สจส.ขีดเส้น 31 ต.ค.นี้ ทั้ง 50 เขตต้องส่งจำนวนและสภาพท่าเทียบเรือในพื้นที่เตรียมพร้อมรับวันลอยกระทง หากท่าไหนซ่อมไม่ทันให้ติดป้ายงดใช้ ขณะที่ห่วงท่าเรือพื้นที่รอบนอก เพราะยังมีท่าไม้อยู่
รายงานข่าวจากศาลาว่าการ กรุงเทพมหานคร (กทม.) แจ้งถึงความคืบหน้าการตรวจสอบสภาพความมั่นคงแข็งแรงของท่าเรือทั่วกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมความพร้อมในช่วงเทศกาลลอยกระทงในวันที่ 12 พ.ย.นี้ ว่า ขณะนี้สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ได้ทำหนังสือไปยังสำนักงานเขตทั้ง 50 เขตแล้ว เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบโป๊ะหรือท่าเทียบเรือในพื้นที่ของตนเอง และให้ดำเนินการจัดส่งข้อมูลทั้งในส่วนของจำนวนท่าในพื้นที่ รวมทั้งสภาพของท่าเทียบเรือว่าชำรุดมากน้อยขนาดไหน โดยจะต้องส่งข้อมูลเข้ามาที่ สจส.ภายในวันที่ 31 ต.ค.นี้ ก่อนที่จะนำผลการตรวจสอบทั้งหมดรายงานต่อนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.ต่อไป
ทั้งนี้ จากการจัดเก็บข้อมูลท่าเทียบเรือในปีที่ผ่านมา พบว่ามีท่าเทียบเรือทั้งหมด 179 ท่า แบ่งเป็นท่าของเอกชน 59 ท่า ท่าสาธารณะ 116 ท่า และท่าที่ไม่ปรากฏเจ้าของอีก 4 ท่า ซึ่งในจำนวนนี้มีท่าเทียบเรือที่มีสภาพชำรุดรวม 23 ท่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นท่าที่ประชาชนไม่ค่อยใช้แล้ว โดยในปีนี้คาดว่าจำนวนของท่าที่มีสภาพชำรุดจะลดน้อยลงกว่าเดิม
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า หลังจากตรวจสอบสภาพความมั่นคงแข็งแรงแต่ละท่าเรียบร้อยแล้ว แต่ละเขตจะดำเนินการจัดซ่อมท่าเทียบเรือในพื้นที่ของตนเองในกรณีที่ชำรุดเพียงเล็กน้อย เช่น ราวกันตกหาย พื้นของท่าผุกร่อน เป็นต้น แต่หากชำรุดอย่างรุนแรงก็ให้ดำเนินการแจ้งไปที่สำนักการโยธา (สนย.) เพื่อดำเนินการซ่อมแซมแทน ส่วนท่าที่อยู่ในความดูแลของเอกชน หรือท่าเรือของโรงแรมที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น รร.แชงกรีลา รร.มณเฑียร หากตรวจสอบพบว่ามีสภาพชำรุดก็จะได้แจ้งเจ้าของเพื่อดำเนินการซ่อมแซมทันทีเช่นเดียวกัน ส่วนท่าเทียบเรือที่อยู่ในความดูแลของ สจส.จำนวน 31 ท่านั้น ส่วนใหญ่จะมีสภาพมั่นคงแข็งแรง สามารถใช้งานได้ดี เนื่องจากเป็นท่าที่สร้างใหม่ และใช้วัสดุที่เป็นคอนกรีตหรือเหล็กแทบทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม สจส.มีความเป็นห่วงท่าเรือที่อยู่ในพื้นที่รอบนอก เช่น ท่าในคลองมหาสวัสดิ์ คลองภาษีเจริญ คลองพระโขนง เป็นต้น ซึ่งยังคงมีท่าแบบโบราณที่ทำจากไม้อยู่ หากพบท่าเทียบเรือแห่งใดซ่อมไม่ทันวันลอยกระทง ทางเขตจะได้ติดประกาศเตือนให้ประชาชนงดใช้ หรือให้เหลีกเลี่ยงการใช้ท่าดังกล่าวเพื่อลอยกระทงต่อไป
รายงานข่าวจากศาลาว่าการ กรุงเทพมหานคร (กทม.) แจ้งถึงความคืบหน้าการตรวจสอบสภาพความมั่นคงแข็งแรงของท่าเรือทั่วกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมความพร้อมในช่วงเทศกาลลอยกระทงในวันที่ 12 พ.ย.นี้ ว่า ขณะนี้สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ได้ทำหนังสือไปยังสำนักงานเขตทั้ง 50 เขตแล้ว เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบโป๊ะหรือท่าเทียบเรือในพื้นที่ของตนเอง และให้ดำเนินการจัดส่งข้อมูลทั้งในส่วนของจำนวนท่าในพื้นที่ รวมทั้งสภาพของท่าเทียบเรือว่าชำรุดมากน้อยขนาดไหน โดยจะต้องส่งข้อมูลเข้ามาที่ สจส.ภายในวันที่ 31 ต.ค.นี้ ก่อนที่จะนำผลการตรวจสอบทั้งหมดรายงานต่อนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.ต่อไป
ทั้งนี้ จากการจัดเก็บข้อมูลท่าเทียบเรือในปีที่ผ่านมา พบว่ามีท่าเทียบเรือทั้งหมด 179 ท่า แบ่งเป็นท่าของเอกชน 59 ท่า ท่าสาธารณะ 116 ท่า และท่าที่ไม่ปรากฏเจ้าของอีก 4 ท่า ซึ่งในจำนวนนี้มีท่าเทียบเรือที่มีสภาพชำรุดรวม 23 ท่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นท่าที่ประชาชนไม่ค่อยใช้แล้ว โดยในปีนี้คาดว่าจำนวนของท่าที่มีสภาพชำรุดจะลดน้อยลงกว่าเดิม
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า หลังจากตรวจสอบสภาพความมั่นคงแข็งแรงแต่ละท่าเรียบร้อยแล้ว แต่ละเขตจะดำเนินการจัดซ่อมท่าเทียบเรือในพื้นที่ของตนเองในกรณีที่ชำรุดเพียงเล็กน้อย เช่น ราวกันตกหาย พื้นของท่าผุกร่อน เป็นต้น แต่หากชำรุดอย่างรุนแรงก็ให้ดำเนินการแจ้งไปที่สำนักการโยธา (สนย.) เพื่อดำเนินการซ่อมแซมแทน ส่วนท่าที่อยู่ในความดูแลของเอกชน หรือท่าเรือของโรงแรมที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น รร.แชงกรีลา รร.มณเฑียร หากตรวจสอบพบว่ามีสภาพชำรุดก็จะได้แจ้งเจ้าของเพื่อดำเนินการซ่อมแซมทันทีเช่นเดียวกัน ส่วนท่าเทียบเรือที่อยู่ในความดูแลของ สจส.จำนวน 31 ท่านั้น ส่วนใหญ่จะมีสภาพมั่นคงแข็งแรง สามารถใช้งานได้ดี เนื่องจากเป็นท่าที่สร้างใหม่ และใช้วัสดุที่เป็นคอนกรีตหรือเหล็กแทบทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม สจส.มีความเป็นห่วงท่าเรือที่อยู่ในพื้นที่รอบนอก เช่น ท่าในคลองมหาสวัสดิ์ คลองภาษีเจริญ คลองพระโขนง เป็นต้น ซึ่งยังคงมีท่าแบบโบราณที่ทำจากไม้อยู่ หากพบท่าเทียบเรือแห่งใดซ่อมไม่ทันวันลอยกระทง ทางเขตจะได้ติดประกาศเตือนให้ประชาชนงดใช้ หรือให้เหลีกเลี่ยงการใช้ท่าดังกล่าวเพื่อลอยกระทงต่อไป
