อุตุฯ ชี้ความกดอากาศสูงกำลังแรงจากจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทย ทำให้อากาศหนาวเย็น อุณหภูมิลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส จนถึงวันที่ 15 ม.ค. เตือนเหนือ-อีสาน หนาวจัดในบางพื้นที่ โดยเฉพาะยอดดอย-ภู ส่วนภาคใต้ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ฯ ฝนยังคงตกเรือเล็กในอ่าวไทยงดออกจากฝั่งช่วงวันที่ 11-15 ม.ค.นี้
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศในเช้าวันนี้ (11 มกราคม) ว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทย และอ่าวไทยต่อไปอีก ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นลงโดยทั่วไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2552 อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส และมีลมแรง
สำหรับกรุงเทพมหานคร (กทม.) อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 13-14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-28 องศาเซลเซียส ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศหนาวจัดในบางพื้นที่ รวมทั้งบริเวณยอดดอย ยอดภู และบริเวณเทือกเขาสูงจะมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่
ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังแรง ทำให้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงไปถึงนราธิวาส มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยคลื่นสูง 2-4 เมตร และบริเวณชายฝั่งของภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีคลื่นลมแรงพัดเข้าหาฝั่ง ขอให้ชาวเรือและชาวประมงระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือเล็กในอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 11-15 มกราคม 2552
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศในเช้าวันนี้ (11 มกราคม) ว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทย และอ่าวไทยต่อไปอีก ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นลงโดยทั่วไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2552 อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส และมีลมแรง
สำหรับกรุงเทพมหานคร (กทม.) อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 13-14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-28 องศาเซลเซียส ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศหนาวจัดในบางพื้นที่ รวมทั้งบริเวณยอดดอย ยอดภู และบริเวณเทือกเขาสูงจะมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่
ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังแรง ทำให้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงไปถึงนราธิวาส มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยคลื่นสูง 2-4 เมตร และบริเวณชายฝั่งของภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีคลื่นลมแรงพัดเข้าหาฝั่ง ขอให้ชาวเรือและชาวประมงระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือเล็กในอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 11-15 มกราคม 2552