“ เฉลิม” หัวหมอ ลั่นไม่ใช่ไม่กล้าห้ามโฆษณาเหล้าหน้าจอ แต่ไม่มีอำนาจ โบ้ยหน้าที่นายกฯ คนตัดสินใจ ส่วนเทศกาลปีใหม่ยันยกเว้นไว้ก่อนแม้ประชาชนไฟเขียว ขอฟังความเห็นโรงแรม และการท่องเที่ยวให้รอบด้านก่อน ขณะที่เบียร์ช้างจะเข้าตลาดหลักทรัพย์หรือไม่ เหลิมบอกไม่เกี่ยว เป็นหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ
วันนี้ (27 ต.ค.) ที่ห้องประชุมสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมรับฟังความคิดเห็นทิศทางการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานของกลุ่มนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด กลุ่มผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป กลุ่มผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุนชน และกลุ่มของสาธารณสุขอำเภอทั่วประเทศ ประมาณ 2,000 คน ว่า นโยบายเรื่องการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ตนได้ดำเนินการควบคุมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์และวันสำคัญทางศาสนาซึ่งเป็นทั้งประเพณีของไทยและผูกผันกับศาสนาพุทธที่เป็นศาสนาประจำชาติแล้ว เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนแต่เนื่องจากอำนาจทางกฎหมายทั้งหมด ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี เป็นผู้พิจารณาเห็นชอบ ส่วนรมว.สธ.มีหน้าที่เสนอให้มีการพิจารณาเท่านั้น
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนยังไม่สามารถลงนามคำสั่งในหนังสือใดๆได้ เพราะต้องรอให้มีการตั้งคณะกรรมการควบคมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมี รมว.สธ.เป็นประธาน ให้คณะกรรมการครบจำนวนตามที่กฎหมายกำหนดก่อน ซึ่งได้มีการลงนามเสนอเพิ่มกรรมการไปแล้ว ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเห็นว่าควรมีการเพิ่มเติมวันที่ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะในเทศกาลปีใหม่เข้าไปด้วยนั้น คงต้องรอให้มีคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อน จึงจะมีการทบทวนเรื่องนี้ใหม่ โดยจะขอฟังความคิดเห็นของสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยวเพิ่มเติมด้วย
“ขณะนี้ที่ยังไม่ทำ ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำ แต่ขอฟังเหตุผลทุกฝ่ายก่อน รัฐมนตรีถือว่าเป็นเพียงแม่บ้านไม่มีอำนาจ ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ว่าจะเห็นชอบด้วยหรือไม่ แต่เชื่อว่าผมเสนออะไรไปก็จะไม่ผิดไปจากนั้น เพราะทุกอย่างเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้ รัฐบาลทำงานไปในทิศทางเดียวกัน แต่ไม่สามารถจะเร่งรัดนายกฯได้ ว่าจะต้องทำวันนั้นวันนี้ แต่รับรองได้ว่า สงกรานต์ที่จะถึงนี้ยอดผู้บาดเจ็บและตาย จะลดลงอย่างแน่นอน ถ้ารัฐบาลชุดนี้ยังอยู่ถึงเดือนเมษายน และจะออกกฎห้ามขายแน่” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีคนถามว่า ตนกล้าห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือไม่ หากของไม่ดีจะเอามาโฆษณาทำไม ตนบอกได้เลยว่า จะขีดเส้นใต้ว่าห้ามโฆษณาแน่ เพราะผลการศึกษาพบว่าการดูโฆษณาเกิน 3 ครั้งขึ้นไป มีผลต่อความคิดทำให้เกิดการซึมซับจนเป็นความเชื่อได้
แต่หากมองให้รอบด้าน การโฆษณาเป็นเรื่องธุรกิจ เมื่อโฆษณาได้ สื่อก็สามารถอยู่ได้ และไม่ว่ารัฐหรือเอกชน ก็จะต้องมีการตั้งงบประมาณโฆษณาไว้ อีกทั้ง ยังติดขัดเรื่องกฎหมายของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) ที่ยังไม่มีกฎหมายลูก แต่เชื่อว่าไม่มีปัญหา ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ทั้งนั้น แต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่อำนาจของตนเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ส่วนกรณี เบียร์ช้างจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ตนไม่เกี่ยวข้องไม่ใช่หน้าที่ เป็นเรื่องของตลาดหลักทรัพย์
ด้าน นพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทยชนบท กล่าวว่า ชมรมแพทย์ชนบทได้เสนอให้ ร.ต.อ.เฉลิม ได้ทบทวนเรื่องการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้รวมถึงในช่วงเทศกาลปีใหม่ด้วย เพราะจากข้อมูลสถิติพบว่า อุบัติเหตุรถยนต์จากช่วงเทศกาล จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากช่วงธรรมดา หากห้ามจำหน่ายเหล้าในทุกเทศกาลได้ ก็จะช่วยลดอุบัติเหตุลงได้อย่างชัดเจน หรือหากรัฐมนตรีกลัวว่าจะกระทบธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศก็อาจจะเสนอเป็นการควบคุมแบบมีข้อยกเว้นเป็นกรณีไปเช่น ห้ามจำหน่ายให้ผู้ที่ต้องเดินทาง หรือ จำหน่ายได้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องขับรถ หรือ จัดเป็นโซนนิ่ง ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขับรถ
“ไม่กังวลว่าอำนาจการตัดสินใจขั้นสุดท้ายเป็นของนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจจะไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของ สธ. เพราะนายกฯ คนนี้เป็นคนมีต้นทุนทางสังคมต่ำ คนลักษณะนี้ทำงานได้ง่ายเพราะต้องการสร้างผลงาน ต้องทำงานให้สังคมชื่นชอบ ส่วนเรื่องกลุ่มผู้ประกอบการจะแทรกแซงการทำงานถือเป็นเรื่องปกติ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและสังคมจะกดดันเอง”นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว
วันนี้ (27 ต.ค.) ที่ห้องประชุมสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมรับฟังความคิดเห็นทิศทางการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานของกลุ่มนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด กลุ่มผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป กลุ่มผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุนชน และกลุ่มของสาธารณสุขอำเภอทั่วประเทศ ประมาณ 2,000 คน ว่า นโยบายเรื่องการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ตนได้ดำเนินการควบคุมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์และวันสำคัญทางศาสนาซึ่งเป็นทั้งประเพณีของไทยและผูกผันกับศาสนาพุทธที่เป็นศาสนาประจำชาติแล้ว เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนแต่เนื่องจากอำนาจทางกฎหมายทั้งหมด ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี เป็นผู้พิจารณาเห็นชอบ ส่วนรมว.สธ.มีหน้าที่เสนอให้มีการพิจารณาเท่านั้น
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนยังไม่สามารถลงนามคำสั่งในหนังสือใดๆได้ เพราะต้องรอให้มีการตั้งคณะกรรมการควบคมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมี รมว.สธ.เป็นประธาน ให้คณะกรรมการครบจำนวนตามที่กฎหมายกำหนดก่อน ซึ่งได้มีการลงนามเสนอเพิ่มกรรมการไปแล้ว ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเห็นว่าควรมีการเพิ่มเติมวันที่ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะในเทศกาลปีใหม่เข้าไปด้วยนั้น คงต้องรอให้มีคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อน จึงจะมีการทบทวนเรื่องนี้ใหม่ โดยจะขอฟังความคิดเห็นของสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยวเพิ่มเติมด้วย
“ขณะนี้ที่ยังไม่ทำ ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำ แต่ขอฟังเหตุผลทุกฝ่ายก่อน รัฐมนตรีถือว่าเป็นเพียงแม่บ้านไม่มีอำนาจ ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ว่าจะเห็นชอบด้วยหรือไม่ แต่เชื่อว่าผมเสนออะไรไปก็จะไม่ผิดไปจากนั้น เพราะทุกอย่างเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้ รัฐบาลทำงานไปในทิศทางเดียวกัน แต่ไม่สามารถจะเร่งรัดนายกฯได้ ว่าจะต้องทำวันนั้นวันนี้ แต่รับรองได้ว่า สงกรานต์ที่จะถึงนี้ยอดผู้บาดเจ็บและตาย จะลดลงอย่างแน่นอน ถ้ารัฐบาลชุดนี้ยังอยู่ถึงเดือนเมษายน และจะออกกฎห้ามขายแน่” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีคนถามว่า ตนกล้าห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือไม่ หากของไม่ดีจะเอามาโฆษณาทำไม ตนบอกได้เลยว่า จะขีดเส้นใต้ว่าห้ามโฆษณาแน่ เพราะผลการศึกษาพบว่าการดูโฆษณาเกิน 3 ครั้งขึ้นไป มีผลต่อความคิดทำให้เกิดการซึมซับจนเป็นความเชื่อได้
แต่หากมองให้รอบด้าน การโฆษณาเป็นเรื่องธุรกิจ เมื่อโฆษณาได้ สื่อก็สามารถอยู่ได้ และไม่ว่ารัฐหรือเอกชน ก็จะต้องมีการตั้งงบประมาณโฆษณาไว้ อีกทั้ง ยังติดขัดเรื่องกฎหมายของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) ที่ยังไม่มีกฎหมายลูก แต่เชื่อว่าไม่มีปัญหา ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ทั้งนั้น แต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่อำนาจของตนเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ส่วนกรณี เบียร์ช้างจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ตนไม่เกี่ยวข้องไม่ใช่หน้าที่ เป็นเรื่องของตลาดหลักทรัพย์
ด้าน นพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทยชนบท กล่าวว่า ชมรมแพทย์ชนบทได้เสนอให้ ร.ต.อ.เฉลิม ได้ทบทวนเรื่องการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้รวมถึงในช่วงเทศกาลปีใหม่ด้วย เพราะจากข้อมูลสถิติพบว่า อุบัติเหตุรถยนต์จากช่วงเทศกาล จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากช่วงธรรมดา หากห้ามจำหน่ายเหล้าในทุกเทศกาลได้ ก็จะช่วยลดอุบัติเหตุลงได้อย่างชัดเจน หรือหากรัฐมนตรีกลัวว่าจะกระทบธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศก็อาจจะเสนอเป็นการควบคุมแบบมีข้อยกเว้นเป็นกรณีไปเช่น ห้ามจำหน่ายให้ผู้ที่ต้องเดินทาง หรือ จำหน่ายได้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องขับรถ หรือ จัดเป็นโซนนิ่ง ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขับรถ
“ไม่กังวลว่าอำนาจการตัดสินใจขั้นสุดท้ายเป็นของนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจจะไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของ สธ. เพราะนายกฯ คนนี้เป็นคนมีต้นทุนทางสังคมต่ำ คนลักษณะนี้ทำงานได้ง่ายเพราะต้องการสร้างผลงาน ต้องทำงานให้สังคมชื่นชอบ ส่วนเรื่องกลุ่มผู้ประกอบการจะแทรกแซงการทำงานถือเป็นเรื่องปกติ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและสังคมจะกดดันเอง”นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว