“อภิรักษ์” ชูเปิด Bangkok city channel สถานีโทรทัศน์ 24 ชั่วโมง รับฟัง-แก้ไขปัญหาให้ประชาชนชาวกรุง เผยหากได้เลือกตั้งสมัยที่ 2 พร้อมเปิดบริการทันที ขณะที่ “ประภัสร์” ชู นโยบายสร้างโรงเผาขยะแทนฝังกลบเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีของคนเมืองกรุง พร้อมสร้างโรงบำบัดน้ำเสียในโรงกำจัดขยะ แนะโรงพยบาลเอกชนสร้างเตาเผาขยะของตัวเองลดความเสี่ยงแพร่เชื้อสู่คนอื่น
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 5 กล่าวว่า ตนมีแนวนโยบายจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ “Bangkok city channel” สถานีโทรทัศน์ 24 ชม. เพื่อนำเสนอข่าวสารของกทม.ให้คนกรุงเทพฯรับทราบในสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น ฝนตก น้ำท่วม การพยากรณ์สถานการณ์ฝน การให้บริการและโครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยตรง รวมทั้งจะเปิดเวทีให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นในปัญหาต่างๆ เนื่องจากปัจจุบันต้องยอมรับว่ามีประชาชนบางส่วนที่ยังเข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสารของ กทม.และยังอยากให้ กทม.ช่วยแก้ไขอีกจำนวนมาก
ทั้งนี้ โทรทัศน์ของ กทม.จะเชื่อมต่อและเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานและสถานที่ต่าง ๆ เช่น โรงแรม รีสอร์ท และหน่วยงานที่ให้บริการประชาชน นักท่องเที่ยว อีกทั้งจะมีการถ่ายทอดสดเหตุการณ์ปัจจุบันทันด่วน เช่นรายงานสถานการณ์ไฟไหม้ สถานการณ์น้ำท่วม เพื่อให้ประชาชนทราบความคืบหน้าตลอดเวลา
นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า สถานีโทรทัศน์ช่องดังกล่าวจะมีการเปิดเช่าช่องความถี่ของ กทม.โดยเฉพาะ เพื่อเชื่อมกับโทรทัศน์เคเบิลท้องถิ่น เหมือนที่เปิดให้บริการกันในปัจจุบัน ซึ่งจะใช้งบประมาณไม่มาก โดยประชาชนที่ใช้บริการสถานีโทรทัศน์เคเบิลท้องถิ่นหรือจานดาวเทียมที่รับระบบได้ก็จะสามารถดูโทรทัศน์ช่องของ กทม.ได้ สำหรับเจ้าหน้าที่สถานีนั้นจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนหนึ่งจะเป็นเจ้าหน้าที่ของ กทม.เนื่องจากปัจจุบัน กทม.มีรถถ่ายทอดสดและจัดต่ออยู่แล้ว ซึ่งกองประชาสัมพันธ์ก็สามารถดำเนินการได้ อีกส่วนหนึ่งอาจจะมีการจ้างเจ้าหน้าที่สถานีเพิ่มเติม เนื่องจาก กทม.อาจจะไม่มีผู้เชี่ยวชาญพอ
นอกจากนี้ หากเอกชนรายใดสนใจที่จะเข้ามาทำรายการก็อาจจะเปิดโอกาสให้ โดยรูปแบบรายการจะมีความทันสมัยเข้าถึงประชาชนได้ง่าย ซึ่งขณะนี้ได้มีการศึกษาเรื่องดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว หากได้รับเลือกก็จะดำเนินการทันที
วันเดียวกันนี้ นายประภัสร์ จงสงวน ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 10 พรรคพลังประชาชน (พปช.) ได้ลงพื้นที่หาเสียงที่โรงแยกขยะอ่อนนุช ซอยอ่อนนุช 86 เพื่อตรวจสอบการคัดแยกขยะ วิธีการกำจัด และดูความเป็นอยู่ของพนักงานเก็บขยะ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม
นายประภัสร์ กล่าวว่า นโยบายของผู้สมัครในวันนี้หลายคนพูดถึงเรื่องการเก็บขยะ แต่คนที่พูดเคยมาดูไหม ว่า สภาพความเป็นอยู่ของพวกเขาเป็นอย่างไร มีระบบการจัดการขยะอย่างไรบ้าง ซึ่งปัญหาที่ตนเห็นขณะนี้ คือ ระบบการกำจัดขยะที่ใช้วิธีฝังกลบที่ไม่เหมาะสม เพราะกำจัดขยะไม่ทันที่คน 10 ล้านคน ผลิตขึ้นแล้ว ยังเกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมตามมาในเรื่องของกลิ่น และน้ำขยะไหลซึมลงดินไปรวมกับแหล่งน้ำธรรมชาติ รวมถึงทำให้สภาพแวดล้อมรอบโรงเก็บขยะเน่าเหม็น น้ำในคลองเน่าเสียมีขยะลอยเกลื่อนไม่น่าพักอาศัย นอกจากนี้ ยังมีเตาเผาขยะสำหรับกำจัดขยะติดเชื้อ ซึ่งทุกโรงพยาบาลจะส่งมากำจัดที่นี่หมด ที่อันตราย คือ พนักงานเก็บขยะที่นี่ไม่มีหน้ากาก ถุงมือ ป้องกัน อยู่ด้วยความเคยชิน ตรงนี้เป็นเรื่องที่ควรเร่งแก้ไขโดยด่วน
นายประภัสร์ กล่าวต่อว่า แนวทางแก้ปัญหาเริ่มจากจะส่งเสริมให้ประชาชนแยกขยะตั้งแต่ที่บ้าน หากรีไซเคิลได้ก็ต้องมีเงินให้ด้วยเพื่อสร้างแรงจูงใจ โดยจะให้พนักงาน กทม.แยกขยะตอนเก็บ เช่น เศษอาหารทำปุ๋ย และใช้ทำพลังงานได้ เพื่อลดปริมาณขยะ นอกจากนี้จะพิจารณาสร้างโรงเผาขยะแทนการฝังกลบ สร้างโรงบำบัดน้ำเสียในโรงกำจัดขยะ ซึ่งจะช่วยให้คุณภาพชีวิตของพนักงานดีขึ้น ส่วนการกำจัดขยะติดเชื้อ ตนเห็นว่าโรงพยาบาลเอกชนควรมีเตาเผาขยะเป็นของตัวเอง เพื่อลดปริมาณขยะ และความเสี่ยงการแพร่เชื้อจากขยะที่ขนย้ายด้วย
