กอฉ.เตือนอย่าหลงเชื่อข่าวบิดเบือน ยันเสื้อแดงยังไม่มีใครตายสักคน หมอเผยเปรียบเทียบบาดแผลแล้ว ไม่ได้เกิดจากอาวุธของทหารแน่นอน ระบุเป็นคนละชนิดกัน
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก แถลงการณ์ปฏิบัติการ กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (กอฉ.) ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า เนื่องจากพบว่า การชุมนุมที่สนามหลวงประมาณ 500 คน ได้บิดเบือนข่าวว่า มีผู้ชุมนุมจากการเข้าสลายการชุมนุมของทหารเสียชีวิตนั้น ข้อเท็จจริง คือ บุคคลที่กล่าวอ้างถึง ในการชุมนุมขณะนี้ ยังไม่เสียชีวิตแต่อย่างใด ส่วนบาดแผลที่ตรวจพบจากคำยืนยันของแพทย์พบว่า ไม่ได้เกิดจากเอ็ม16 ที่ทหารใช้สลายการชุมนุมแต่อย่างใด โดยทหารที่รับหน้าที่ปฏิบัติการครั้งนี้ทหารใช้กระสุนปืนจริงในการยิงปืนขึ้นฟ้า เพื่อขู่กลุ่มผู้ชุมนุม แต่หากจำเป็นต้องป้องกันตัว เนื่องจากถูกกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามทำร้าย จะใช้กระสุนซ้อมรบซึ่งไม่มีหัวกระสุนเพื่อข่มขวัญเท่านั้น ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น สื่อมวลชนเป็นพยานได้เพราะไม่มีการปิดกั้นการทำหน้าที่แต่อย่างใด
ส่วนผู้ชุมนุมอีก 2 ราย ซึ่งถูกยิงที่บริเวณขาขวา พบว่า เป็นบาดแผลจากอาวุธปืนลูกซอง ส่วนอีกรายซึ่งสะบ้าแตก พบว่าเป็นกระสุน 9 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นกระสุนที่ไม่มีใช้ในหน่วยกำลังรบของกองทัพและไม่ใช่อาวุธในการปฏิบัติการครั้งนี้เช่นกัน
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ส่วนทหาร 4 นาย ซึ่งได้รับการบาดเจ็บจากการปะทะนั้น ยืนยันว่าผู้ชุมนุมยิงมาที่ทหารจนได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ การสลายการชุมนุมกระทำด้วยความระมัดระวัง และไม่ให้กระทบกับผู้ชุมนุมจนถึงขั้นเสียชีวิตของคนไทยด้วยกัน การได้รับข้อมูลข่าวสารต้องได้รับวิจารณญาณ และอย่าร่วมชุมนุมตามคำเชิญชวนเพื่อสร้างความสงบกลับสู่บ้านเมืองโดยเร็ว
ด้านนพ.ธีระชัย อุกฤษณ์มโนรถ ศัลยแพทย์ รพ.ราชวิถี กล่าวว่า นายไสว ทองอุ้ม ผู้บาดเจ็บจากการปะทะกันบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงนั้น เมื่อมาถึงโรงพยาบาลพบบาดแผลเป็นรู บริเวณรักแร้ด้านซ้ายเลือดออกมาก วัดสัญญาณชีพไม่ได้ ได้รับการปั้มหัวใจในห้องฉุกเฉิน มีการผ่าตัดด่วน ซึ่งพบว่า บริเวณบาดแผลฉีดขาด ตัดขาดเส้นเลือดแดง เส้นเลือดดำและเส้นประสาทบางส่วน โดยได้นำเส้นเลือดเทียมต่อชั่วคราว หลังผ่าตัดสัญญาณชีพเป็นปกติและพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู
“วันนี้ผ่าตัดอีกรอบผู้ป่วยมีสติสัมปชัญญะดี มีการนำเส้นเลือดมาต่อ ซึ่งบาดแผลมีความกว้าง 0.5 ซม ส่วนบาดแผลด้านหลังฉีกขาด 3.5 ซม .เลือดออกมากเนื่องจากเส้นเลือดแดงฉีกขาด ได้รับบาดเจ็บเฉพาะบริเวณแขนซ้ายแต่ที่อาการหนักมากเพราะเส้นเลือดแดงฉีดขาดส่วนซี่โครงและทรวงอกไม่ได้รับบาดเจ็บ”นพ.ธีระชัยกล่าว
พ.อ.นพ.ดุษฎี พัตตานนท์ ผอ.กองออร์โธปิดิกส์ รพ.พระมงกุฎเกล้า กล่าวว่า การบาดเจ็บจากอาวุธสงคราม ส่วนใหญ่บาดแผลที่พบจะมีลักษณะเข้าเล็กออกใหญ่และร้ายแรง ดังนั้น ถ้ากระสุนโดนกระดูกจะแตกละเอียด กระดูกหายไปด้วย แผลใหญ่ร้ายแรงมาก โดยเฉพาะกระสุนเอ็ม 16 ซึ่งมีความเร็วสูงมาก เมื่อโดนเนื้อจากชอนไชข้างใน ทำให้กระดูกแตก และการที่มีพลังงานที่กระสุนทำให้เหมือนมีการระเบิดอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเปรียบเทียบกับบาดแผลของนาย ไสว บาดแผลรูเข้าออกเป็นแผลขนาดเล็กไม่ใหญ่จึงยืนยันว่ากระสุนจากบาดแผลไม่ได้เกิดจากอาวุธประจำกายของทหารราบ หรือเอ็ม 16 แน่นอน