ปลัด กทม.ลงพื้นที่ตรวจจุดเสี่ยงน้ำท่วมขังในเขตบางกะปิ และตรวจหน่วยเลือกตั้งที่เขตสะพานสูง พร้อมกำชับเขตอย่าใช้ประชาสัมพันธ์เกิน โต้นักวิชาการไม่รู้จริงอย่าพูดหน้าที่ผู้ว่าฯ กทม.
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เดินทางลงพื้นที่ตรวจจุดป้องกันน้ำท่วมในหมู่บ้านสวนสน ซ.ลาดพร้าว 60 เขตบางกะปิ พร้อมกล่าวว่า จากการรายงานของ นายประเสริฐ ทองนุ่น ผอ.เขตบางกะปิ พบว่า ที่ผ่านมา หมู่บ้านสวนสน เป็นจุดที่มีปัญหาน้ำท่วมขังทุกปี โดยเฉพาะเมื่อปี 2549 ที่มีปัญหาน้ำท่วมหนัก เนื่องจากน้ำในคลองหัวหมากเอ่อล้นออกมา ระดับน้ำท่วมเคยสูงถึง 80 เซนติเมตร รถยนต์ไม่สามารถวิ่งผ่านได้ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้น้ำในคลองหัวหมากเริ่มยกระดับขึ้นมา 40 เซนติเมตรแล้ว ซึ่งเขตได้เตรียมการป้องกันโดยทำคันกั้นน้ำไม่ให้น้ำล้นออกมา รวมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้ 4 จุด อย่างไรก็ตาม จนถึงวันนี้ตนค่อนข้างสบายใจกับสภาพอากาศ ส่วนการเตรียมการรับมือสำนักการระบายน้ำ (สนน.) ได้เร่งพร่องน้ำให้ต่ำเพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนไว้หมดแล้ว ทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาน้ำท่วมกระทบกับการเลือกตั้ง
**ตรวจความพร้อมเลือกตั้งผู้ว่าฯ
จากนั้น นายพงศ์ศักติฐ์ เดินทางไปประชุมตรวจความพร้อมการเตรียมการเลือกตั้งของเขตสะพานสูง เขตบางกะปิ และ เขตบึงกุ่ม ที่สำนักงานเขตสะพานสูง โดยกล่าวย้ำกับ ผอ.เขตให้เข้าพื้นที่ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งด้วยการจัดชุดรณรงค์ต่างๆ กระจายตัวให้มากขึ้น ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นบ้านจัดสรร กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นคนวัยทำงาน
ดังนั้น จึงต้องรณรงค์เป็นพิเศษในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่สำคัญ ต้องทำให้ได้เต็ม 100 เนื่องจากเหลือเวลาอีก 10 กว่าวันเท่านั้น ประกอบกับกระแสการเลือกตั้งท้องถิ่น ถูกกระแสการเมืองระดับชาติกลบ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า ข้อมูลประชาสัมพันธ์ที่ กทม.ส่งไปยังประชาชนเป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งคน กทม.รู้สึกและรับรู้ได้อย่างรวดเร็ว แต่อาจจะไม่สนใจเท่านั้น จึงทำให้การหาเสียงของผู้สมัครทำไม่ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ขอให้แต่ละเขตระมัดระวังเรื่องการใช้งบเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ ซึ่งส่วนกลางได้จัดสรรให้หน่วยเลือกตั้งละ 500 บาท เพราะขณะนี้มีการร้องเรียนจากประชาชนว่างบประมาณส่วนนี้นำไปใช้ประโยชน์ใดบ้าง
นายพงศ์ศักติฐ์ กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกัน ตนอยากทำความเข้าใจกับนักวิชาการที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งยังเข้าใจว่า กทม.เป็นเทศบาลนคร ผู้ที่จะมาเป็นผู้ว่าฯ กทม.จึงเป็นใครก็ได้ เพราะเข้ามาทำงานแค่ล้วงท่อ แต่ความจริงแล้วผู้บริหาร กทม.ไม่ใช่เพียงนักการเมืองคนหนึ่งเท่านั้น แต่ต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายเพราะต้องอนุมัติกฎหมายเป็นร้อยๆ ฉบับ ซึ่งนักวิชาการเหล่านั้นไม่เคยอ่าน พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการ กทม.พ.ศ.2528 จึงไม่เข้าใจถึงขอบเขตภาระหน้าที่ของผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งควรจะต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถสูง ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ก็เคยมีความพยายามผลักดันแก้ไข พ.ร.บ.กทม.ว่าด้วยคุณสมบัติของผู้ว่าฯ กทม.ในเรื่องวุฒิการศึกษาด้วย
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เดินทางลงพื้นที่ตรวจจุดป้องกันน้ำท่วมในหมู่บ้านสวนสน ซ.ลาดพร้าว 60 เขตบางกะปิ พร้อมกล่าวว่า จากการรายงานของ นายประเสริฐ ทองนุ่น ผอ.เขตบางกะปิ พบว่า ที่ผ่านมา หมู่บ้านสวนสน เป็นจุดที่มีปัญหาน้ำท่วมขังทุกปี โดยเฉพาะเมื่อปี 2549 ที่มีปัญหาน้ำท่วมหนัก เนื่องจากน้ำในคลองหัวหมากเอ่อล้นออกมา ระดับน้ำท่วมเคยสูงถึง 80 เซนติเมตร รถยนต์ไม่สามารถวิ่งผ่านได้ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้น้ำในคลองหัวหมากเริ่มยกระดับขึ้นมา 40 เซนติเมตรแล้ว ซึ่งเขตได้เตรียมการป้องกันโดยทำคันกั้นน้ำไม่ให้น้ำล้นออกมา รวมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้ 4 จุด อย่างไรก็ตาม จนถึงวันนี้ตนค่อนข้างสบายใจกับสภาพอากาศ ส่วนการเตรียมการรับมือสำนักการระบายน้ำ (สนน.) ได้เร่งพร่องน้ำให้ต่ำเพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนไว้หมดแล้ว ทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาน้ำท่วมกระทบกับการเลือกตั้ง
**ตรวจความพร้อมเลือกตั้งผู้ว่าฯ
จากนั้น นายพงศ์ศักติฐ์ เดินทางไปประชุมตรวจความพร้อมการเตรียมการเลือกตั้งของเขตสะพานสูง เขตบางกะปิ และ เขตบึงกุ่ม ที่สำนักงานเขตสะพานสูง โดยกล่าวย้ำกับ ผอ.เขตให้เข้าพื้นที่ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งด้วยการจัดชุดรณรงค์ต่างๆ กระจายตัวให้มากขึ้น ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นบ้านจัดสรร กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นคนวัยทำงาน
ดังนั้น จึงต้องรณรงค์เป็นพิเศษในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่สำคัญ ต้องทำให้ได้เต็ม 100 เนื่องจากเหลือเวลาอีก 10 กว่าวันเท่านั้น ประกอบกับกระแสการเลือกตั้งท้องถิ่น ถูกกระแสการเมืองระดับชาติกลบ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า ข้อมูลประชาสัมพันธ์ที่ กทม.ส่งไปยังประชาชนเป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งคน กทม.รู้สึกและรับรู้ได้อย่างรวดเร็ว แต่อาจจะไม่สนใจเท่านั้น จึงทำให้การหาเสียงของผู้สมัครทำไม่ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ขอให้แต่ละเขตระมัดระวังเรื่องการใช้งบเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ ซึ่งส่วนกลางได้จัดสรรให้หน่วยเลือกตั้งละ 500 บาท เพราะขณะนี้มีการร้องเรียนจากประชาชนว่างบประมาณส่วนนี้นำไปใช้ประโยชน์ใดบ้าง
นายพงศ์ศักติฐ์ กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกัน ตนอยากทำความเข้าใจกับนักวิชาการที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งยังเข้าใจว่า กทม.เป็นเทศบาลนคร ผู้ที่จะมาเป็นผู้ว่าฯ กทม.จึงเป็นใครก็ได้ เพราะเข้ามาทำงานแค่ล้วงท่อ แต่ความจริงแล้วผู้บริหาร กทม.ไม่ใช่เพียงนักการเมืองคนหนึ่งเท่านั้น แต่ต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายเพราะต้องอนุมัติกฎหมายเป็นร้อยๆ ฉบับ ซึ่งนักวิชาการเหล่านั้นไม่เคยอ่าน พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการ กทม.พ.ศ.2528 จึงไม่เข้าใจถึงขอบเขตภาระหน้าที่ของผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งควรจะต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถสูง ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ก็เคยมีความพยายามผลักดันแก้ไข พ.ร.บ.กทม.ว่าด้วยคุณสมบัติของผู้ว่าฯ กทม.ในเรื่องวุฒิการศึกษาด้วย
