วีรบุรุษพันธมิตรฯ ขาขาดเปิดใจ ช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขาที่หายไป เผยไม่แน่ใจขาขาดเพราะอะไร เนื่องจากขณะนั้นแก๊สน้ำตาลอยอยู่เต็มไปหมด ระบุนับจากนี้ไม่รู้จะไปทำมาหากินอะไร อยากได้ขาเทียมเพื่อจะทำให้เดินได้เหมือนเดิม พร้อมจวกตำรวจสลายการชุมนุมรุนแรงเกินไป ขณะที่ศพของ “สารวัตรเมธี” ญาติได้มารับศพจากรามาฯ เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดโสมนัสฯ แล้ว
วันนี้ (10 ต.ค.) ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี นายแกละ (นามสมมติ) ซึ่งได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาข้างขวาจากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา เปิดเผยว่า ในวันนั้น ช่วงเวลาประมาณ 06.20 น.ที่บริเวณหน้ารัฐสภา ตนกำลังเดินอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ ประมาณ 3-4 คน จากนั้นในจังหวะที่กำลังก้าวเท้าเหยียบลงไปบนพื้นโดยมองไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่หรือไม่ เนื่องมีควันของแก๊สน้ำตาลอยอยู่เต็มไปบน รวมทั้งแก๊สน้ำตาทำให้แสบตา แต่เมื่อก้าวเท้าเหยียบลงไปก็เกิดระเบิดและขาก็กระเด็นหายไป ซึ่งขณะนั้นตนเองรู้สึกช็อกเป็นอย่างมาก
จากนั้นเมื่อสติเริ่มกลับคืนมาจึงได้เขย่งขาข้างที่เหลือไปนั่งอยู่ที่ข้างประตู ซึ่งความรู้สึกขณะนั้นไม่รู้สึกเจ็บ และขอยืนยันว่าก่อนหน้านี้ตนเองมีอวัยวะครบ 32 ประการ ไม่ได้ขาด้วนมาก่อนตามที่มีข้อสงสัยกัน ซึ่งหลังจากนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปประกอบอาชีพหรืออาชีพทำมาหากินอะไร เพราะการไม่มีขาก็ถือเป็นอุปสรรคก็รู้สึกเครียดบ้างเล็กน้อยและอยากได้ขาเทียมเพื่อที่จะได้เดินได้เหมือนเดิม
“ผมเป็นการ์ดของพันธมิตรฯ เป็นคนศรีสะเกษ แต่มาทำงานที่มาบตาพุด และเข้าร่วมกับพันธมิตรฯ ระยอง ตอนที่ก้าวเหยียบลงไปไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร เพราะมองไม่เห็น จากนี้คงต้องกลับไปรักษาตัวที่บ้านที่ศรีสะเกษ ก็ขอให้พันธมิตรฯ สู้ต่อไป ผมขอฝากไปถึงตำรวจด้วยว่าขอให้ยุติความรุนแรง เพราะว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความรุนแรงเกินไป ตำรวจบอกว่าไม่รุนแรงแล้วทำไมผู้ชุมนุมจำนวนกว่า 400 คนถึงได้รับบาดเจ็บ ช่วงที่ผ่านมาก็มีพันธมิตรฯ เดินทางมาเยี่ยมจำนวนมากและรับปากที่จะหาผู้ที่กระทำผิดทำให้ขาของผมขาดมาลงโทษให้ได้”
นายแกละ กล่าวด้วยว่า สำหรับเพื่อนที่มาด้วยกัน รวมทั้งคนที่อยู่บริเวณใกล้ๆ ก็ล้มลงหลายคน โดยเพื่อน 2 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ตนได้รับบาดเจ็บมากที่สุด
สำหรับบรรยายการเข้าเยี่ยมนายแกละนั้น วันนี้บรรดาญาติๆ ซึ่งเดินทางมาจากศรีสะเกษก็ได้เดินทางเข้าเยี่ยม โดยแม่ของนายแกละ อายุ 57 ปี กล่าวว่า ไม่ทราบมาก่อนว่าลูกมาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ทราบแต่ว่าลูกมาทำงานอยู่ที่ระยอง ซึ่งโดยปกติแล้วเขามีอะไรก็จะคุยกับพ่อ ตนก็ทราบข่าวจากการดูโทรทัศน์แล้วก็เห็นรายชื่อผู้ที่ถูกระเบิดตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ก็ได้เดินทางเข้ามาเยี่ยมที่กรุงเทพฯ ทันที โดยมาถึงตอนเช้าวันที่ 8 ตุลาคม ซึ่งพอรู้ว่าลูกขาขาดก็รู้สึกตกใจ
“ลูกดี มีร่างกายครบถ้วนก็กลายมาเป็นแบบนี้ ต่อไปจะทำมาหากินอะไร ก็อยากให้ตำรวจเข้ามาช่วยอะไรบ้าง แล้วก็รู้สึกว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ตำรวจทำรุนแรงเกินไป” แม่นายแกละกล่าว
สำหรับศพของ พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี วีรชนนักสู้ภาคประชาชน ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุรถจี๊ปเชอโกกีระเบิดที่หน้าพรรคชาติไทยนั้น ขณะนี้ (เวลา 11.25 น.) ญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านก็เดินทางมาเพื่อเตรียมรอรับศพ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ซึ่งในเวลา 11.30 น.ญาติก็ได้นำศพของสารวัตรเมธีออกจากโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดโสมนัสฯ ซึ่งโลงที่บรรจุศพของ พ.ต.ท.เมธีนั้น ได้เขียนคำว่า “นักรบบุรีรัมย์” เอาไว้ด้วย