สธ.ยกย่องร้านอาหารกว่า 100 ร้าน สมัครใจงดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น ตลอด 24 ชั่วโมง ในวันที่ 13 เมษายนนี้ ขานรับมาตรการลดอุบัติเหตุจราจรช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยจะจำหน่ายเครื่องดื่มสุขภาพแทน
วันนี้ (7 เม.ย.) ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา จ.ชลบุรี นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดงาน “อร่อย...ดี สงกรานต์นี้ไม่มีเหล้า” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสมาคมภัตตาคารไทย เพื่อลดอุบัติเหตุจราจรช่วงเทศกาลสงกรานต์ และมอบประกาศเกียรติคุณแก่ร้านอาหาร ภัตตาคารต้นแบบ ที่สมัครใจงดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันที่ 13 เมษายน 2552 ตลอด 24 ชั่วโมง และยินดีปฏิบัติตามกฎหมาย
นายวิทยา กล่าวว่า ขอแสดงความชื่นชมผู้ประกอบการภัตตาคาร ร้านอาหารต้นแบบ ซึ่งเป็นแบบอย่างอันดีงามในการสมัครใจงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสงกรานต์ และมีเจตจำนงค์ที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ และเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างเคร่งครัด
นายวิทยา กล่าวต่อว่า รัฐบาลมีนโยบายลดปัญหาการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงในสัปดาห์หน้านี้ ซึ่งข้อมูลจากศูนย์นเรนทร ระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะสูงกว่าช่วงเวลาปกติถึง 2.6 เท่า เฉลี่ย 84 รายต่อวัน โดยสูงที่สุดในวันที่ 13 เมษายน 2551 มีผู้เสียชีวิตที่มีสาเหตุจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวม 41 ราย หากประเมินมูลค่าความสูญเสียซึ่งมาจากผลการศึกษาของกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ผู้เสียชีวิต 1 คน มีต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 5.4 ล้านบาท ไม่รวมค่าเสียโอกาสอื่นๆ ที่ตามมา ที่สำคัญคือ สภาพจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบซึ่งมิอาจประเมินค่าได้ การมีส่วนร่วมของผู้ประกอบการร้านอาหารวันนี้ มิใช่เพียงแค่มีส่วนช่วยลดอุบัติเหตุจราจรเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีส่วนช่วยลดสาเหตุที่นำไปสู่การทำร้ายร่างกาย อาชญากรรม การล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงลดปัญหาสุขภาพได้อย่างมีนัยสำคัญด้วย
ด้านนายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการะทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กิจกรรมที่เกิดขึ้นในวันนี้ เป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในสังคมไทย หลังจากมีข้อถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง ถึงผลดีผลเสียของมาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ภาคประชาชนและกระทรวงสาธารณสุขร่วมกันผลักดัน เพื่อมุ่งหวังว่ามาตรการนี้จะมีส่วนช่วยลดผลกระทบจากอุบัติเหตุจราจร แต่ในท้ายที่สุดมาตรการนี้ก็ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้
“การที่ประชาชน ผู้คนในสังคม ตลอดจนนักวิชาการและสื่อมวลชน ได้ช่วยกันวิพากษ์วิจารณ์ในมาตรการนี้กันอย่างเต็มที่ มีการนำเสนอข้อมูลงานวิจัยต่างๆ อย่างเป็นเหตุเป็นผล อยู่ในขอบเขตตามกรอบประชาธิปไตย ทำให้ผู้คนจำนวนมากในสังคม ได้รับรู้ถึงผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินความคาดหมายซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ กลุ่มผู้ประกอบการภัตตาคาร ร้านอาหารต่างๆ ได้แสดงจุดยืนร่วมกัน สมัครใจงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น ตลอด 24 ชั่วโมง ในวันสงกรานต์ที่ 13 เมษายนที่จะถึงนี้”นายมานิต กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับร้านอาหาร ภัตตาคาร ที่ร่วมไม่ขายเหล้าในวันที่ 13 เมษายน 2552 มีทั้งหมด 8 จังหวัด 40 แห่ง ดังนี้ กทม.17 แห่ง ได้แก่ ครัวนงพันธ์ ครัวเวนิก้า การ์เดนท์ เจริญไทยโภชนา คลองสาน เฉินหูฉลาม นวลจันทร์ บางกอกแนลเชอรัลสปา บ้านฝันตะวันรัญจวน ร้านประสบสุข ร้านพระราม 9 ไก่ย่าง ร้านแพรฟ้าไทย ภัตตาคารไพซาโน ฟู้ดคอร์ด เดอะมอลล์กรุป ภัตตาคารเมอร์ซาโต้ บาย ธันยาภรณ์ ร้านเยาวราชโภชนา สวนอาหารสบายสปา ร้านอิ่มปลาเผา ร้านแหล
จังหวัดสงขลา 6 แห่ง ได้แก่ ร้านกระท่อมเดือนเพ็ญ ร้านคูเต่า ร้านเปรี้ยวปาก ร้านมาราตีโภชนา ร้านเมี่ยงปลา ร้านอุดมโภชนา
จังหวัดพัทลุง 11 แห่ง ได้แก่ ร้านเลยฝัน สวนอารชีวีสเต็ก บ้านคุณล้าน สวนอาหารซุ้มพฤกษา สวนอาหารบ้านเฌอมาลย์ ร้านมาม่าน้ำแข็งใส ร้านอาหารรถไฟริมคลอง ร้านอาหารกันเอง ลำนำ ร้านโกขิง ครัวกันยา ร้านน้องนิต บิ๊กมูลทะเลเดือด
จังหวัดเชียงใหม่ 1 แห่ง คือ ร้านอิ่มปลาเผา จังหวัดปทุมธานี 1 แห่งคือ ครัวริมน้ำท้ายเกาะ จังหวัดตราด 1 แห่งคือ ร้านไผ่โอชะ จังหวัดนครปฐม 1 แห่งคือ ร้านแพท่าจีน จังหวัดพิษณุโลก 1 แห่ง คือ ร้านสุมาลีสาลี่สุพรรณ และร้านแบล็คแคนยอน ทุกสาขา