xs
xsm
sm
md
lg

กทม.เสนอสภาออกข้อบัญญัติเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้า เปิด 15 พ.ค.ใช้ฟรี 3 เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กทม.เตรียมเสนอสภา กทม.ออกข้อบัญญัติเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าส่วนขยายไปฝั่งธน เผย อาจว่าจ้างบีทีเอสเดินรถปีต่อปี ตกปีละกว่า 200 ล้านบาท ระบุ ให้ใช้ฟรี 3 เดือน หลังวันแม่ เริ่มเก็บค่าบริการ วันที่ 29 ม.ค.นี้ หารือ “กรณ์” ถกเคลียริงเฮาส์

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีลม จากสถานีสะพานตากสิน-วงเวียนใหญ่ ระยะทาง 2.2 กิโลเมตร ตามที่สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) รายงาน โดยการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณจะแล้วเสร็จในเดือน มี.ค.นี้ ก่อนที่จะเปิดให้บริการในวันที่ 15 พ.ค.โดยจะวิ่งให้บริการฟรี จากนั้นจะเริ่มเก็บค่าบริการในวันที่ 13 ส.ค.หลังจากวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ส่วนอัตราค่าโดยสาร ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป แต่เรื่องนี้จะต้องนำเข้าที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร เพื่อให้สมาชิกสภา กทม.พิจารณาความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังมีเวลาในการตัดสินใจอีกหลายเดือน แต่ยืนยัน กทม.จะคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก

ด้าน นายจุมพล สำเภาพล ผอ.สำนักการจราจรและขนส่ง กล่าวว่า กทม.จะต้องออกข้อบัญญัติเก็บค่าโดยสารเสนอสภา กทม.เชื่อว่า จะสามารถออกมาทันก่อนที่จะคิดค่าบริการในวันที่ 13 ส.ค.ทั้งนี้ การกำหนดอัตราค่าโดยสารอยู่ระหว่างการหารือของบริษัท กรุงเทพธนาคม ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของ กทม.กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บีทีเอส) จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ แต่เบื้องต้นมีแนวทางในการคิดค่าเข้าระบบทางบริษัท บีทีเอส 15 บาท ส่วนค่าแรกเข้าระบบของ กทม.5 บาท ส่วนระบบตั๋วร่วม ขณะนี้ยังติดปัญหา เพราะ กทม.ต้องหารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลัง เพื่อออกกฎกระทรวง มารองรับ

อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถเจรจาเพื่อดำเนินการได้ทัน กทม.อาจใช้เส้นทางของทางราชการแจ้งให้ทราบ นอกจากนี้ ในการว่าจ้างบริษัท บีทีเอส เดินรถนั้น กทม.จะดำเนินการว่าจ้างแบบปีต่อปี คิดตามระยะทางที่วิ่งจริงเป็นกิโลเมตร โดยเปรียบเทียบกับปัจจุบันที่บริษัท บีทีเอส วิ่งในขณะนี้ คือ 40,000 เที่ยว 1,400 กิโลเมตร คิดเป็นอัตราค่าจ้าง 20 ล้านบาทต่อเดือน หรือปีละกว่า 200 ล้านบาท

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการจัดเก็บรายได้ตามสิทธินั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาใน 3 หลักการ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โดยเฉพาะกับประชาชน ประกอบด้วย 1.เก็บตามระยะทางแบบที่บีทีเอสดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน 2.เก็บแบบข้อที่ 1.แต่เพิ่มอัตราช่วงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในระบบของ กทม.เพราะถือว่าเป็นอุปสรรค และใช้ต้นทุนในการก่อสร้างสูงเป็นไปตามหลักสากล ที่ประเทศฮ่องกง ก็ใช้การหลักการนี้ 3.การเก็บอัตราคงที่ โดยทั้ง 3 หลักการ กทม.จะต้องตัดสินใจภายในเดือน ก.พ.นี้ ว่า จะเลือกใช้วิธีการใด เพื่อนำหลักการไปเจรจากับบริษัท บีทีเอส และจัดหาระบบตั๋ว หรือ AFC (Automatic Fare Collection) เพื่อนำมาเขียนโปรแกรมการจัดเก็บรายได้ต่อไป

ส่วนอัตราค่าโดยสารจะอยู่ที่ประมาณ 15-45 บาท อย่างไรก็ตามการจัดเก็บค่าโดยสารของ กทม.จะต้องผ่านการพิจารณาจากสภา กทม.ในการออกข้อบัญญัติการจัดเก็บค่าโดยสาร เพื่อนำมากำหนดค่าโดยสารต่อไป สำหรับการตั้ง Clearing House นั้น ต้องขออนุญาตจากกระทรวงการคลังก่อน โดย นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.จะเข้าหารือกับร่วมกับ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในวันที่ 29 ม.ค.นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น