กรมอุตุนิยมวิทยารายงานอุณหภูมิในวันนี้ถึงเช้าวันพรุ่งนี้จะสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในเกณฑ์อากาศหนาวเย็น มีหมอกในตอนเช้า ขณะทื่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประกาศพื้นที่ฉุกเฉินภัยหนาว 47 จังหวัดแล้ว
บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่ในเกณฑ์อากาศหนาวเย็น โดยมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกในระยะนี้ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป สูงประมาณ 2 เมตร
สำหรับอุณหภูมิรายภาค ดังนี้ ภาคเหนือ อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 9-12 องศา อุณหภูมิสูงสุด 25-27 องศา บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-5 องศาและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาว อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศา อุณหภูมิสูงสุด 24-26 องศา บริเวณยอดภู มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-9 องศา ภาคกลาง อากาศหนาว อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย โดยมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา อุณหภูมิสูงสุด 26-27 องศา กรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศเย็น อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย และมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-18 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-28 องศา
ภาคตะวันออก อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อยและมีหมอกในตอนเช้า อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศเย็น และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากตั้งแต่จังหวัดพัทลุงลงไป อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 26-28 องศา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศเย็น และมีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประกาศพื้นที่ฉุกเฉินจากภัยหนาว 47 จังหวัดแบ่งเป็นภาคเหนือ 17 จังหวัด อีสาน 19 จังหวัด ภาคกลาง 7 จังหวัด ภาคตะวันออก 4 จังหวัด มีการตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว และแจกเครื่องนุ่งห่มกันหนาวกว่า 200,000 ชุด สนับสนุนเพิ่มเติมให้กับจังหวัดที่ประสบภาวะอากาศหนาวเย็นต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส ติดต่อกันเกิน 3 วัน
บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่ในเกณฑ์อากาศหนาวเย็น โดยมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกในระยะนี้ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป สูงประมาณ 2 เมตร
สำหรับอุณหภูมิรายภาค ดังนี้ ภาคเหนือ อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 9-12 องศา อุณหภูมิสูงสุด 25-27 องศา บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-5 องศาและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาว อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศา อุณหภูมิสูงสุด 24-26 องศา บริเวณยอดภู มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-9 องศา ภาคกลาง อากาศหนาว อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย โดยมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา อุณหภูมิสูงสุด 26-27 องศา กรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศเย็น อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย และมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-18 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-28 องศา
ภาคตะวันออก อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อยและมีหมอกในตอนเช้า อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศเย็น และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากตั้งแต่จังหวัดพัทลุงลงไป อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 26-28 องศา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศเย็น และมีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประกาศพื้นที่ฉุกเฉินจากภัยหนาว 47 จังหวัดแบ่งเป็นภาคเหนือ 17 จังหวัด อีสาน 19 จังหวัด ภาคกลาง 7 จังหวัด ภาคตะวันออก 4 จังหวัด มีการตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว และแจกเครื่องนุ่งห่มกันหนาวกว่า 200,000 ชุด สนับสนุนเพิ่มเติมให้กับจังหวัดที่ประสบภาวะอากาศหนาวเย็นต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส ติดต่อกันเกิน 3 วัน