กทม.เตรียมจัดมหกรรม “ยิ้มสู้กู้สร้างอาชีพ” เอาใจประชาชนคนเมืองปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำวงเงินไม่เกิน 1 แสนบาท 30 เม.ย.นี้ ที่สวนอัมพร ส่วนปรับหนี้บัครเครดิตให้ข้าราชการ-ลูกจ้าง กทม.แบงก์ออมสินให้สินเชื่อสูงสุด 1.5 ล้านบาท ขณะที่แบงก์อิสลามให้ 40 เท่าของเงินเดือน
นายธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า กทม.กำหนดจัดมหกรรมยิ้มสู้ กู้สร้างอาชีพ ขึ้นในวันที่ 30 เมษายนนี้ เพื่อเป็นของขวัญเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติขึ้นที่อาคารใหม่ สวนอัมพร เพื่อเปิดตัวโครงการธนาคารประชาชน เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤตเศรษฐกิจ โดยภายในงานจะมีธนาคารออมสิน และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นธนาคารในโครงการธนาคารประชาชนร่วมปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มผู้ประกอบอาชีพธุรกิจการค้า หรือ บริการขนาดเล็ก พ่อค้า แม่ค้า หาบเร่แผงลอย ผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง หรือประชาชนทั่วไป นำเงินไปลงทุนประกอบอาชีพ หรือเพิ่มทุนหมุนเวียนเพื่อขยายกิจการในอัตราดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงในวันดังกล่าวจะมีการออกบูธจำหน่ายอาหาร และสินค้า จาก 6 กลุ่มเขต การให้ความรู้ด้านสินเชื่อ ตลอดจนการแนะแนวทางการประกอบอาชีพ
สำหรับเงื่อนไขการให้สินเชื่อ ประกอบด้วย ต้องเป็นผู้ประกอบการรายย่อย มีรายได้ประจำแต่เงินเดือนน้อย มีเงินฝากกับธนาคาร มีสถานที่ประกอบอาชีพแน่นอน เพื่อการตรวจสอบ มีชื่อและทะเบียนบ้านในเขต กทม.ส่วนผู้ที่จะกู้กับธนาคารอิสลามจะต้องประกอบธุรกิจไม่ขัดต่อหลักศาสนาอิสลามด้วย โดยสามารถกู้วงเงินรายละไม่เกิน 100,000 บาท ธนาคารออมสิน คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 ต่อเดือน ธนาคารอิสลามฯ คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน ทั้งนี้จะมีการแถลงข่าว ในวันที่ 20 เมษายน 2552
นายธราดล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในโครงการสินเชื่อปรับหนี้บัตรเครดิตให้แก่ข้าราชการและลูกจ้างของ กทม.ซึ่งร่วมกับธนาคารออมสินและธนาคารอิสลาม เช่นกันนั้น ธนาคารออมสิน คิดอัตราดอกเบี้ย MLR+1.00 (6.25+1.00) = 7.25% วงเงินกู้สูงสุด 1.5 ล้านบาท ระยะเวลาไม่เกิน 15 ปี โดยให้ข้าราชการระดับ 7-8 เป็นผู้ค้ำประกัน ส่วนธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย คิดอัตราดอกเบี้ย SPRL+0.75 (6.75+0.75) = 7.50% วงเงินกู้สูงสุด 40 เท่าของเงินเดือน ระยะเวลาไม่เกิน 7 ปี ทั้งนี้ หากผู้กู้เป็นข้าราชการไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน สำหรับลูกจ้างกทม.ต้องมีข้าราชการระดับ 3 ขึ้นไป เป็นผู้ค้ำประกัน
ทั้งนี้ ธนาคารเป็นผู้รับผิดชอบคัดกรองลูกหนี้เพื่อปล่อยเงินกู้ และหากมีปัญหาใดๆ ธนาคารจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง พร้อมทั้งดำเนินการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ให้ข้าราชการและลูกจ้างทราบถึงโครงการดังกล่าวด้วยโดยจะมีการแถลงข่าวในวันจันทร์ที่ 27 เม.ย.2552 ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม.
นายธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า กทม.กำหนดจัดมหกรรมยิ้มสู้ กู้สร้างอาชีพ ขึ้นในวันที่ 30 เมษายนนี้ เพื่อเป็นของขวัญเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติขึ้นที่อาคารใหม่ สวนอัมพร เพื่อเปิดตัวโครงการธนาคารประชาชน เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤตเศรษฐกิจ โดยภายในงานจะมีธนาคารออมสิน และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นธนาคารในโครงการธนาคารประชาชนร่วมปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มผู้ประกอบอาชีพธุรกิจการค้า หรือ บริการขนาดเล็ก พ่อค้า แม่ค้า หาบเร่แผงลอย ผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง หรือประชาชนทั่วไป นำเงินไปลงทุนประกอบอาชีพ หรือเพิ่มทุนหมุนเวียนเพื่อขยายกิจการในอัตราดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงในวันดังกล่าวจะมีการออกบูธจำหน่ายอาหาร และสินค้า จาก 6 กลุ่มเขต การให้ความรู้ด้านสินเชื่อ ตลอดจนการแนะแนวทางการประกอบอาชีพ
สำหรับเงื่อนไขการให้สินเชื่อ ประกอบด้วย ต้องเป็นผู้ประกอบการรายย่อย มีรายได้ประจำแต่เงินเดือนน้อย มีเงินฝากกับธนาคาร มีสถานที่ประกอบอาชีพแน่นอน เพื่อการตรวจสอบ มีชื่อและทะเบียนบ้านในเขต กทม.ส่วนผู้ที่จะกู้กับธนาคารอิสลามจะต้องประกอบธุรกิจไม่ขัดต่อหลักศาสนาอิสลามด้วย โดยสามารถกู้วงเงินรายละไม่เกิน 100,000 บาท ธนาคารออมสิน คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 ต่อเดือน ธนาคารอิสลามฯ คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน ทั้งนี้จะมีการแถลงข่าว ในวันที่ 20 เมษายน 2552
นายธราดล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในโครงการสินเชื่อปรับหนี้บัตรเครดิตให้แก่ข้าราชการและลูกจ้างของ กทม.ซึ่งร่วมกับธนาคารออมสินและธนาคารอิสลาม เช่นกันนั้น ธนาคารออมสิน คิดอัตราดอกเบี้ย MLR+1.00 (6.25+1.00) = 7.25% วงเงินกู้สูงสุด 1.5 ล้านบาท ระยะเวลาไม่เกิน 15 ปี โดยให้ข้าราชการระดับ 7-8 เป็นผู้ค้ำประกัน ส่วนธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย คิดอัตราดอกเบี้ย SPRL+0.75 (6.75+0.75) = 7.50% วงเงินกู้สูงสุด 40 เท่าของเงินเดือน ระยะเวลาไม่เกิน 7 ปี ทั้งนี้ หากผู้กู้เป็นข้าราชการไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน สำหรับลูกจ้างกทม.ต้องมีข้าราชการระดับ 3 ขึ้นไป เป็นผู้ค้ำประกัน
ทั้งนี้ ธนาคารเป็นผู้รับผิดชอบคัดกรองลูกหนี้เพื่อปล่อยเงินกู้ และหากมีปัญหาใดๆ ธนาคารจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง พร้อมทั้งดำเนินการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ให้ข้าราชการและลูกจ้างทราบถึงโครงการดังกล่าวด้วยโดยจะมีการแถลงข่าวในวันจันทร์ที่ 27 เม.ย.2552 ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม.