วธ.เร่งซ่อมมัสยิดพญาไท น้ำมือ “แดงถ่อย” เบื้องต้นเสียหายภายนอกไม่มาก แต่ทำลายจิตใจชาวบ้านใหญ่หลวง รองอธิบดีกรมการศาสนาวอนอย่าเอาศาสนามายุ่งกับการเมือง ชี้เป็นจุดเปราะบาง
จากเหตุการณ์การจลาจลทางการเมืองโดยกลุ่มคนเสื้อแดง ได้ยิงปืนลูกซองใส่กลุ่มชาวมุสลิม และยิงเข้าไปยังกระจกมัสยิดดารู้ลอะมาน (มัสยิดพญาไท) ละแวกถนนเพชรบุรี ซอย 7 จนได้รับความเสียหาย พร้อมกับทุบทำลายทรัพย์สินของชาวบ้านในชุมชนนั้น
นายปกรณ์ ตันสกุล รองอธิบดีกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรมได้มอบหมายให้ตนนำเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบความเสียหายของมัสยิดดังกล่าวแล้ว พบว่ามีส่วนที่เสียหายเพียงเล็กน้อย ได้แก่ กระจกบานใหญ่ 1 บาน และบอร์ดขนาดใหญ่ อีก 1 บอร์ด โดยเจ้าหน้าที่และชาวบ้านสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากการใช้ปืนยิงเข้ามา หรือไม่ก็ใช้วัตถุแข็งขว้างปาเข้ามาภายในมัสยิดเพื่อเป็นการก่อกวนและสร้างความเสียหาย
รองอธิบดีกรมการศาสนากล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นได้ประเมินความเสียหายของมัสยิด ประมาณ 30,000 บาท โดยกรมการศาสนา จะใช้งบประมาณวินาศภัย โดยเป็นงบประมาณที่ใช้ในการช่วยเหลือในเหตุการณ์ภัยที่ไม่เกิดขึ้นด้วยตนเอง เพื่อใช้ในการบูรณะซ่อมแซมมัสยิดอย่างเร่งด่วน ซึ่งในส่วนของชาวบ้านก็มีความพอใจในการช่วยเหลือดูแลของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ตนขอฝากไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงใดๆ ก็ตามว่า การชุมนุมประท้วงสามารถทำได้ ไม่มีใครว่า แต่ขอร้องว่าอย่าได้ไปทำลายศาสนสถาน ซึ่งเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาทุกศาสนา รวมทั้งยังเป็นสถานที่ศูนย์รวมความศรัทธาของศาสนิกชนทุกศาสนา การทำลายศาสนสถานไม่ว่าจะเป็นศาสนาใด ถึงแม้จะเสียหายเพียงเล็กน้อย ก็เปรียบเสมือนกับการได้ทำลายจิตใจของศาสนิกของศาสนานั้นๆ จึงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนอย่างมาก
“หากผู้ชุมนุมได้คิดถึงจิตใจคนไทยด้วยกัน ก็คงไม่ทำลายมัสยิด อย่างน้อยอยากให้คิดว่า ถ้าพวกเขาเป็นผู้ถูกทำลายแล้ว จะรู้สึกอย่างไร และขอเตือนว่า อย่าเอาเรื่องการเมืองมายุ่งเกี่ยวกับศาสนา หากประชาชนไม่สามารถแยกแยะได้ต่อไปประเทศชาติก็จะล่มจม”นายปกรณ์ กล่าว
จากเหตุการณ์การจลาจลทางการเมืองโดยกลุ่มคนเสื้อแดง ได้ยิงปืนลูกซองใส่กลุ่มชาวมุสลิม และยิงเข้าไปยังกระจกมัสยิดดารู้ลอะมาน (มัสยิดพญาไท) ละแวกถนนเพชรบุรี ซอย 7 จนได้รับความเสียหาย พร้อมกับทุบทำลายทรัพย์สินของชาวบ้านในชุมชนนั้น
นายปกรณ์ ตันสกุล รองอธิบดีกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรมได้มอบหมายให้ตนนำเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบความเสียหายของมัสยิดดังกล่าวแล้ว พบว่ามีส่วนที่เสียหายเพียงเล็กน้อย ได้แก่ กระจกบานใหญ่ 1 บาน และบอร์ดขนาดใหญ่ อีก 1 บอร์ด โดยเจ้าหน้าที่และชาวบ้านสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากการใช้ปืนยิงเข้ามา หรือไม่ก็ใช้วัตถุแข็งขว้างปาเข้ามาภายในมัสยิดเพื่อเป็นการก่อกวนและสร้างความเสียหาย
รองอธิบดีกรมการศาสนากล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นได้ประเมินความเสียหายของมัสยิด ประมาณ 30,000 บาท โดยกรมการศาสนา จะใช้งบประมาณวินาศภัย โดยเป็นงบประมาณที่ใช้ในการช่วยเหลือในเหตุการณ์ภัยที่ไม่เกิดขึ้นด้วยตนเอง เพื่อใช้ในการบูรณะซ่อมแซมมัสยิดอย่างเร่งด่วน ซึ่งในส่วนของชาวบ้านก็มีความพอใจในการช่วยเหลือดูแลของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ตนขอฝากไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงใดๆ ก็ตามว่า การชุมนุมประท้วงสามารถทำได้ ไม่มีใครว่า แต่ขอร้องว่าอย่าได้ไปทำลายศาสนสถาน ซึ่งเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาทุกศาสนา รวมทั้งยังเป็นสถานที่ศูนย์รวมความศรัทธาของศาสนิกชนทุกศาสนา การทำลายศาสนสถานไม่ว่าจะเป็นศาสนาใด ถึงแม้จะเสียหายเพียงเล็กน้อย ก็เปรียบเสมือนกับการได้ทำลายจิตใจของศาสนิกของศาสนานั้นๆ จึงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนอย่างมาก
“หากผู้ชุมนุมได้คิดถึงจิตใจคนไทยด้วยกัน ก็คงไม่ทำลายมัสยิด อย่างน้อยอยากให้คิดว่า ถ้าพวกเขาเป็นผู้ถูกทำลายแล้ว จะรู้สึกอย่างไร และขอเตือนว่า อย่าเอาเรื่องการเมืองมายุ่งเกี่ยวกับศาสนา หากประชาชนไม่สามารถแยกแยะได้ต่อไปประเทศชาติก็จะล่มจม”นายปกรณ์ กล่าว
