13.29 น.ราชาฤกษ์ “พระครูวามเทพมุนี” ทำพิธีบวงสรวงราชรถ-ราชยาน อัญเชิญเพื่อออกประกอบพระราชพิธี พระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ปรากฏเหตุอัศจรรย์จากแดดเปรี้ยงๆ ช่วงหลังเที่ยงกลับมีเมฆมาบังแดด ลมพัดเย็นสบาย ตลอดการประกอบพิธีราบรื่นสำเร็จลงด้วยดี
วันนี้ (6 ต.ค.) มณฑลพิธีด้านหน้าโรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพฯ ได้มีการจัดพิธีบวงสรวงราชรถ-ราชยาน อัญเชิญเพื่อออกประกอบพระราชพิธี พระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ขึ้น
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 12.00 น.คณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุฯ พร้อมทั้งข้าราชการและแขกผู้มีเกียรติ ได้เดินทางมาถึงบริเวณสถานที่ประกอบพิธีโดยพร้อมเพรียง จากนั้นประมาณเวลา 12.15 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีก็เดินทางมาถึง
ต่อมาประมาณ 12.30 น. พระครูวามเทพมุนีก็ได้เริ่มประกอบพิธี ปักธูปเทียน ถวายเครื่องสังเวย เจ้าพนักงานลั่นฆ้องชัย บันลือสังข์ และไกวบัณเฑาะว์ ปี่พาทย์เริ่มบรรเลงเพลงสาธุการ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แขกผู้มีเกียรติ ร่วมปักธูปหางที่เครื่องสังเวย
พระครูวามเทพมุนีสวดนะโม 3 จบ เจ้าพนักงานลั่นฆ้องชัย บันลือสังข์ และไกวบัณเฑาะว์ ปี่พาทย์เริ่มบรรเลงเพลงตระสันนิบาต พระครูวามเทพมุนีอ่านโองการบวงสรวงเทพยดาและดวงพระวิญญาณสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า เมื่อพระครูวามเทพมุนีอ่านจบ เจ้าพนักงานลั่นฆ้องชัย บันลือสังข์ และ ไกวบัณเฑาะว์ ปี่พาทย์เริ่มบรรเลงเพลงตระเชิญ จากนั้นนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานในพิธี พร้อมด้วยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ก็ได้โปรยข้าวตอกดอกไม้ที่เครื่องสังเวย โดยเจ้าพนักงานลั่นฆ้องชัย บันลือสังข์และไกวบัณเฑาะว์ ปี่พาทย์เริ่มบรรเลงเพลงโปรยข้าวตอกประกอบด้วย
เมื่อจบขั้นตอนการโปรยข้าวตอกดอกไม้ที่เครื่องสังเวยแล้ว พระครูวามเทพมุนีได้นำนายสมชายเข้าสู่โรงราชรถเพื่อคล้องพวงมาลัย พระครูวามเทพมุนีหลั่งน้ำสังข์ เจิม ติดใบมะตูม ที่บริเวณงอนของราชรถและราชยาน ซึ่งขณะนั้นก็ได้มีการแสดงละครสมโภชราชรถ ราชยาน ตามโบราณราชประเพณี เรื่องสังข์ศิลป์ชัย โดยสำนักการสังคีต กรมศิลปากร จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดพลฉุดชักจากกรมสรรพาวุธทหารบก ก็ได้เข้าประจำที่ที่ด้านหน้าราชรถ ด้านหน้าจำนวน 4 สาย และด้านหลังจำนวน 2 สายเพื่อรอฤกษ์
โดยมีข้าราชการระดับสูงและแขกผู้มีเกียรติร่วมประจำพระมหาพิชัยราชรถและราชรถน้อย สำหรับพระมหาพิชัยราชรถ ได้แก่ นายสมชาย วงสวัสดิ์ เดินนำราชรถ และมี นายวรวัจจ์ เอื้ออภิญญากุล รมว.วธ.,พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.,นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัด วธ., นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร, น.อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น, นายอารักษ์ สังหิตกุล ผู้ตรวจราชการวธ., ตัวแทน ผบ.ทร., เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก เป็นผู้ร่วมชักลากพระมหาพิชัยราชรถ
ในขณะที่ราชรถน้อย มีข้าราชการและแขกผู้มีเกียรติประจำ ได้แก่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นายบุญทรง เตริยาภิรมย์, พล.ต.สุชาติ หนองบัว, พล.ต.ภูวดล ไวยทยากุล รองเจ้ากรมสรรพาวุธทหารบกและนายเขมชาติ เทพไชย รองอธิบดีกรมศิลปากร
เมื่อเวลา 13.29 น.อันถือเป็นราชาฤกษ์ พระครูวามเทพมุนี ได้ให้สัญญาณการเริ่มประกอบพิธีอัญเชิญพระมหาพิชัยราชรถออกจากโรงราชรถ เจ้าพนักงานฉุดชักได้ฉุดพระมหาพิชัยราชรถออกจากโรงราชรถ เมื่อนำพระมหาพิชัยราชรถออกจากโรงแล้ว เจ้าพนักงานฉุดชักอีก 1 ชุด เข้าประจำด้านหน้าราชรถน้อย ฉุดชักออกมา ซึ่งในขณะนั้น แดดที่ร้อนจัดกลับถูกเมฆเคลื่อนมาบดบังเกิดร่มเงาทันที และมีลมพัดเย็นสบาย จนเป็นที่สังเกตของผู้ที่มาร่วมพิธีจำนวนมาก จากนั้นมีมหรสพประกอบพิธีอัญเชิญราชรถ เป็นชุดระบำดาวดึงส์ เป็นอันจบพิธี
ด้าน พระครูวามเทพมุนี ได้เปิดเผยภายหลังการประกอบพิธีเสร็จสิ้นแล้วว่า การประกอบพิธีในครั้งนี้ เป็นไปเพื่ออัญเชิญราชรถออกประกอบพระราชพิธีออกพระเมรุ มีการกราบนมัสการองค์เทพเทวา ซึ่งมีพระอาทิตย์เป็นประธานซึ่งได้สมมติให้พระราชยานและพระราชรถเป็นรถทรงพระอาทิตย์ เพื่อนำเสด็จสู่สรวงสวรรค์