“ดร.แดน” ขายฝันสร้างรถไฟฟ้า 10 สายครึ่ง ผนึกรัฐบาลทำให้สำเร็จ ขณะที่ ส.ก.ปชป.โต้ “ชูวิทย์” วิจารณ์ต้องใช้สมอง มีวิสัยทัศน์ ด้าน “พลเรือโท ณรงค์ ชโลธร” ปธ.กกต.ทถ.กทม.เผยผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ตั้งกล้องทีวีตรวจนับคะแนนได้แต่ต้องขออนุญาตก่อน
วันนี้ (11 ก.ย.) นายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 2 ลงพื้นที่หาเสียงบริเวณหน้าห้างพาต้าปิ่นเกล้า โดยชูนโยบายก่อสร้างรถไฟฟ้า 10 สายครึ่งเพิ่มเติมจากโครงการรัฐบาลที่มี 9 สาย โดยจะผลักดันและร่วมมือกับรัฐบาลเดินหน้าก่อสร้างรถไฟฟ้าให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเพิ่มสายลาดพร้าว-บางกะปิ และอีกครึ่งสาย คือ สายสนามกีฬา-สะพานพระปิ่นเกล้า เนื่องทั้งสองเส้นทางมีปัญหาจราจรติดขัดมาก โดยเฉพาะที่แยกลาดพร้าว-รัชดา ซึ่งติดอันดับ 1 ใน 10 ของทุกทางแยกในกรุงเทพฯ มีปริมาณรถมากถึง 1.5 แสนคัน เนื่องจากมีหมู่บ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเป็นเส้นทางรองรับคนจากรอบนอกเข้าเมือง ทั้งนี้ ในสายลาดพร้าว-บางกะปิ ระยะทาง 9 กม.จะก่อสร้างเป็นทางใต้ดินทั้งหมด ไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม บางกะปิ-บางบำหรุ ส่วนสายสนามกีฬาฯ-สะพานพระปิ่นเกล้า ระยะทาง 4.5 กม.เป็นทางยกระดับ 1.3 กม.ใต้ดิน 3.2 กม.เป็นส่วนต่อขยายกับรถไฟฟ้าบีทีเอสที่สนามกีฬา จะช่วยรับคนจากฝั่งธนบุรีเข้าพื้นที่กรุงเทพชั้นในผ่านแหล่งท่องเที่ยวมากมาย เช่น วัดพระแก้ว ถนนข้าวสาร บางลำพู ฯลฯ
“ผมจะผลักดันหนึ่งสายครึ่งให้อยู่ในแผนของรัฐบาล แต่หากรัฐบาลมีข้อจำกัดด้านงบก็จะทำเองโดยทุ่มงบประมาณของ กทม.หรือร่วมทุนกับภาคเอกชน ค่าโดยสารถูกเพื่อให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงได้ ภายใต้คุณภาพการบริการที่ดี รวมทั้งจะมีสิทธิพิเศษสำหรับผู้สูงอายุ คนพิการ และนักเรียน อีกด้วย” นายเกรียงศักดิ์ กล่าว
ในวันเดียวกันนี้ นายสุธา นิติภานนท์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตภาษีเจริญ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญเพื่อพิจารณาญัตติ ขอให้กรุงเทพมหานครปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสิน แถลงข่าวระหว่างนำคณะสื่อมวลชนตรวจเยี่ยมพื้นที่ กรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 8 กล่าวหานายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 5 อดีตผู้ว่าฯ กทม.ทำลายพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ สมัยเป็นผู้ว่าฯ กทม.โดยตัดต้นไม้ใหญ่และนำต้นไม้ทรงเตี้ยมาปลูกแทน ว่า การปรับปรุงภูมิทัศน์เพราะต้องการให้พื้นที่ดังกล่าวดูโดดเด่น สามารถมองเห็นได้จากหลายมุม อาทิ จากแยกเยาวราช บริเวณสะพานพุทธ เป็นต้น เนื่องจากของเดิมมีต้นไม้ขนาดกลางจำนวนกว่า 250 ต้น บดบังทัศนียภาพโดยรอบ
นอกจากนี้ การขนย้ายไปทิ้งตามที่ นายชูวิทย์ กล่าวหานั้น ไม่เป็นความจริง เพราะเจ้าหน้าที่ขนย้ายต้นไม้ ได้รับคำแนะนำจากสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม.มีการขุดด้วยวิธีการที่ถูกต้องไปแจกจ่ายให้กับวัด และหน่วยราชการ และภาคเอกชนที่ต้องการต้นไม้ ซึ่งมีหน่วยงานราชการติดต่อขอเข้ามารับต้นไม้จำนวนมากด้วย
นายสุธา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินการ 120 วัน ซึ่งจะแล้วเสร็จล่าช้ากว่าสัญญา 1 เดือน เนื่องจากติดช่วงฤดูฝนทำให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความยากลำบากโดยจะเสร็จต้นเดือนตุลาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เป็นช่วงการแข่งขันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. อยากเรียกร้องให้ผู้สมัคร แต่ละคนแข่งขันกันด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม และอยากให้วิพากษ์วิจารณ์อย่างมีวิสัยทัศน์ มีเหตุผลไม่ใช่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน
ขณะที่ พลเรือโทณรงค์ ชโลธร ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร (ปธ.กกต.ทถ.กทม.) กล่าวภายหลังประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาข้อร้องขอของผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่จะขอติดตั้งกล้องถ่ายทอดการนับคะแนนจากสำนักเขต เพื่อให้เกิดความโปร่งใส กกต.ท้องถิ่นจึงมีมติเห็นชอบให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งทุกรายสามารถนำกล้องวิดีโอไปติดตั้งเพื่อถ่ายทอดการนับคะแนนจากทั้ง 50 สำนักงานเขตได้ แต่ต้องไม่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ และต้องอยู่นอกพื้นที่เขตกั้นตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้เห็นถึงความโปร่งใสเป็นธรรม โดยผู้สมัครที่ต้องการนำกล้องมาติดถ่ายทอดที่เขตใด ขอให้ยื่นความจำนงล่วงหน้าได้ที่ กกต.ท้องถิ่น หรือที่สำนักปกครองและทะเบียน กทม.
พลเรือโทณรงค์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาถึงข้อหารือของผู้สมัครเรื่องการหาเสียงในภาวะที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ว่า ให้ปฏิบัติตามที่หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินกำหนดไว้โดยให้ระมัดระวังอย่าให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย หรือความขัดแย้ง ส่วนการเปิดเวทีปราศรัยของผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ได้กำหนดพื้นที่ตั้งเวทีปราศรัยทั้งหมด 16 แห่ง ได้แก่ สวนลุมพินี สนามหลวง สวนจตุจักร เป็นต้น ให้ผู้สมัครได้จองวันเวลาที่จะจัดการปราศรัยในสถานที่ที่กำหนดได้ โดยขณะนี้ มีผู้สมัครจองเข้ามาแล้ว 3 คน สำหรับประเด็นการจัดทำโพล หรือการเผยแพร่โพลต่างๆ เป็นอำนาจพิจารณาของ กกต.ใหญ่ ซึ่งในการนัดประชุมผู้สมัคร ตามโครงการเลือกตั้งสมานฉันท์ ในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ย.) จะมีการหารือหาข้อสรุปในเรื่องนี้
วันนี้ (11 ก.ย.) นายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 2 ลงพื้นที่หาเสียงบริเวณหน้าห้างพาต้าปิ่นเกล้า โดยชูนโยบายก่อสร้างรถไฟฟ้า 10 สายครึ่งเพิ่มเติมจากโครงการรัฐบาลที่มี 9 สาย โดยจะผลักดันและร่วมมือกับรัฐบาลเดินหน้าก่อสร้างรถไฟฟ้าให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเพิ่มสายลาดพร้าว-บางกะปิ และอีกครึ่งสาย คือ สายสนามกีฬา-สะพานพระปิ่นเกล้า เนื่องทั้งสองเส้นทางมีปัญหาจราจรติดขัดมาก โดยเฉพาะที่แยกลาดพร้าว-รัชดา ซึ่งติดอันดับ 1 ใน 10 ของทุกทางแยกในกรุงเทพฯ มีปริมาณรถมากถึง 1.5 แสนคัน เนื่องจากมีหมู่บ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเป็นเส้นทางรองรับคนจากรอบนอกเข้าเมือง ทั้งนี้ ในสายลาดพร้าว-บางกะปิ ระยะทาง 9 กม.จะก่อสร้างเป็นทางใต้ดินทั้งหมด ไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม บางกะปิ-บางบำหรุ ส่วนสายสนามกีฬาฯ-สะพานพระปิ่นเกล้า ระยะทาง 4.5 กม.เป็นทางยกระดับ 1.3 กม.ใต้ดิน 3.2 กม.เป็นส่วนต่อขยายกับรถไฟฟ้าบีทีเอสที่สนามกีฬา จะช่วยรับคนจากฝั่งธนบุรีเข้าพื้นที่กรุงเทพชั้นในผ่านแหล่งท่องเที่ยวมากมาย เช่น วัดพระแก้ว ถนนข้าวสาร บางลำพู ฯลฯ
“ผมจะผลักดันหนึ่งสายครึ่งให้อยู่ในแผนของรัฐบาล แต่หากรัฐบาลมีข้อจำกัดด้านงบก็จะทำเองโดยทุ่มงบประมาณของ กทม.หรือร่วมทุนกับภาคเอกชน ค่าโดยสารถูกเพื่อให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงได้ ภายใต้คุณภาพการบริการที่ดี รวมทั้งจะมีสิทธิพิเศษสำหรับผู้สูงอายุ คนพิการ และนักเรียน อีกด้วย” นายเกรียงศักดิ์ กล่าว
ในวันเดียวกันนี้ นายสุธา นิติภานนท์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตภาษีเจริญ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญเพื่อพิจารณาญัตติ ขอให้กรุงเทพมหานครปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสิน แถลงข่าวระหว่างนำคณะสื่อมวลชนตรวจเยี่ยมพื้นที่ กรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 8 กล่าวหานายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 5 อดีตผู้ว่าฯ กทม.ทำลายพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ สมัยเป็นผู้ว่าฯ กทม.โดยตัดต้นไม้ใหญ่และนำต้นไม้ทรงเตี้ยมาปลูกแทน ว่า การปรับปรุงภูมิทัศน์เพราะต้องการให้พื้นที่ดังกล่าวดูโดดเด่น สามารถมองเห็นได้จากหลายมุม อาทิ จากแยกเยาวราช บริเวณสะพานพุทธ เป็นต้น เนื่องจากของเดิมมีต้นไม้ขนาดกลางจำนวนกว่า 250 ต้น บดบังทัศนียภาพโดยรอบ
นอกจากนี้ การขนย้ายไปทิ้งตามที่ นายชูวิทย์ กล่าวหานั้น ไม่เป็นความจริง เพราะเจ้าหน้าที่ขนย้ายต้นไม้ ได้รับคำแนะนำจากสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม.มีการขุดด้วยวิธีการที่ถูกต้องไปแจกจ่ายให้กับวัด และหน่วยราชการ และภาคเอกชนที่ต้องการต้นไม้ ซึ่งมีหน่วยงานราชการติดต่อขอเข้ามารับต้นไม้จำนวนมากด้วย
นายสุธา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินการ 120 วัน ซึ่งจะแล้วเสร็จล่าช้ากว่าสัญญา 1 เดือน เนื่องจากติดช่วงฤดูฝนทำให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความยากลำบากโดยจะเสร็จต้นเดือนตุลาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เป็นช่วงการแข่งขันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. อยากเรียกร้องให้ผู้สมัคร แต่ละคนแข่งขันกันด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม และอยากให้วิพากษ์วิจารณ์อย่างมีวิสัยทัศน์ มีเหตุผลไม่ใช่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน
ขณะที่ พลเรือโทณรงค์ ชโลธร ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร (ปธ.กกต.ทถ.กทม.) กล่าวภายหลังประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาข้อร้องขอของผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่จะขอติดตั้งกล้องถ่ายทอดการนับคะแนนจากสำนักเขต เพื่อให้เกิดความโปร่งใส กกต.ท้องถิ่นจึงมีมติเห็นชอบให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งทุกรายสามารถนำกล้องวิดีโอไปติดตั้งเพื่อถ่ายทอดการนับคะแนนจากทั้ง 50 สำนักงานเขตได้ แต่ต้องไม่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ และต้องอยู่นอกพื้นที่เขตกั้นตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้เห็นถึงความโปร่งใสเป็นธรรม โดยผู้สมัครที่ต้องการนำกล้องมาติดถ่ายทอดที่เขตใด ขอให้ยื่นความจำนงล่วงหน้าได้ที่ กกต.ท้องถิ่น หรือที่สำนักปกครองและทะเบียน กทม.
พลเรือโทณรงค์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาถึงข้อหารือของผู้สมัครเรื่องการหาเสียงในภาวะที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ว่า ให้ปฏิบัติตามที่หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินกำหนดไว้โดยให้ระมัดระวังอย่าให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย หรือความขัดแย้ง ส่วนการเปิดเวทีปราศรัยของผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ได้กำหนดพื้นที่ตั้งเวทีปราศรัยทั้งหมด 16 แห่ง ได้แก่ สวนลุมพินี สนามหลวง สวนจตุจักร เป็นต้น ให้ผู้สมัครได้จองวันเวลาที่จะจัดการปราศรัยในสถานที่ที่กำหนดได้ โดยขณะนี้ มีผู้สมัครจองเข้ามาแล้ว 3 คน สำหรับประเด็นการจัดทำโพล หรือการเผยแพร่โพลต่างๆ เป็นอำนาจพิจารณาของ กกต.ใหญ่ ซึ่งในการนัดประชุมผู้สมัคร ตามโครงการเลือกตั้งสมานฉันท์ ในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ย.) จะมีการหารือหาข้อสรุปในเรื่องนี้
