xs
xsm
sm
md
lg

“กษิต” - สมาคมนักข่าวฯ ส่งแจกันเยี่ยม “สนธิ” พันธมิตรหลั่งไหลเซ็นสมุดเยี่ยม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“กษิต ภิรมย์” - เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ - สมาคมนักข่าวฯ ส่งแจกันเยี่ยม “สนธิ” หลังสัตว์นรกลอบกัดซัลโวอาวุธสงครามจนรถพรุน กระสุนเจาะฝังกะโหลกจนแพทย์ต้องผ่าตัดนานถึง 2 ชั่วโมง ด้านพันธมิตรฯ ทยอยลงชื่อในสมุดเซ็นเยี่่ยมอย่างต่อเนื่อง

วันนี้ (17 เม.ย.) เวลาประมาณ 12.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีการนำโต๊ะวางสมุดเยี่ยมมาตั้งไว้บริเวณด้านล่างของอาคารเพชรรัตน์ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ซึ่งมีพันธมิตรฯ มาลงชื่อเยี่ยมนายสนธิอย่างต่อเนื่อง

ด้านนางศรีวรรณา เสตะจิตติ พันธมิตรฯ จากสะพานใหม่กล่าวว่า รู้สึกเสียใจและตกใจที่คนดีๆ ต้องเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ตอนนี้พูดอะไรไม่ออก ทราบข่าวการลอบทำร้ายตอนประมาณ 06.00 น. รู้สึกแปลกใจเพราะรอดูรายการที่คุณสนธิจะต้องมาจัดแต่ไม่เห็น พอทราบข่าวก็ร้องไห้เพราะคิดว่าจะไม่รอด เพราะอาวุธที่ใช้ก่อเหตุเป็นอาวุธสงครามร้ายแรง เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง

น.ส.มัณฑนา ปัณณเมทา พันธมิตรฯ จังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า ทราบข่าวในช่วงเช้าก็เดินทางมาทันที พอทราบอาการเบื้องต้นว่าปลอดภัยก็สบายใจ อยากให้คุณสนธิสู้ต่อไป เพราะเป็นบุคคลผู้ทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อประเทศชาติ และเราชาวพันธมิตรฯ ทุกคนจะยืนเคียงข้างคุณสนธิ และเป็นกำลังใจให้ตลอดไป

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีแจกันดอกไม้จากนายกษิต ภิรมย์ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ และแจกันดอกไม้จากเลขานุการ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงแจกันดอกไม้จากสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย โดยมีนายวัศยศ งามขำ รองเลขาธิการฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นำมาเยี่ยม

และต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. พล.อ.ปฐมพงศ์ เกษรศุกร์ และคุณหญิงสุพัตรา มาศดิษฐ์ รวมถึงพันธมิตรกลุ่มเครือข่ายธุรกิจ ต่างก็ทยอยส่งดอกไม้เยี่ยมนายสนธิอย่างไม่ขาดสาย

ด้านนายชัยอนันต์ สมุทวณิช อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวหลังเดินทางเข้าเยี่ยมอาการนายสนธิที่ห้อง ไอ.ซี.ยู. ว่า ได้เข้าไปเยี่ยมนายสนธิ แต่ยังนอนหลับอยู่ พร้อมกล่าวว่า เหตุการณ์ลอบยิงนายสนธิ ทราบว่าเคยเกิดขึ้น 2-3 ครั้ง โดยมีการยิงเข้าไปในบ้าน และระหว่างที่มีการชุมนุม

สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเรื่องที่ตำรวจ รัฐบาล จะต้องควบคุมสถานการณ์ให้เรียบร้อย เพราะเป็นห่วงคนอื่นด้วย ส่วนนายกรัฐมนตรีต้องระวังตัวมากขึ้น นอกจากนี้ ยังอยู่ในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่มีการลอบยิงกันด้วยอาวุธสงครามกลางเมือง ดังนั้นตำรวจต้องเข้มข้นการดูแลมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น