กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัย ประเทศไทยตอนบนมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ ในระยะ 1-2 วันนี้ ขณะที่อธิบดีกรมอนามัยชี้หมอกที่เกิดขึ้นไม่อันตรายต่อสุขภาพแต่ผู้ขับขี่ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง
เช้าวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัยฉบับที่ 27 ว่าเนื่องจากในวันที่ 24-25 มกราคม ลมตะวันออกเฉียงใต้ได้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้เกิดการปะทะกันของมวลอากาศชื้นกับมวลอากาศเย็นและแห้ง ส่งผลให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกเพิ่มมากขึ้น โดยจะมีหมอกหนาและหมอกลงจัดในหลายพื้นที่ในช่วงเวลา 06.00 - 10.00 น. รวมทั้งมีฝนเล็กน้อยเกิดขึ้นได้ด้วย ซึ่งจะทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นในแนวราบต่ำกว่า 100 เมตรลงมา ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง การคมนาคมและขนส่งในช่วงเวลาดังกล่าวได้ จึงขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะและผู้เดินทางไปในพื้นที่ต่างๆ ระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกลงจัด โดยการเปิดไฟตัดหมอกสีเหลือง และลดความเร็วลงในขณะขับขี่ยานพาหนะในบริเวณที่มีหมอกหนาหรือหมอกลงจัดไว้
นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงหมอกที่ปกคลุมในทุกพื้นที่ของประเทศว่า หากจำแนกหมอกที่เกิดขึ้นในช่วงวันนี้ (24 ม.ค.)เกิดจากสภาพอากาศร้อนที่มาปะทะกับสภาพอากาศเย็นทำให้เกิดหมอกหนาในหลายพื้นที่ ซึ่งมีความแตกต่างกับหมอกควันที่เกิดขึ้นจากการควันไฟที่จะมีทั้ง ฝุ่นควันจากขี้เถ้าและความร้อน ซึ่งหมอกจากอากาศนี้ไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ แต่ผู้ที่อาศัยในพื้นที่หนาวเย็น โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ ควรเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย โดยสวมใส่เสื้อกันหนาว หรือห่มผ้าห่ม ส่วนผู้มีมีโรคประจำตัวระบบทางเดินหายใจ ควรระมัดระวังตัวทำร่างกายให้อบอุ่นด้วย เพราะสภาพอากาศดังกล่าวจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดอาการได้ นอกจากนี้ ยังเตือนผู้ขับขี่ยานพาหนะให้เพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากหมอกจะบดบังทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ยานพาหนะลดลง
เช้าวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัยฉบับที่ 27 ว่าเนื่องจากในวันที่ 24-25 มกราคม ลมตะวันออกเฉียงใต้ได้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้เกิดการปะทะกันของมวลอากาศชื้นกับมวลอากาศเย็นและแห้ง ส่งผลให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกเพิ่มมากขึ้น โดยจะมีหมอกหนาและหมอกลงจัดในหลายพื้นที่ในช่วงเวลา 06.00 - 10.00 น. รวมทั้งมีฝนเล็กน้อยเกิดขึ้นได้ด้วย ซึ่งจะทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นในแนวราบต่ำกว่า 100 เมตรลงมา ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง การคมนาคมและขนส่งในช่วงเวลาดังกล่าวได้ จึงขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะและผู้เดินทางไปในพื้นที่ต่างๆ ระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกลงจัด โดยการเปิดไฟตัดหมอกสีเหลือง และลดความเร็วลงในขณะขับขี่ยานพาหนะในบริเวณที่มีหมอกหนาหรือหมอกลงจัดไว้
นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงหมอกที่ปกคลุมในทุกพื้นที่ของประเทศว่า หากจำแนกหมอกที่เกิดขึ้นในช่วงวันนี้ (24 ม.ค.)เกิดจากสภาพอากาศร้อนที่มาปะทะกับสภาพอากาศเย็นทำให้เกิดหมอกหนาในหลายพื้นที่ ซึ่งมีความแตกต่างกับหมอกควันที่เกิดขึ้นจากการควันไฟที่จะมีทั้ง ฝุ่นควันจากขี้เถ้าและความร้อน ซึ่งหมอกจากอากาศนี้ไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ แต่ผู้ที่อาศัยในพื้นที่หนาวเย็น โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ ควรเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย โดยสวมใส่เสื้อกันหนาว หรือห่มผ้าห่ม ส่วนผู้มีมีโรคประจำตัวระบบทางเดินหายใจ ควรระมัดระวังตัวทำร่างกายให้อบอุ่นด้วย เพราะสภาพอากาศดังกล่าวจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดอาการได้ นอกจากนี้ ยังเตือนผู้ขับขี่ยานพาหนะให้เพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากหมอกจะบดบังทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ยานพาหนะลดลง
