้เป็นวันส่งเสริมรักการอ่าน และผลการประชุมวันนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบ 3 ยุทธศาสตร์ คือ ยุทธศาสตร์ที่ 1 ทำให้คนไทยทุกคนอ่านหนังสือแตก หรืออย่างน้อยที่สุดอ่านภาษาไทยแตก ยุทธศาสตร์ที่ 2 ต้องการสร้างนิสัยรักการอ่านให้เกิดขึ้นกับคนไทยทุกคน และยุทธศาสตร์ที่ 3 สร้างสิ่งแวดล้อมรักการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทย อย่างแท้จริง

ทั้ง 3 ยุทธศาสตร์ที่กล่าวมานั้น จะมีคณะทำงาน เพื่อดำเนินการแปลงยุทธศาสตร์มาเป็นโครงการ มีรายละเอียด ใครเป็นเจ้าภาพ ใช้เงินเท่าไหร่ ขณะเดียวกัน จะมีการกำหนดกิจกรรมอย่างชัดเจนว่ามีอะไรบ้าง นอกจากนี้ยังนำต้นแบบของต่างประเทศมาใช้ประกอบ เพื่อย่นระยะเวลาในการทำงาน และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในการรณรงค์ โดยทุกอย่างจะทำอย่างให้ครบวงจร ทั้งนี้ ภายใน 1 เดือน คณะทำงานจะนำเสนอต่อที่ประชุมอีกครั้ง จากนั้น ตนจะนำเสนอเข้าสู่ ครม.ต่อไป

อย่างไรก็ตาม การส่งเสริมการรักการอ่านนั้น จะมีการการประเมินผลโดยจะมีการกำหนดตัวชี้วัดว่ามีอะไรบ้าง เช่นทำให้คนไทยทุกคนมีความสามารถในการอ่าน โดยจะมีตัวเลขว่าปัจจุบันคนไทยอ่านหนังสือไทยไม่แตก ไม่ออก จำนวนเท่าไหร่ อย่างน้อยที่สุดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกโรงเรียนและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) จะเป็นหน่วยงานหลัก พร้อมกันนี้จะต้องวางแผนด้วยว่าภายในกี่ปีตัวเลขคนไทยอ่านหนังสือจะขึ้นมาเท่าไหร่ สำหรับการสร้างนิสัยรักการอ่าน ต้องมีการกำหนดว่าภายใน 1 ปี 3 ปี 5 ปี ตัวเลขจะต้องเพิ่มแค่ไหน เช่นเดียวกับการสร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อม จะต้องทำแบบเดียวกัน

“คณะทำงาน มอบให้ กศน.เป็นเจ้าภาพ มีอาสาสมัคร มีคนนอก มาร่วมกันกำหนดรายละเอียดของยุทธศาสตร์ จากนั้นก็แบ่งให้ชัดเจนว่าใครดูแลยุทธศาสตร์ไหน และจะมีการวัดผลรายปี ราย 3 ปี 5 ปี คือ จะมีการวัดผลเป็นระยะๆ เพื่อดูว่าคนไทยอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นแค่ไหน”

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการเพิ่มห้องสมุดหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า จะเป็นรายละเอียดที่คณะทำงาน อาจจะมีการสร้างบรรยากาศหรือสร้างห้องสมุดทั้งในโรงเรียน นอกโรงเรียน ห้องสมุดประชาชน ส่วนทิศทางการบริหารจะเป็นอย่างไรถ้าหากมีเงินจำกัด เรื่องนี้ตนเคยให้นโยบายไปบ้างแล้ว เช่น ห้องสมุดประชาชน เน้นเรื่องซอฟแวร์ ตัวหนังสือ กลไกต่างๆ มากกว่าการก่อสร้างอาคาร ถ้าลดความสำคัญของการก่อสร้างแล้วไปใช้อาคารเก่า หรือปรับปรุงให้ทันสมัยมากขึ้นและนำเงินไปซื้อหนังสือ จะเป็นประโยชน์ ทิศทางการทำงานคงประมาณนี้ อย่างไรก็ตาม ขอให้คณะทำงานไปคิดอย่างอื่นด้วย

พระมหาวุฒิชัย ว.วชิรเมธี พระนักวิชาการ พระนักคิด นักเขียน ในฐานะที่ปรึกษา แสดงความเห็นว่า การพัฒนาคนจะต้องส่งเสริมให้คนรักการอ่าน และลงลึกถึงวัฒนธรรมการอ่าน โดยจะต้องเน้น 3 ข้อ คือ 1.ปลุกให้ตื่น 2.ยืนให้มั่นคง 3.ลงลึกถึงวัฒนธรรม อาตมาได้เสนอในที่ประชุมว่า คณะทำงานชุดนี้ควรจะมีอายุยืนกว่ารัฐบาล ไม่ใช่รัฐบาลชุดนี้ไปเรื่องที่มาทำกันก็จบตามรัฐบาลไปด้วย ที่ผ่านมาไปให้ความสำคัญกับการสร้างสะพาน สร้างวัตถุ ส่งเสริมให้คนรักการอ่านน้อย ดังนั้น หากเราสามารถส่งเสริมให้คนรักการอ่านได้อย่างจริงจัง จะทำให้คนที่คิดจะทำอะไรนั้น คิดก่อนทำเสมอ

“ต้องส่งเสริมให้คนรักการอ่าน การอ่านจะทำให้เรามีปัญญา สามารถพัฒนาให้เป็นคนสมบูรณ์ได้ เพราะการอ่านสร้างปัญญา ปัญญาสร้างคน ประเทศที่มีวัฒนธรรมเข้มแข็งก็จะทำให้ประเทศที่มีความเข้มแข็งไปด้วย ตรงกันข้าม ปัจจุบันสังคมเราเป็นสังคมความรู้สึก เพราะใช้ความรู้สึกตัดสิน”

พระมหาวุฒิชัย ว.วชิรเมธี พระนักวิชาการ พระนักคิด นักเขียน ในฐานะที่ปรึกษา แสดงความเห็นว่า การพัฒนาคนจะต้องส่งเสริมให้คนรักการอ่าน และลงลึกถึงวัฒนธรรมการอ่าน โดยจะต้องเน้น 3 ข้อ คือ 1.ปลุกให้ตื่น 2.ยืนให้มั่นคง 3.ลงลึกถึงวัฒนธรรม อาตมาได้เสนอในที่ประชุมว่า คณะทำงานชุดนี้ควรจะมีอายุยืนกว่ารัฐบาล ไม่ใช่รัฐบาลชุดนี้ไปเรื่องที่มาทำกันก็จบตามรัฐบาลไปด้วย ที่ผ่านมาไปให้ความสำคัญกับการสร้างสะพาน สร้างวัตถุ ส่งเสริมให้คนรักการอ่านน้อย ดังนั้น หากเราสามารถส่งเสริมให้คนรักการอ่านได้อย่างจริงจัง จะทำให้คนที่คิดจะทำอะไรนั้น คิดก่อนทำเสมอ

“ต้องส่งเสริมให้คนรักการอ่าน การอ่านจะทำให้เรามีปัญญา สามารถพัฒนาให้เป็นคนสมบูรณ์ได้ เพราะการอ่านสร้างปัญญา ปัญญาสร้างคน ประเทศที่มีวัฒนธรรมเข้มแข็งก็จะทำให้ประเทศที่มีความเข้มแข็งไปด้วย ตรงกันข้าม ปัจจุบันสังคมเราเป็นสังคมความรู้สึก เพราะใช้ความรู้สึกตัดสิน”
กำลังโหลดความคิดเห็น