มรภ.สวนดุสิต ชี้มหาวิทยาลัยอย่าปฏิเสธมีนักศึกษาขายบริการผ่านเว็บไซต์ชื่อดังเตือนประจาน ประณามเด็กยิ่งซ้ำเติม หวั่นภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เด็กเบี่ยงเบนหารายได้พิเศษทางที่ผิด หนุนหางานรองรับ
จากกรณีที่ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการขายบริการทางเพศผ่านเว็บไซต์ชื่อดังพร้อมทั้งมีการเชื่อมโยงไปตามเว็บไซต์ต่าง ๆ มากกว่า 1,000 เว็บไซต์ มีการโพสต์ภาพและข้อความของหญิงสาวอย่างเปิดเผย ส่วนใหญ่จะอ้างว่าเป็นนักศึกษาจากสถาบันชื่อดัง มีภาพการแต่งกายเป็นนักศึกษาติดเข็มระบุสถาบันอย่างชัดเจน
รศ.สุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต กล่าวว่า ทุกมหาวิทยาลัยต้องตระหนัก และมหาวิทยาลัยที่ถูกระบุถึงไม่ควรรีบออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่นักศึกษาของสถาบัน แต่ควรจะทำการตรวจสอบ และทำในลักษณะที่ไม่ประจานเด็กเพื่อที่จะร่วมกันหาทางออก ไม่ใช่การประณามเด็กซ้ำ เนื่องจากในขณะนี้ต้องยอมรับว่า สถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบต่อการทำงานหารายได้พิเศษของนักศึกษาหลายคน ที่อาจจะมีการตัดสินใจที่เบี่ยงเบนได้ เมื่อถึงภาวะจำเป็น
“การเน้นแค่การปราบปรามตีแผ่ไม่ช่วยอะไร จะยิ่งตอกย้ำ ควรเห็นใจ ไม่มุ่งลงโทษ จะยิ่งหลบลงดิ่ง ฉะนั้น ต้องไม่ซ้ำเติม แต่สื่อก็ต้องเปิดเผย เพื่อให้สังคมตระหนัก และทุกมหาวิทยาลัยอย่าเพิ่งปฏิเสธว่าของตัวเองไม่มี แต่หันหน้ามาช่วยกัน แน่นอนยังไม่มีแต่พอลามปาม ก็มีวันจะมาถึง ต้องเตรียมป้องกัน ต้องขอบคุณสื่อ อาจจะช้าหน่อย เพราะตอนแรกก็คิดว่าแอบอ้างหากิน แต่มากขึ้น และทำโจ๋งครึ่ม ซึ่งก็ต้องฝากฝ่ายปราบปรามเว็บไปดูเรื่องอื่นมากไปหรือเปล่า หรือปิดไม่ทัน หรือเห็นเป็นเรื่องปกติ” รศ.สุขุม กล่าว
รศ.สุขุม กล่าวต่อว่า ในส่วนมหาวิทยาลัยฯ ได้ตั้งศูนย์คอลเซ็นเตอร์ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้นักศึกษารู้และตระหนัก พร้อมเปิดรับคำปรึกษาปัญหาต่างๆ ทั้งเรื่องส่วนตัวและการเรียน โดยเฉพาะช่วงภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ จะกระตุ้นข่าวมากกว่าปกติ ขณะที่ฝ่ายศูนย์สนเทศและแนะแนว เน้นเพิ่มตำแหน่งงานมากกว่าปีที่แล้ว นอกจากงานข้างนอก ยังเพิ่มงานในมหาวิทยาลัย รองรับนักศึกษาที่ต้องการทำงานพิเศษในชั่วโมงที่ไม่มีเรียนหรือหลังเลิกเรียน อาทิ งานโรงแรม สปา ฟิตเนส เบเกอรี่ โดยได้รับเงินเดือน 3,000 บาท แทนที่จะให้ทุนเฉยๆ เป็นการเพิ่มปริมาณงาน และก่อนหน้านี้ได้จัดงานระดมทุน ซึ่งได้มา 4-5 ล้านบาท สำหรับนักศึกษาที่ต้องช่วยงานบ้าน โดยให้ 3,000 บาทต่อเดือนเช่นเดียวกัน
รศ.สุขุม กล่าวต่อว่า ทีมของกิจการนักศึกษาร่วมกับฝ่ายแนะแนวตรวจสอบในเว็บไซต์และพฤติกรรมต่าง ๆ พยายามเสาะหาว่า มีนักศึกษาเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ เช่น มีเบอร์ มีโพสต์รูป เราก็มีประวัตินักศึกษา ตั้งแต่แรกเข้าก็ประสานกับสำนักทะเบียน เพื่อนำมาสัมพันธ์กับทะเบียนนักศึกษา เป็นหน่วยติดตามดูว่าจริงหรือไม่ เพราะการดาวโหลดเป็นรูปนักศึกษาและระบุราคา ตรงนี้ก็ขอให้ตรวจสอบ หน่วยไอทีร่วมกับสำนักประวัติและประมวลผล อย่านิ่งนอนใจแม้จะแอบอ้าง เราก็โพสต์และเอาตัวแทนนักศึกษาแต่ละชั้นมาดู รวมถึงอาจารย์ผู้สอน เป็นการเฝ้าระวัง
“เรื่องโพสต์รูป ทราบมาอาทิตย์ที่แล้ว มีนักศึกษามาแจ้ง และเร่งประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่ามีนักศึกษาของสถาบันเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ถ้าสมมติเจออย่าเพิ่งไปนั่น ไปนี่ ให้เป็นความลับส่วนตัว การให้คำแนะนำ เป็นการบำบัด การให้เกียรติ เรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความจำเป็นของแต่ละคน จะให้อาจารย์ที่เข้าใจเข้าไป เพราะคิดว่า จากจำนวนตอนนี้ไม่ใช้แค่หลักร้อย เป็นหลักพันและแตกแขนงไปอีก ไม่รวมเครือข่าย คนหนึ่งติดต่อได้ มีเพื่อน 20 กว่าคน มีอัลบั้มให้ดู ต่อรองราคากันได้ ซึ่งเครือข่ายการโยงหนักกว่าในเว็บไซต์ เพราะคนหนึ่งกลายเป็นแม่เล้า อายุ 22-23 ปี ลองโทรศัพท์ดู ไม่ได้มีแค่นี้ มีเพื่อนอีกอยากติดต่อตรงนี้ไหม ติดต่อน้องนะ ยังมีเพื่อนอีก จะเอาไหม เพื่อนมี 10 กว่าคน แค่ในเว็บธรรมดาแล้ว” รศ.สุขุม กล่าว
จากกรณีที่ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการขายบริการทางเพศผ่านเว็บไซต์ชื่อดังพร้อมทั้งมีการเชื่อมโยงไปตามเว็บไซต์ต่าง ๆ มากกว่า 1,000 เว็บไซต์ มีการโพสต์ภาพและข้อความของหญิงสาวอย่างเปิดเผย ส่วนใหญ่จะอ้างว่าเป็นนักศึกษาจากสถาบันชื่อดัง มีภาพการแต่งกายเป็นนักศึกษาติดเข็มระบุสถาบันอย่างชัดเจน
รศ.สุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต กล่าวว่า ทุกมหาวิทยาลัยต้องตระหนัก และมหาวิทยาลัยที่ถูกระบุถึงไม่ควรรีบออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่นักศึกษาของสถาบัน แต่ควรจะทำการตรวจสอบ และทำในลักษณะที่ไม่ประจานเด็กเพื่อที่จะร่วมกันหาทางออก ไม่ใช่การประณามเด็กซ้ำ เนื่องจากในขณะนี้ต้องยอมรับว่า สถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบต่อการทำงานหารายได้พิเศษของนักศึกษาหลายคน ที่อาจจะมีการตัดสินใจที่เบี่ยงเบนได้ เมื่อถึงภาวะจำเป็น
“การเน้นแค่การปราบปรามตีแผ่ไม่ช่วยอะไร จะยิ่งตอกย้ำ ควรเห็นใจ ไม่มุ่งลงโทษ จะยิ่งหลบลงดิ่ง ฉะนั้น ต้องไม่ซ้ำเติม แต่สื่อก็ต้องเปิดเผย เพื่อให้สังคมตระหนัก และทุกมหาวิทยาลัยอย่าเพิ่งปฏิเสธว่าของตัวเองไม่มี แต่หันหน้ามาช่วยกัน แน่นอนยังไม่มีแต่พอลามปาม ก็มีวันจะมาถึง ต้องเตรียมป้องกัน ต้องขอบคุณสื่อ อาจจะช้าหน่อย เพราะตอนแรกก็คิดว่าแอบอ้างหากิน แต่มากขึ้น และทำโจ๋งครึ่ม ซึ่งก็ต้องฝากฝ่ายปราบปรามเว็บไปดูเรื่องอื่นมากไปหรือเปล่า หรือปิดไม่ทัน หรือเห็นเป็นเรื่องปกติ” รศ.สุขุม กล่าว
รศ.สุขุม กล่าวต่อว่า ในส่วนมหาวิทยาลัยฯ ได้ตั้งศูนย์คอลเซ็นเตอร์ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้นักศึกษารู้และตระหนัก พร้อมเปิดรับคำปรึกษาปัญหาต่างๆ ทั้งเรื่องส่วนตัวและการเรียน โดยเฉพาะช่วงภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ จะกระตุ้นข่าวมากกว่าปกติ ขณะที่ฝ่ายศูนย์สนเทศและแนะแนว เน้นเพิ่มตำแหน่งงานมากกว่าปีที่แล้ว นอกจากงานข้างนอก ยังเพิ่มงานในมหาวิทยาลัย รองรับนักศึกษาที่ต้องการทำงานพิเศษในชั่วโมงที่ไม่มีเรียนหรือหลังเลิกเรียน อาทิ งานโรงแรม สปา ฟิตเนส เบเกอรี่ โดยได้รับเงินเดือน 3,000 บาท แทนที่จะให้ทุนเฉยๆ เป็นการเพิ่มปริมาณงาน และก่อนหน้านี้ได้จัดงานระดมทุน ซึ่งได้มา 4-5 ล้านบาท สำหรับนักศึกษาที่ต้องช่วยงานบ้าน โดยให้ 3,000 บาทต่อเดือนเช่นเดียวกัน
รศ.สุขุม กล่าวต่อว่า ทีมของกิจการนักศึกษาร่วมกับฝ่ายแนะแนวตรวจสอบในเว็บไซต์และพฤติกรรมต่าง ๆ พยายามเสาะหาว่า มีนักศึกษาเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ เช่น มีเบอร์ มีโพสต์รูป เราก็มีประวัตินักศึกษา ตั้งแต่แรกเข้าก็ประสานกับสำนักทะเบียน เพื่อนำมาสัมพันธ์กับทะเบียนนักศึกษา เป็นหน่วยติดตามดูว่าจริงหรือไม่ เพราะการดาวโหลดเป็นรูปนักศึกษาและระบุราคา ตรงนี้ก็ขอให้ตรวจสอบ หน่วยไอทีร่วมกับสำนักประวัติและประมวลผล อย่านิ่งนอนใจแม้จะแอบอ้าง เราก็โพสต์และเอาตัวแทนนักศึกษาแต่ละชั้นมาดู รวมถึงอาจารย์ผู้สอน เป็นการเฝ้าระวัง
“เรื่องโพสต์รูป ทราบมาอาทิตย์ที่แล้ว มีนักศึกษามาแจ้ง และเร่งประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่ามีนักศึกษาของสถาบันเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ถ้าสมมติเจออย่าเพิ่งไปนั่น ไปนี่ ให้เป็นความลับส่วนตัว การให้คำแนะนำ เป็นการบำบัด การให้เกียรติ เรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความจำเป็นของแต่ละคน จะให้อาจารย์ที่เข้าใจเข้าไป เพราะคิดว่า จากจำนวนตอนนี้ไม่ใช้แค่หลักร้อย เป็นหลักพันและแตกแขนงไปอีก ไม่รวมเครือข่าย คนหนึ่งติดต่อได้ มีเพื่อน 20 กว่าคน มีอัลบั้มให้ดู ต่อรองราคากันได้ ซึ่งเครือข่ายการโยงหนักกว่าในเว็บไซต์ เพราะคนหนึ่งกลายเป็นแม่เล้า อายุ 22-23 ปี ลองโทรศัพท์ดู ไม่ได้มีแค่นี้ มีเพื่อนอีกอยากติดต่อตรงนี้ไหม ติดต่อน้องนะ ยังมีเพื่อนอีก จะเอาไหม เพื่อนมี 10 กว่าคน แค่ในเว็บธรรมดาแล้ว” รศ.สุขุม กล่าว