“อิสสระ” ยันผลสอบ “ปลาป๋องเน่า” ยังไม่ถึงมือ หลัง “วิเชน สงมาก” โผล่ให้ข้อมูลแก่คณะกรรมการสอบฯ ย้ำ ผลสรุปต้องตอบคำถามสังคมได้ ปัดไม่เคยซื้อเวลาช่วยเหลือใครเหตุผลตรวจสอบล่าช้า ชี้ หากข้อสรุปออกมายังไม่เคลียร์พร้อมสั่งสอบเพิ่มเติมเพื่อความชัดเจน
วันนี้ (22 เม.ย.) นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงผลการสอบสวนกรณีปัญหาปลากระป๋องในถุงยังชีพไม่ได้คุณภาพ ภายหลังจากที่ นายวิเชน สงมาก เข้าให้ปากคำกับคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ชุดของกระทรวง พม.ที่มี นางกานดา วัชราภัย รองปลัดกระทรวง พม.เป็นประธาน เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า จนถึงขณะนี้ นางกานดา ยังไม่ได้สรุปผลมาที่ตน เข้าใจว่า คงอยู่ระหว่างการสรุปสำนวน ซึ่งเมื่อผลออกมาอย่างไรนั้น คณะกรรมการจะต้องสามารถชี้แจงกับสังคมได้ เนื่องจากเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคม ทั้งนี้ สาเหตุที่คณะกรรมการดำเนินการสอบสวนล่าช้ากว่าปกติ เนื่องจากติดวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์เป็นเวลากว่า 10 วัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องการซื้อเวลาเพื่อช่วยเหลือใครแต่อย่างใด
“ก่อนหน้านี้ ผมได้ให้นโยบายกับคณะกรรมการว่าต้องทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา แต่หลังจากนั้น ก็ไม่เคยพูดคุยกับกรรมการคนไหนอีก เนื่องจากไม่ต้องการเข้าไปแทรกแซงกระบวนการ และเชื่อว่า ผลการสอบสวนของคณะกรรมการชุดนี้น่าจะให้คำตอบที่ชัดเจนกับสังคมได้ เพราะมีคนนอกกระทรวงที่น่าเชื่อถือร่วมเป็นกรรมการด้วย อย่างไรก็ตามหากสรุปผลมาที่ผมแล้ว และเห็นว่า มีประเด็นที่ยังไม่เคลียร์ ก็เป็นอำนาจของผมที่จะต้องให้คณะกรรมการไปสอบสวนเพิ่มเติมได้”นายอิสสระ กล่าว
วันนี้ (22 เม.ย.) นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงผลการสอบสวนกรณีปัญหาปลากระป๋องในถุงยังชีพไม่ได้คุณภาพ ภายหลังจากที่ นายวิเชน สงมาก เข้าให้ปากคำกับคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ชุดของกระทรวง พม.ที่มี นางกานดา วัชราภัย รองปลัดกระทรวง พม.เป็นประธาน เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า จนถึงขณะนี้ นางกานดา ยังไม่ได้สรุปผลมาที่ตน เข้าใจว่า คงอยู่ระหว่างการสรุปสำนวน ซึ่งเมื่อผลออกมาอย่างไรนั้น คณะกรรมการจะต้องสามารถชี้แจงกับสังคมได้ เนื่องจากเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคม ทั้งนี้ สาเหตุที่คณะกรรมการดำเนินการสอบสวนล่าช้ากว่าปกติ เนื่องจากติดวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์เป็นเวลากว่า 10 วัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องการซื้อเวลาเพื่อช่วยเหลือใครแต่อย่างใด
“ก่อนหน้านี้ ผมได้ให้นโยบายกับคณะกรรมการว่าต้องทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา แต่หลังจากนั้น ก็ไม่เคยพูดคุยกับกรรมการคนไหนอีก เนื่องจากไม่ต้องการเข้าไปแทรกแซงกระบวนการ และเชื่อว่า ผลการสอบสวนของคณะกรรมการชุดนี้น่าจะให้คำตอบที่ชัดเจนกับสังคมได้ เพราะมีคนนอกกระทรวงที่น่าเชื่อถือร่วมเป็นกรรมการด้วย อย่างไรก็ตามหากสรุปผลมาที่ผมแล้ว และเห็นว่า มีประเด็นที่ยังไม่เคลียร์ ก็เป็นอำนาจของผมที่จะต้องให้คณะกรรมการไปสอบสวนเพิ่มเติมได้”นายอิสสระ กล่าว