แม้จะเป็นเวลาเกือบสี่โมงเย็นแล้ว แต่แสงแดดที่สาดส่องลงมาตั้งแต่เที่ยงมิได้ลดน้อยลงเลย แม้กระนั้นบริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ที่ตั้งพระเมรุในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชครินทร์ แห่งนี้ ยังคราคร่ำไปด้วยผู้คนมากมาย ที่มายืนรายล้อมพระเมรุราวกับหวงแหนสิ่งที่อยู่ข้างในยิ่งนัก ผู้คนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มาที่นี่ด้วยจุดประสงค์เดียวกันทั้งสิ้น คือ การที่ได้มา รำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ “นางฟ้าในดวงใจ” ของปวงชนชาวไทยทุกคน
“สุภาพร ชัยสิทธิ์” นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ คือ อีกหนึ่งคนที่มาที่ท้องสนามหลวงแห่งนี้ เพื่อมาร่วมถวายอาลัยกับการจากไปของ “พระพี่นางฯ” ผู้เป็นที่รักยิ่ง สุภาพร บอกถึงจุดประสงค์ที่มาที่นี่ว่า เธอมาเพื่อเก็บความทรงจำเกี่ยวกับพระพี่นางโดยการถ่ายรูปพระเมรุไว้เป็นที่ระลึก
“ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เข้าไปถ่ายรูปถึงภายในพระเมรุ แต่แค่รอบบริเวณนี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเรา เพราะถึงจะถ่ายจากข้างนอกหรือข้างใน แต่ภาพที่ได้ออกมานั้นก็ยังคงเป็นภาพที่สถิตอยู่ในดวงใจตลอดไป ” สุภาพร กล่าว
โดยรอบบริเวณท้องสนามหลวงนั้น เต็มไปด้วยผู้คนที่ต้องการมาเพื่อถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกมากมาย ทั้งนักเรียน นักศึกษา คนทำงานรวมไปจนถึงผู้เฒ่าผู้แก่ ที่ต่างมีความเคารพรักในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ผู้คนที่มองภาพพระเมรุผ่านเลนส์กล้องนั้น ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า สวยงามและยิ่งใหญ่ สะท้อนให้เห็นถึงความจงรักภักดีของพสกนิกรชาวไทยที่มีต่อนางฟ้าพระองค์นี้
“อิสริยะ แก้วดก” กล่าวว่า ตนมาถ่ายรูปเพราะความสวยงามของพระเมรุที่ยิ่งใหญ่พอๆ กับงานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ “สมเด็จย่า” ที่ตัวเองเคยมาถ่ายไว้เช่นกัน แม้จุดประสงค์หลักจะถ่ายไว้เพื่อความสวยงาม แต่ในใจแล้วก็ยังคงรู้สึกไว้อาลัยกับการจากไปของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
“ตอนงานของสมเด็จย่าก็มาถ่ายเก็บไว้เหมือนกัน ก็คงเหมือนกับคนทั่วไปที่ต้องการจะเก็บรูปของราชวงศ์ไว้ให้ลูกหลานได้ดูกัน ว่า สมัยที่เราอยู่นั้นขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นอย่างไร และอยากให้เขาได้รู้ว่าคนไทยนั้นไม่ว่าจะยุคสมัยไหนก็ยังคงไว้ซึ่งความจงรักภักดีต่อ พระเจ้าแผ่นดิน และราชวงศ์เสมอมา” อิสริยะ กล่าว
“ป้าก็มาที่นี่เหมือนอย่างคนอื่นๆ เขา มาเพื่อถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกให้ได้นึกถึงท่าน แล้วก็รู้สึกทึ่งกับงานฝีมือของคนไทยที่สร้างพระเมรุได้ยิ่งใหญ่ และสวยงามมากขนาดนี้ มันแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีและการรักษาประเพณีดั้งเดิมของไทยไว้ไม่เปลี่ยนแปลง เพื่อให้สมกับพระเกียรติของพระพี่นางฯ”
เสียงสะท้อนของ ป้าวิไล หญิงวัยกลางคนที่มาถ่ายรูปที่นี่ พร้อมกับหลานสาวกล่าวถึงความรู้สึกที่อยู่ในใจของตนว่า รู้สึกสำนึกในพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย เพื่อให้ปวงชนชาวไทยได้ได้รับสิ่งที่ดีในชีวิต การที่ได้มาเห็นพระเมรุแม้จะอยู่รอบนอกก็ตาม แต่แค่นั้นก็สัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ งดงามของพระเมรุไม่ต่างกับผู้คนที่ได้เข้าไปข้างในเลย
แม้หลายคนจะมาถ่ายรูปเพราะความสวยงามของพระเมรุ แต่โดยส่วนลึกแล้วก็ยังคงไว้ซึ่งความอาลัยต่อการจากไปของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ไม่เพียงแต่ประชาชนชาวไทยเท่านั้น ที่มาเก็บภาพพระเมรุ แม้แต่ชาวต่างชาติมาเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกเช่นกัน หรือหากบางคนต้องการภาพที่สวยงาม ตรงกลางทางเดินของสนามหลวงก็ยังมีร้านขายรูปถ่ายพระเมรุแบบต่างๆให้นักท่องเที่ยวและประชาชนที่มาเที่ยวชมพระเมรุได้ซื้อกัน อีกทั้งยังมีบริการถ่ายรูปตนเองหน้าพระเมรุแบบรอรับได้เลยอีกด้วย
สิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความจงรักภักดีของปวงชนชาวไทยที่มีต่อ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ แม้พระองค์จะเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว แต่พระนาม และกรณียกิจที่พระองค์ทรงปฏิบัติเพื่อพสกนิกรไทยทุกคน จะยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำตลอดไป