คลิปไคโยตี้เด็กรูดเสาโผล่ เครือข่ายเฝ้าระวังร้อง วธ. ระบุเต้นวาบหวิวไม่เหมาะสม หวั่นสังคมเสื่อม ด้าน “ธีระ” วอนผู้จัดงานอย่าใช้ไคโยตี้ดึงลูกค้า พร้อมจะหารือกับทุกภาคส่วนเร่งแก้ ชี้เกิดขึ้นซ้ำซาก ผู้ชมคลิปด่าพ่อแม่เด็กทั่วเว็บ เสียงขรมปล่อยลูกได้อย่างไร
วันนี้ (2 เม.ย.) น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากเครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรมว่า ขณะนี้ได้มีการโพสต์คลิปการเต้นไคโยตี้ในงานแสดงสินค้าหรืองานแสดงรถยนต์ไว้ในเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ตนจึงได้เข้าไปตรวจสอบ พบว่าในคลิปดังกล่าวได้โพสต์ไว้ตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.ผ่านมา โดยภาพที่ปรากฏเป็นบรรยากาศการจัดแสดงสินค้า มีหญิงสาวขึ้นมาเต้นไคโยตี้โชว์วาบหวิวด้วยท่าทางยั่วยวนหลายคนสลับสับเปลี่ยนกันไป แต่ที่น่าตกใจคือมีเด็กอายุประมาณ 10 ปี ขึ้นไปเต้นไคโยตี้รูดเสาอยู่ด้วย ซึ่งเด็กจะเต้นเลียนแบบผู้ใหญ่ที่เต้นอยู่ด้านหน้า ถึงแม้จะแต่งกายไม่วาบหวิว แต่เด็กก็เต้นท่าทางยั่วยวนไม่เหมาะสมกับวัย
น.ส.ลัดดา กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ตนได้เข้าไปตรวจสอบในกระทู้ต่างๆ พบว่าผู้ที่เข้ามาชมคลิปจำนวนมากต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมที่ให้เด็กมาเต้นไคโยตี้ เช่น จากคุณชฎาแหลม ‘เอาเข้าไปเยาวชนไทยจงเจริญ ดูแล้วอนาถ พ่อแม่ปล่อยเด็กน้อยค้นนี้ไปเต้นแร้งเต้นกา ท่าทางส่อแบบนี้ได้ยังไง หน่วยงานไหนที่ดูแลเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนรับเรื่องไปดูหน่วยเถิด ขอร้อง’ จากคุณPlayfulgirl ‘ได้แต่เอามือทาบอกแล้วอุทานว่า แม่จ้าว อยากเห็นหน้าพ่อ-แม่น้องจริงๆ ทำไมเอาลูกมาทำแบบนี้ มันหมดทางทำมาหากินถึงขนาดต้องมาฉุดลูกให้มาทำอะไรแบบนี้แล้วหรือ’ เป็นต้น ดังนั้น ตนจะเร่งตรวจสอบและจะหารือกับผู้จัดงานต่างๆ ว่าไม่ควรนำโคโยตี้มาเป็นจุดขายของงาน ทั้งนี้ตนจะรายงานให้นาย ธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม และนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัด วธ.ได้รับทราบเรื่องร้องเรียนดังกล่าวด้วย
ด้านนายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า การที่จะให้เด็กมาเต้นไคโยตี้ ตนเห็นว่า ไม่เหมาะสม ควรให้เด็กมาทำอย่างอื่นจะเหมาะสมกว่า เช่น รำไทย หรือเต้นน่ารักๆ เป็นต้น ในขณะเดียวกันตนอยากขอร้องผู้จัดงานหรือผู้ประกอบการว่าไม่ควรนำไคโยตี้มาเป็นจุดขาย อยากให้ชูคุณภาพของสินค้ามากกว่า จะนำสิ่งวาบหวิวมาเรียกลูกค้า นอกจากนี้ ตนคิดว่าจะต้องมีการหารือกับผู้จัดงานและผู้ประกอบการ เพราะเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำซาก อีกทั้ง วธ.ควรจะมีการแจกโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้จัดงานที่ไม่มีเรื่องดังกล่าวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย