ปลัด กทม.สั่งจับตาน้ำทะเลหนุนสูงสุด 17 พ.ย.เป็นพิเศษ หลังวันนี้ระดับน้ำหนุนสูงสุดกว่าช่วงที่ผ่านมาถึง 2.12 เมตร สั่ง สปภ.-เทศกิจ-อนามัย และเขตพื้นที่ริมเจ้าพระยาเตรียมให้การช่วยเหลือประชาชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ และประสานเรือด่วนเจ้าพระยา-พาณิชย์นาวี ดูแลการเดินเรือ
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ตรวจริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณบริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด (มหาชน ) ถนนสามเสน หลังจากช่วงเช้าที่ผ่านมาแนวกระสอบทรายที่กั้นริมแม่น้ำภายในบริษัท ได้รับผลกระทบจากคลื่นเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูงกว่าช่วงที่ผ่านมาโดยอยู่ที่ 2.12 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จึงทำให้กระสอบทรายพังทลายลงมาน้ำเอ่อเข้าท่วมบริษัท และล้นทะลักไปที่ถนนสามเสน ซึ่งทางเขตดุสิตได้แก้ปัญหาด้วยการเรียงแนวกระสอบทรายใหม่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เช้า ขณะที่ชุมชนอื่นๆ ก็ยังได้รับผลกระทบเช่นกันโดยเฉพาะชุมชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ เช่น ชุมชนจันตคาม ชุมชนวัดเทวราชกุญชร รวมทั้งชุมชนบางซื่อ บริเวณสะพานพระราม 6
นายพงศ์ศักติฐ์ กล่าวว่า กทม.จะติดตามสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิดเนื่องจากช่วงนี้ระดับน้ำทะเลจะหนุนสูงไปจนถึงวันที่ 21 พ.ย.โดยเฉพาะวันที่ 17 พ.ย.จะต้องติดตามเพราะคาดการณ์ว่าน้ำทะเลจะหนุนสูงที่สุดในวันนั้นเนื่องจากระดับฐานน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ที่ 1.35 เมตร แต่หากรวมกับปริมาณน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาระบายลงมากว่า 2,000 ลบ.ม.ต่อวินาที จะทำให้ระดับน้ำเจ้าพระยาสูงกว่า 2 เมตร ซึ่งตนได้สั่งการให้สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) สำนักเทศกิจ สำนักอนามัย รวมทั้งเขตพื้นที่ที่มีชุมชนอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำกว่า 30 ชุมชนให้เข้าช่วยเหลือประชาชนในการขนย้ายสิ่งของ สร้างสะพานไม้ และดูแลสุขภาพ รวมทั้งจะประสานกับเรือด่วนเจ้าพระยา กรมขนส่งและพาณิชย์นาวี ให้ดูแลเรื่องการเดินเรือเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้มีคลื่นกระทบบ้านเรือนประชาชน