xs
xsm
sm
md
lg

คลายเครียดปี 52 ด้วยสมุนไพรไทย “ขี้เหล็ก กะทกรก ยอ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อยเกิดความเครียด ท้อแท้กับชีวิต บางคราวถึงกับมีข่าวคิดสั้นฆ่าตัวตายให้ได้รับรู้รับทราบ เป็นที่น่าสลดใจยิ่ง มาในขณะนี้ ช่วงไตรมาสสุดท้ายในปี 2551 “วิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์” พ่นพิษอยู่ในซีกโลกตะวันตก ส่งผลให้เกิดการเลิกจ้างในบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง และมีการคาดการณ์โดยนักเศรษฐศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญ ว่า ในปี พ.ศ.2552 วิกฤตดังกล่าวจะกระทบมาถึงไทย โดยเฉพาะกับชนชั้นกลาง ตลอดจนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ แน่นอนว่า คนไทยอีกไม่น้อย จะต้องกลับไปอยู่ในภาวะตึงเครียดจากภาวะขาดสภาพคล่องทางการเงินอีกครั้ง
ดอกขี้เหล็ก
ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว เภสัชกรประจำโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งเป็นโรงพยาบาลหนึ่งที่สนับสนุนการแพทย์แผนไทยด้วยการรักษาโดยยาสมุนไพรและภูมิปัญญาพื้นบ้าน ได้แนะนำวิธีการคลายเครียดว่า สามารถใช้สมุนไพรพื้นบ้านแบบง่ายๆ หาได้สะดวกตามท้องตลาดทั่วไป ราคาไม่แพง และที่สำคัญคือไม่ต้องเสียสตางค์เพื่อไปพึ่งพายาแผนปัจจุบันที่อาจหลงเหลือสารเคมีตกค้างในร่างกาย หรืออาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

“อย่างแรกน่าจะเป็นที่รู้จักกันดี เพราะหลายบ้านนิยมรับประทานและสรรพคุณก็เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง นั่นก็คือ “ขี้เหล็ก” ซึ่งจากการวิจัยสารในขี้เหล็กนั้น เราพบสารที่เรียกว่า “บาราคอล” (Baracol) ที่ออกฤทธิ์กล่อมประสาทอยู่ ดังนั้นการรับประทานขี้เหล็กจะช่วยในการนอนหลับ เพราะในตัวมันเองมีฤทธิ์เป็นยานอนหลับอย่างอ่อนๆ และอีกประการหนึ่งที่คนไม่ค่อยทราบคือ ขี้เหล็กยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายด้วย ซึ่งเหมาะมากต่อทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะคนสูงอายุที่หลับยากและถ่ายยาก เมื่อรับประทานขี้เหล็กเข้าไปจะทำให้หลับง่ายและได้ทั้งระบายท้องอีกด้วย”

นอกจากนี้ ยังมีสมุนไพรที่น่าสนใจอีก 2 ชนิด โดยชนิดแรกคือ “กะทกรก” หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในนามของ “เสาวรส” หรือ “แพชชันฟรุต” (Passion Fruit) นั่นเอง ถึงตรงนี้ผู้ที่ชื่นชอบในความเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดของผลไม้ชนิดนี้อาจจะแอบเถียงในใจว่า รสเปรี้ยวของเสาวรสน่าจะช่วยให้สดชื่นตื่นตาด้วยซ้ำไป ไม่น่าจะมีฤทธิ์ทำให้ง่วงหรือคลายเครียดได้เลย
ผลกะทกรก (เสาวรส)
ตรงนี้ ภญ.ผกากรอง ให้ข้อมูลว่า กะทกรกเป็นสมุนไพรคลายเครียดจริง โดยมีการศึกษาและวิจัยใน ต่างประเทศ จนกระทั่งในขณะนี้ มีการสกัดออกมาเป็นแคปซูลกะทกรก และขายกันในราคาที่แพงมาก แต่ก็นับเป็นความโชคดีของประเทศไทย ที่มีพืชสมุนไพรเหล่านี้มากมาย

“กะทกรกเป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาไทย เมื่อก่อนจะใช้พันธุ์กะทกรกไทย กะทกรกบ้าน แต่ตอนนี้มีกะทกรกฝรั่งเข้ามา ก็ใช้กันได้ เพราะมาจากสายพันธุ์เดียวกัน สรรพคุณออกฤทธิ์เป็นยานอนหลับ แต่ถ้ากินผล กินน้ำจากผล สารที่เป็นยานอนหลับจะมีไม่มาก หากต้องการรับประทานเป็นยานอนหลับ ยาคลายเครียด ให้รับประทานส่วนใบและส่วนยอด โดยนำไปตากแดดและชงเป็นชาสำหรับดื่ม หรือจะนำส่วนยอดมาลวกจิ้มน้ำพริกเป็นกับข้าวก็ได้”

สำหรับสมุนไพรคลายเครียดตัวสุดท้าย คือ “ยอ” ซึ่งมีฤทธิ์กล่อมประสาท เป็นยานอนหลับอ่อนๆ เช่นกัน วิธีรับประทานเป็นยาก็ไม่ยาก ภญ.ผกากรองแนะนำให้นำลูกยอไปฝานเป็นแว่นๆ ตากแดดให้แห้ง เมื่อจะรับประทานก็นำแว่นลูกยอที่ตากแห้งดีแล้ว ใส่แก้วก่อนจะเทน้ำร้อนตาม ทิ้งไว้สักครู่ และดื่มในลักษณะดื่มชา
ยอ
“ลูกยอนี่นอกจากจะกล่อมประสาททำให้หลับง่ายแล้ว ยังมีสรรพคุณอื่นๆ มากมาย ทั้งการบำรุงสมอง บำรุงการไหลเวียนของเส้นเลือดในสมอง ทำให้สมาธิดีขึ้น ลักษณะการบำรุงสมองของลูกยอจะคล้ายๆ การที่เรากินแปะก้วยให้ความจำดี” เภสัชกรสาวทิ้งท้าย




 

“เมนูอร่อยง่ายๆ คลายเครียด”

น้ำลูกยอ
- วิธีการทำน้ำลูกยอคั้นอร่อยๆ ทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก โดยการนำลูกยอสดๆ ที่แก่จัด นำมาคั้นในเครื่องคั้นน้ำผลไม้แยกกาก จากนั้นนำน้ำลูกยอคั้นสดมาผสมกับน้ำมะนาว น้ำตาล (หรือน้ำเชื่อม หรือน้ำผึ้งก็ได้) ปรุงให้ได้รสพอเหมาะ อาจจะใส่น้ำแข็งหรือนำไปแช่ตู้เย็น เพื่อรสชาติและอุณหภูมิที่ดื่มแล้วสดชื่น รับรองว่ากลิ่นไม่เขียวขื่นและดื่มง่ายอร่อยมาก
แกงขี้เหล็ก

วัตถุดิบที่ต้องเตรียม

- ใบและยอดขี้เหล็กอ่อน 6-7 ถ้วย
- เนื้อวัวติดมันนิดหน่อย 300 กรัม
- มะพร้าวขูด 1/2 กิโลกรัม
- น้ำตาลปีบ 1 ช้อนโต๊ะ
- ปลาร้า 1/4 ถ้วย
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ

1.ต้มใบและดอกขี้เหล็ก เทน้ำทิ้ง 2 ครั้ง จะได้เนื้อประมาณ 2 ถ้วย บีบน้ำออก หั่นหยาบ (เฉพาะใบ)
2.คั้นมะพร้าวให้ได้หัวกะทิ 1 1/2 ถ้วย หางกะทิ 2 ถ้วย
3.ย่างเนื้อวัวแบบน้ำตก ใช้ไฟร้อน ให้ผิวนอกเกรียม ข้างในสุกๆ ดิบๆ หั่นบางตามขวางของเนื้อ
4.ต้มปลาร้าในน้ำ 3/4 ถ้วย เคี่ยวให้เหลือน้ำปลาร้า 1/2 ถ้วย กรองเอากากทิ้งเก็บน้ำไว้
5.โขลกพริกแห้ง หอม กระเทียม ข่า ตะไคร้ กระชาย พริกไทย เกลือ ให้ละเอียด แล้วใส่ปลากรอบป่นลงไปโขลกให้เข้ากัน
6.แบ่งหัวกะทิมา 1 ถ้วย ใส่กระทะตั้งไฟเคี่ยวให้แตกมัน ใส่เครื่องที่โขลกไว้ในข้อ 5 ลงไปผัดให้หอม ตักใส่หม้อ ใส่หางกะทิ ขี้เหล็ก น้ำปลาร้า เนื้อ
7.ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ชิมรสให้พอดี แล้วราดด้วยหัวกะทิที่เหลือ พอเดือดอีกครั้งปิดไฟ

กำลังโหลดความคิดเห็น