นายกสมาคมศึกษานิเทศก์ ขอตั้งสำนักศึกษานิเทศก์ เพราะปรับโครงสร้างทำให้การระบบเชื่อมกลางขาดหาย เตรียมขอเพิ่ม ศน.เขตละ 25 คน ขณะนี้มีเพียงเขตละ 3-4 คน น้อยเกินไป
นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการศึกษานิเทศก์ (ศน.) เรื่อง การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของชาติในบทบาทหน้าที่ ศน.ว่า ศน.เป็นบุคคลที่มีวุฒิภาวะสูง มีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับศรัทธา ขณะเดียวกัน ศน.ยังต้องดูแลการศึกษาขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา การศึกษานอกโรงเรียน การศึกษาเอกชน แต่เวลานี้จำนวน ศน.ทั่วประเทศเหลือเพียง 4,000 คน มีภาระงานมาก
อย่างไรก็ตาม ตนรับทราบปัญหาที่ทางสมาคมศึกษานิเทศก์แห่งประเทศไทย ซึ่งต้องการให้ ศธ. เข้ามาดูแล โดยเฉพาะบริบทการทำงานของ ศน.ในแต่ละสำนักงานเขตพื้นที่ (สพท.) ปัจจุบันขาดหายไปเพราะเกิดจากการปรับโครงสร้าง ศธ.ที่ได้ยุบรวมองค์กร และให้ ศน.อยู่ในกำกับของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งปัญหาต่างๆ ที่ ศน.พูดคุยกันในวันนี้จะรวบรวมเพื่อหารือกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ ศธ.เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป
นายจำเริญ พรหมมาศ นายกสมาคมศึกษานิเทศก์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ศน. ทั่วประเทศเหลือประมาณ 3,800 คน และในจำนวนนี้ยังขอเข้าโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด (เออลีรีไทร์) จำนวน 186 คน หากคนกลุ่มนี้เกษียณ ศน.ก็จะขาดบุคลากรมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากให้อนุมัติให้เกษียณก็ขออัตรากำลังกลับคืนเท่าเดิม และตามโครงสร้างเดิมกำหนดให้แต่ละ สพท.จะต้องมี ศน.อยู่อย่างน้อย 25 คนต่อเขต แต่ในปัจจุบันบางเขตมีเพียง 3-4 คนเท่านั้น มากสุดประมาณ 12 คน จึงขอให้พิจารณาเพิ่มอัตราคนเป็น 25 คนทุกเขต หลังจากนี้จะนำข้อสรุปที่ได้ประชุมในครั้งนี้เสนอต่อนายสมชาย เช่น ปัญหาเรื่องอัตรากำลังคน งบประมาณ รวมถึงเรื่องการตั้งสำนักศึกษานิเทศก์
“การตั้งสำนักศึกษานิเทศก์ เพราะ ศธ.ยังพิจารณาเรื่องตั้งสำนักมัธยมได้ ก็ควรจะพิจารณาในส่วนของ ศน.เช่นกัน เพราะถ้าหากมีสำนักศึกษานิเทศก์ขึ้นมาจะได้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางประสานงานต่างๆ ไปสู่ ศน.ที่ประจำในแต่ละเขตได้ง่ายมากขึ้น เกิดการทำงานอย่างเป็นระบบ ท้ายที่สุดจะส่งผลดีต่อคุณภาพการศึกษาของเด็ก”
นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการศึกษานิเทศก์ (ศน.) เรื่อง การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของชาติในบทบาทหน้าที่ ศน.ว่า ศน.เป็นบุคคลที่มีวุฒิภาวะสูง มีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับศรัทธา ขณะเดียวกัน ศน.ยังต้องดูแลการศึกษาขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา การศึกษานอกโรงเรียน การศึกษาเอกชน แต่เวลานี้จำนวน ศน.ทั่วประเทศเหลือเพียง 4,000 คน มีภาระงานมาก
อย่างไรก็ตาม ตนรับทราบปัญหาที่ทางสมาคมศึกษานิเทศก์แห่งประเทศไทย ซึ่งต้องการให้ ศธ. เข้ามาดูแล โดยเฉพาะบริบทการทำงานของ ศน.ในแต่ละสำนักงานเขตพื้นที่ (สพท.) ปัจจุบันขาดหายไปเพราะเกิดจากการปรับโครงสร้าง ศธ.ที่ได้ยุบรวมองค์กร และให้ ศน.อยู่ในกำกับของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งปัญหาต่างๆ ที่ ศน.พูดคุยกันในวันนี้จะรวบรวมเพื่อหารือกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ ศธ.เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป
นายจำเริญ พรหมมาศ นายกสมาคมศึกษานิเทศก์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ศน. ทั่วประเทศเหลือประมาณ 3,800 คน และในจำนวนนี้ยังขอเข้าโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด (เออลีรีไทร์) จำนวน 186 คน หากคนกลุ่มนี้เกษียณ ศน.ก็จะขาดบุคลากรมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากให้อนุมัติให้เกษียณก็ขออัตรากำลังกลับคืนเท่าเดิม และตามโครงสร้างเดิมกำหนดให้แต่ละ สพท.จะต้องมี ศน.อยู่อย่างน้อย 25 คนต่อเขต แต่ในปัจจุบันบางเขตมีเพียง 3-4 คนเท่านั้น มากสุดประมาณ 12 คน จึงขอให้พิจารณาเพิ่มอัตราคนเป็น 25 คนทุกเขต หลังจากนี้จะนำข้อสรุปที่ได้ประชุมในครั้งนี้เสนอต่อนายสมชาย เช่น ปัญหาเรื่องอัตรากำลังคน งบประมาณ รวมถึงเรื่องการตั้งสำนักศึกษานิเทศก์
“การตั้งสำนักศึกษานิเทศก์ เพราะ ศธ.ยังพิจารณาเรื่องตั้งสำนักมัธยมได้ ก็ควรจะพิจารณาในส่วนของ ศน.เช่นกัน เพราะถ้าหากมีสำนักศึกษานิเทศก์ขึ้นมาจะได้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางประสานงานต่างๆ ไปสู่ ศน.ที่ประจำในแต่ละเขตได้ง่ายมากขึ้น เกิดการทำงานอย่างเป็นระบบ ท้ายที่สุดจะส่งผลดีต่อคุณภาพการศึกษาของเด็ก”
