สธ.เข้ม! จับมือหลายหน่วยงานประกาศสงครามยาเสพติดนำยาเสพติดให้โทษของกลางที่คลังยาเสพติดมาเผาทำลายรวม 2,097 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 6,272 ล้านบาท 9 เม.ย.นี้ ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เผยมีกัญชาของกลาง ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดมาร่วมเผา จำนวน 2,602 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 26 ล้านบาท รวมของกลางที่เผาทำลายทั้งสิ้นกว่า 4,699 กิโลกรัม รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 6,298 ล้านบาท
วันนี้ (7 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่โรงแรม รอยัล คลิฟ บีช พัทยา จังหวัดชลบุรี นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพบก สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และศูนย์บริหารสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จัดให้มีการเผาทำลายยาเสพติดให้โทษของกลางในวันต่อต้านยาเสพติดสากล คือวันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี สำหรับปีนี้ รัฐบาลได้มีนโยบายเร่งรัดปราบปรามยาเสพติด จึงได้เลื่อนกำหนดการทำลายยาเสพติดให้เร็วขึ้น โดยกำหนดให้มีการทำลายยาเสพติดให้โทษของกลางครั้งที่ 37 ขึ้นในวันที่ 9 เมษายน 2552
นายวิทยา กล่าวว่า ทั้งนี้ ปริมาณยาเสพติดให้โทษของกลางที่จะเผาทำลาย มีจำนวนกว่า 2,097 กิโลกรัม จาก 2,009 คดี ได้แก่ เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า 1,846.93 กิโลกรัมประมาณ 20.52 ล้านเม็ด มูลค่าประมาณ 6,156,430,800 บาท เฮโรอีน 148.08 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 96,251,236.25 บาท เอ็กซ์ตาซี่ หรือ ยาอี 3.09 กิโลกรัม ประมาณ 12,348 เม็ด มูลค่าประมาณ 11,113,200 บาท โคเคน 2.63 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 7,893,750 บาท ฝิ่น 19.16 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 269,385.57 บาท โคเดอีน 73.95 กิโลกรัม ประมาณ 56.89 ลิตร มูลค่าประมาณ 136,531.20 บาท เคตามีน 1.33 กิโลกรัม ประมาณ 133 ขวด มูลค่าประมาณ 119,700 บาท กัญชา 0.68 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 6,849 บาท เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีกัญชาของกลาง ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดมาร่วมเผา จำนวน 2,602กิโลกรัม มูลค่ากว่า 26 ล้านบาท รวมของกลางที่เผาทำลายทั้งสิ้นกว่า 4,699 กิโลกรัม รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 6,298 ล้านบาท โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเผาทำลายที่ศูนย์บริหารสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม นิคมอุตสาหกรรม บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา และเผาทำลายด้วยวิธีไพโรไลติก อินซิเนอะเรชั่น (Pyrolytic Incineration) ซึ่งเป็นการเผาที่อุณหภูมิสูงมาก ไม่ต่ำกว่า 850 องศาเซลเซียส จะทำให้เกิดการสลายตัวของโมเลกุลกลายเป็นคาร์บอนในระยะเวลาอันรวดเร็วและไม่ก่อให้เกิดมลพิษในอากาศและสิ่งแวดล้อม
“รัฐบาลมีเจตนารมณ์แน่วแน่ในการต่อต้านยาเสพติดทุกรูปแบบ ซึ่งการเผาทำลายยาเสพติดให้โทษของกลางแต่ละครั้งมักจะได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ มาร่วมเป็นสักขีพยานจำนวนมาก ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 37 แล้ว โดยสามารถเผาทำลายยาเสพติดให้โทษของกลางได้ทั้งสิ้น 82,522.51 กิโลกรัม คงเหลือในคลังยาเสพติด 124,094 กิโลกรัม ซึ่งเป็นยาเสพติดของกลางที่คดียังไม่สิ้นสุด”นายวิทยากล่าว
รมว.สาธารณสุข กล่าวต่อว่า พิธีเผาทำลายยาเสพติดให้โทษของกลาง ครั้งที่ 37 นี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธี ขอเชิญชวนสื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเผาทำลายยาเสพติด ให้โทษของกลาง ณ ศูนย์บริหารสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในวันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน 2552 ในเวลา 11.00 น. ด้วย
