“ชัยวุฒิ” ไม่เร่ง และไม่ห้ามให้มหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ปล่อยให้สถาบันอุดมศึกษาแต่ละแห่งตัดสินใจเอง ระบุขณะนี้ ม.6-7 แห่งที่ออกนอกระบบไปแล้วกำลังมีปัญหา เพราะรัฐบาลก่อนไม่ได้จัดสรรงบไว้ให้ตามตกลง วอน ม.ที่จะออกนอกระบบเพิ่มให้ศึกษาปัญหา และเขียนกฎหมายให้รัดกุม
นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงการออกนอกระบบของมหาวิทยาลัย ว่า ตนพร้อมจะส่งเสริมเรื่องการออกระบบของมหาวิทยาลัยอย่างเต็มที่ และมองว่า ความอิสระทางวิชาการจะเป็นบ่อเกิดของการพัฒนาการศึกษาในทางที่ดี ซึ่งขณะนี้กำลังจะประสานกับสำนักงบประมาณกระทรวงการคลัง ในการดำเนินการจัดสรรงบให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบไปแล้วตามที่รัฐได้เคยตกลงกันไว้ เพื่อให้มหาวิทยาลัยมีความมั่นใจ เนื่องจากมีมหาวิทยาลัยบางแห่งที่ออกนอกระบบไป แล้วประสบปัญหา เพราะยังไม่ได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณ ทำให้ประสิทธิภาพของมหาวิทยาลัยลดลง และมีปัญหามาก ดังนั้น ควรเร่งแก้ไขปัญหาตรงจุดนี้ให้ได้ เพื่อให้มหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบไปแล้วเกิดความมั่นใจมากขึ้น
“ผมจะไม่เร่ง ไม่ยุ ไม่ห้าม หรือบังคับให้มหาวิทยาลัยใดออกนอกระบบ แต่หากมหาวิทยาลัยใดพร้อมผมก็ยินดีที่จะให้การสนับสนุน ซึ่งมหาวิทยาลัยที่จะออกนอกระบบทีหลังนี้ จะได้เปรียบ เพราะได้เห็นมหาวิทยาลัย 13 แห่งที่ออกไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ก็มีปัญหาอยู่ 6-7 แห่ง ที่รัฐบาลที่แล้วไม่ยอมจัดสรรงบประมาณให้ตามที่เคยตกลงไว้กับมหาวิทยาลัย ทำให้มีปัญหา ดังนั้น มหาวิทยาลัยที่จะออกนอกระบบทีหลังก็ควรนำปัญหาเหล่านี้มาร่างเป็นกฎหมาย หรือระเบียบ เพื่อปิดช่องของปัญหาไว้ รวมทั้งปัญหาบุคลากรที่เคยเป็นข้าราชการ เมื่อมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ไม่อยากเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ก็ต้องไปพิจารณา เพราะถือเป็นการตัดสินใจของมหาวิทยาลัยที่ร่างกฎหมายไว้เอง” นายชัยวุฒิ กล่าว
นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงการออกนอกระบบของมหาวิทยาลัย ว่า ตนพร้อมจะส่งเสริมเรื่องการออกระบบของมหาวิทยาลัยอย่างเต็มที่ และมองว่า ความอิสระทางวิชาการจะเป็นบ่อเกิดของการพัฒนาการศึกษาในทางที่ดี ซึ่งขณะนี้กำลังจะประสานกับสำนักงบประมาณกระทรวงการคลัง ในการดำเนินการจัดสรรงบให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบไปแล้วตามที่รัฐได้เคยตกลงกันไว้ เพื่อให้มหาวิทยาลัยมีความมั่นใจ เนื่องจากมีมหาวิทยาลัยบางแห่งที่ออกนอกระบบไป แล้วประสบปัญหา เพราะยังไม่ได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณ ทำให้ประสิทธิภาพของมหาวิทยาลัยลดลง และมีปัญหามาก ดังนั้น ควรเร่งแก้ไขปัญหาตรงจุดนี้ให้ได้ เพื่อให้มหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบไปแล้วเกิดความมั่นใจมากขึ้น
“ผมจะไม่เร่ง ไม่ยุ ไม่ห้าม หรือบังคับให้มหาวิทยาลัยใดออกนอกระบบ แต่หากมหาวิทยาลัยใดพร้อมผมก็ยินดีที่จะให้การสนับสนุน ซึ่งมหาวิทยาลัยที่จะออกนอกระบบทีหลังนี้ จะได้เปรียบ เพราะได้เห็นมหาวิทยาลัย 13 แห่งที่ออกไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ก็มีปัญหาอยู่ 6-7 แห่ง ที่รัฐบาลที่แล้วไม่ยอมจัดสรรงบประมาณให้ตามที่เคยตกลงไว้กับมหาวิทยาลัย ทำให้มีปัญหา ดังนั้น มหาวิทยาลัยที่จะออกนอกระบบทีหลังก็ควรนำปัญหาเหล่านี้มาร่างเป็นกฎหมาย หรือระเบียบ เพื่อปิดช่องของปัญหาไว้ รวมทั้งปัญหาบุคลากรที่เคยเป็นข้าราชการ เมื่อมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ไม่อยากเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ก็ต้องไปพิจารณา เพราะถือเป็นการตัดสินใจของมหาวิทยาลัยที่ร่างกฎหมายไว้เอง” นายชัยวุฒิ กล่าว
