'สยามไทโย ฟาร์ม' คือฟาร์มกล้วยไม้ส่งออกรายใหญ่ของไทยตั้งอยู่ที่ อ. กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ที่ฟาร์มกล้วยไม้แห่งนี้มีพื้นที่การปลูกทั้งหมด 50 ไร่ แบ่งออกเป็นพื้นที่เพื่อให้บริการความรู้เรื่องกล้วยไม้ส่วนหนึ่งและอีกส่วนหนึ่งเป็นฟาร์มเพาะเลี้ยงกล้วยไม้เพื่อการส่งออก
แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย...
ว่าที่ร้อยตรีชัชวาลย์ เกตุแก้ว ผู้บริหารงานฟาร์มเล่าว่า จากการที่พื้นเพครอบครัวเป็นเกษตรกร อยู่กับอาชีพนี้มาตั้งแต่เด็ก จึงทำให้ได้เรียนรู้การเป็นเกษตรกรทำสวนกล้วยไม้ตัดดอกเพื่อส่งออกให้แก่บริษัทที่รับซื้อมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 จากนั้นด้วยความตั้งใจจริงในการทำธุรกิจส่งออกกล้วยไม้ ทำให้ชัชวาลย์ไปศึกษาต่อโดยตรงทางด้านภาษาและธุรกิจการส่งออกกล้วยไม้ที่มหาวิทยาลัยริวกิว ประเทศญี่ปุ่นและได้นำความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาจัดตั้งบริษัท สยามไทโย ฟาร์ม จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านการผลิตและส่งออกกล้วยไม้ เมื่อปี พ.ศ. 2537
“ขั้นตอนการตัดดอกเพื่อส่งออกทั้งในและต่างประเทศนั้นมีอยู่เพียง 3 ขั้นตอนหลักเท่านั้น คือ ตัด แพกและส่งออก กล่าวคือหลังจากที่เราตัดดอกมาจากต้นแล้วก็จะนำมาแยกเป็นช่อ โดยช่อดอกที่ดีนั้นต้องให้ดอกประมาณ 6 -7 ดอก เมื่อคัดแยกเสร็จก็จะนำเข้าห้องแพกเพื่อคัดแยกสายพันธุ์ หลังจากนั้นก็จะนำใส่กล่อง พร้อมทั้งนำเข้าห้องแก๊สเพื่อรมควันกำจัดเพลี้ยไฟที่มองไม่เห็น ประมาณ 1ชั่วโมงครึ่ง เมื่อเสร็จสิ้นกรรมวิธีแล้วก็จะจัดส่งตามออเดอร์ของลูกค้า”
สำหรับประเทศที่มีการสั่งซื้อกล้วยไม้มากที่สุด ชัชวาลย์บอกว่าคือ ญี่ปุ่น โดยมียอดการสั่งถึง 80 % รองลงมาคืออิตาลี สหรัฐฯ อินเดีย จีน ซึ่งสายพันธุ์ที่เป็นที่ต้องการของตลาดคือ พันธุ์หวาย ขณะเดียวกันก็ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและสายพันธุ์ที่เพิ่งคิดค้นมาได้คือ พันธุ์หวายแอนนีนา ไทโย และ พันธุ์หวายนาตาลี ไทโย ซึ่งได้ทำการจดลิขสิทธิ์ไว้เรียบร้อยแล้ว
“พันธุ์หวายแอนนาจะเป็นพันธุ์ที่ลูกค้าต้องการมากและมียอดส่งออกสูงที่สุด พันธุ์นี้จะมีปัญหาตรงที่มันจะหยุดให้ดอก 4 เดือน จึงทำให้ผมคิดค้นก๊อบปี้สายพันธุ์นี้ขึ้นมาคือ แอนนีนาจะแตกต่างกันเพียงสีชมพูของดอกที่จะอ่อนกว่า แอนนา แต่ถ้าดูดีๆแล้วก็แทบไม่ต่างกันเลยสามารถนำมาทดแทนกันได้ในช่วงที่ไม่ออกดอก”
“จังหวัดที่เป็นอันดับหนึ่งในการส่งกล้วยไม้คือนครปฐม รองลงมาก็จะเป็นสมุทรสาคร แต่ที่นี่ก็จะมีปัญหาเรื่องของน้ำเสีย และสภาพอากาศ ทำให้ผมคิดทำหลังคาเพิงหมาแหงนขึ้นมาเพื่อระบายอากาศและควบคุมทิศทางลมที่จะมีผลต่อกล้วยไม้ ซึ่งตอนนี้ก็มีชาวบ้านนำไปปรับใช้ในสวนของตัวเองบ้างแล้ว” ชัชวาลย์ให้ข้อมูล
ทั้งนี้ ในงาน สมุทรสาคร เอ็กซ์โป 2008 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-14 ธ.ค.นี้ที่ตลาดทะเลไทย สยามไทโยฟาร์มก็จะนำกล้วยไม้สายพันธุ์ใหม่อย่างนาตาลี ไทโย และ แอนนีนา ไทโย พร้อมกับกล้วยไม้สายพันธุ์ต่างๆ เข้าร่วมงานแสดงด้วย
แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย...
ว่าที่ร้อยตรีชัชวาลย์ เกตุแก้ว ผู้บริหารงานฟาร์มเล่าว่า จากการที่พื้นเพครอบครัวเป็นเกษตรกร อยู่กับอาชีพนี้มาตั้งแต่เด็ก จึงทำให้ได้เรียนรู้การเป็นเกษตรกรทำสวนกล้วยไม้ตัดดอกเพื่อส่งออกให้แก่บริษัทที่รับซื้อมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 จากนั้นด้วยความตั้งใจจริงในการทำธุรกิจส่งออกกล้วยไม้ ทำให้ชัชวาลย์ไปศึกษาต่อโดยตรงทางด้านภาษาและธุรกิจการส่งออกกล้วยไม้ที่มหาวิทยาลัยริวกิว ประเทศญี่ปุ่นและได้นำความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาจัดตั้งบริษัท สยามไทโย ฟาร์ม จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านการผลิตและส่งออกกล้วยไม้ เมื่อปี พ.ศ. 2537
“ขั้นตอนการตัดดอกเพื่อส่งออกทั้งในและต่างประเทศนั้นมีอยู่เพียง 3 ขั้นตอนหลักเท่านั้น คือ ตัด แพกและส่งออก กล่าวคือหลังจากที่เราตัดดอกมาจากต้นแล้วก็จะนำมาแยกเป็นช่อ โดยช่อดอกที่ดีนั้นต้องให้ดอกประมาณ 6 -7 ดอก เมื่อคัดแยกเสร็จก็จะนำเข้าห้องแพกเพื่อคัดแยกสายพันธุ์ หลังจากนั้นก็จะนำใส่กล่อง พร้อมทั้งนำเข้าห้องแก๊สเพื่อรมควันกำจัดเพลี้ยไฟที่มองไม่เห็น ประมาณ 1ชั่วโมงครึ่ง เมื่อเสร็จสิ้นกรรมวิธีแล้วก็จะจัดส่งตามออเดอร์ของลูกค้า”
สำหรับประเทศที่มีการสั่งซื้อกล้วยไม้มากที่สุด ชัชวาลย์บอกว่าคือ ญี่ปุ่น โดยมียอดการสั่งถึง 80 % รองลงมาคืออิตาลี สหรัฐฯ อินเดีย จีน ซึ่งสายพันธุ์ที่เป็นที่ต้องการของตลาดคือ พันธุ์หวาย ขณะเดียวกันก็ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและสายพันธุ์ที่เพิ่งคิดค้นมาได้คือ พันธุ์หวายแอนนีนา ไทโย และ พันธุ์หวายนาตาลี ไทโย ซึ่งได้ทำการจดลิขสิทธิ์ไว้เรียบร้อยแล้ว
“พันธุ์หวายแอนนาจะเป็นพันธุ์ที่ลูกค้าต้องการมากและมียอดส่งออกสูงที่สุด พันธุ์นี้จะมีปัญหาตรงที่มันจะหยุดให้ดอก 4 เดือน จึงทำให้ผมคิดค้นก๊อบปี้สายพันธุ์นี้ขึ้นมาคือ แอนนีนาจะแตกต่างกันเพียงสีชมพูของดอกที่จะอ่อนกว่า แอนนา แต่ถ้าดูดีๆแล้วก็แทบไม่ต่างกันเลยสามารถนำมาทดแทนกันได้ในช่วงที่ไม่ออกดอก”
“จังหวัดที่เป็นอันดับหนึ่งในการส่งกล้วยไม้คือนครปฐม รองลงมาก็จะเป็นสมุทรสาคร แต่ที่นี่ก็จะมีปัญหาเรื่องของน้ำเสีย และสภาพอากาศ ทำให้ผมคิดทำหลังคาเพิงหมาแหงนขึ้นมาเพื่อระบายอากาศและควบคุมทิศทางลมที่จะมีผลต่อกล้วยไม้ ซึ่งตอนนี้ก็มีชาวบ้านนำไปปรับใช้ในสวนของตัวเองบ้างแล้ว” ชัชวาลย์ให้ข้อมูล
ทั้งนี้ ในงาน สมุทรสาคร เอ็กซ์โป 2008 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-14 ธ.ค.นี้ที่ตลาดทะเลไทย สยามไทโยฟาร์มก็จะนำกล้วยไม้สายพันธุ์ใหม่อย่างนาตาลี ไทโย และ แอนนีนา ไทโย พร้อมกับกล้วยไม้สายพันธุ์ต่างๆ เข้าร่วมงานแสดงด้วย