รมว.ศธ.-รมว.กษ หารือนอกรอบ เตรียมขยายโครงการนมโรงเรียนถึง ป.5-6 ทุกสังกัด เติมงบเติมอีก 2 พันล้าน เสนอ ครม.สัปดาห์หน้า
วันนี้ (20 ม.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ตน และนายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการหารือกันนอกรอบเกี่ยวกับการขยายโครงการอาหารเสริมนมโรงเรียน ซึ่งก่อนหน้าเคยหารือกันไปบ้างแล้ว ซึ่งวันนี้มีความเห็นตรงกัน ว่า ควรขยายโครงการอาหารเสริมนมฯให้ครอบคลุม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ ป.6 ในทุกสังกัด เพราะขณะนี้รัฐบาลจัดให้เด็กระดับอนุบาลถึง ป.4 ดื่มนม หรือประมาณ 5 ล้านคน ใช้งบประมาณ 8 พันล้านบาท ถ้ามีการขยายโครงการนมโรงเรียนไปจนถึง ป.6 จะเพิ่มขึ้นประมาณ จำนวน 1.5 ล้านคน ใช้งบประมาณเพิ่มอีก 2,000 ล้านบาท
“พูดคุยนอกรอบใน ครม.เบื้องต้นที่ประชุมเห็นชอบในหลักการให้ขยายโครงการอาหารเสริมนม ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว เพราะต้องการให้นักเรียนได้ดื่มนมครบทุกคน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ มอบให้กระทรวงเกษตรฯ เป็นเจ้าภาพจัดทำรายละเอียดเสนอโครงการนี้เข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในสัปดาห์หน้า รวมทั้ง รายละเอียดเกี่ยวกับการจัดซื้อ ส่งนมไปยังโรงเรียน เพื่อป้องกันปัญหาส่งนมล่าช้าจนเกิดปัญหานมบูดเหมือนในอดีต”
วันนี้ (20 ม.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ตน และนายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการหารือกันนอกรอบเกี่ยวกับการขยายโครงการอาหารเสริมนมโรงเรียน ซึ่งก่อนหน้าเคยหารือกันไปบ้างแล้ว ซึ่งวันนี้มีความเห็นตรงกัน ว่า ควรขยายโครงการอาหารเสริมนมฯให้ครอบคลุม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ ป.6 ในทุกสังกัด เพราะขณะนี้รัฐบาลจัดให้เด็กระดับอนุบาลถึง ป.4 ดื่มนม หรือประมาณ 5 ล้านคน ใช้งบประมาณ 8 พันล้านบาท ถ้ามีการขยายโครงการนมโรงเรียนไปจนถึง ป.6 จะเพิ่มขึ้นประมาณ จำนวน 1.5 ล้านคน ใช้งบประมาณเพิ่มอีก 2,000 ล้านบาท
“พูดคุยนอกรอบใน ครม.เบื้องต้นที่ประชุมเห็นชอบในหลักการให้ขยายโครงการอาหารเสริมนม ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว เพราะต้องการให้นักเรียนได้ดื่มนมครบทุกคน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ มอบให้กระทรวงเกษตรฯ เป็นเจ้าภาพจัดทำรายละเอียดเสนอโครงการนี้เข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในสัปดาห์หน้า รวมทั้ง รายละเอียดเกี่ยวกับการจัดซื้อ ส่งนมไปยังโรงเรียน เพื่อป้องกันปัญหาส่งนมล่าช้าจนเกิดปัญหานมบูดเหมือนในอดีต”