“พระราชินี” ทรงห่วงไฟใต้ มีพระเสาวนีย์ตั้งศูนย์ดูแลครู

“สมชาย” เผย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ห่วงสถานการณ์ 3 จังหวัดใต้ มีพระเสาวนีย์ให้ตั้งศูนย์ดูแลครู สำหรับนักเรียน 5 จังหวัดชายแดนใต้เข้าโครงการครอบครัวอุปถัมภ์ ขอตั้งใจเรียนเก็บเกี่ยวความรู้

วันนี้ (13 ส.ค.) หอประชุมโรงเรียนสตรีวิทยา นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวให้โอวาทแก่นักเรียนจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา/ปัตตานี/นราธิวาส/สงขลา และสตูล) ที่เข้าร่วมโครงการครอบครัวอุปถัมภ์ ประจำปีการศึกษา 2551 จำนวน 155 คน เพื่อศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่มีชื่อเสียงทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 37 โรง อาทิ โรงเรียนสตรีวิทยา โรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย อิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย โรงเรียน ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ศึกษานารี สุรศักดิ์มนตรี ฯลฯ ว่า
 
รัฐบาลมีความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีความสุข สามารถดำรงชีวิตได้เป็นปกติ โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ และจากเหตุการณ์ความไม่สงบนั้น มีผลกระทบต่อผู้บริหาร ครู อาจารย์ และนักเรียน ขาดขวัญและกำลังใจ และต้องหยุดเรียนบ่อย ทำให้นักเรียนเกือบทุกระดับมีคุณภาพการศึกษาต่ำมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องนี้ต้องขอให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายดูแลความมั่นคงเป็นผู้ดูแล ดำเนินการแก้ปัญหา

ส่วน ศธ.มีหน้าที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทัศนคติของเยาวชนที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ให้เป็นเยาวชนที่ดีพร้อมทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา รู้เข้าใจสภาพแวดล้อมสังคมที่เอื้อต่อการอยู่ร่วมกันของเยาวชนอย่างเสมอภาคในแนวทางสันติสุข โดยมุ่งผลต่อการสร้างความสมานฉันท์ระหว่างประชาชนในพื้นที่และความสงบสุขอย่างยั่งยืน จึงได้ร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดโครงการครอบครัวอุปถัมภ์โดยคัดเลือกนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 มาตั้งแต่ปีการศึกษา 2550

“โครงการนี้ช่วยให้นักเรียนได้แลกเปลี่ยนความคิดความเห็น ซึ่งนอกจากนักเรียนจะได้รับประโยชน์แล้ว ยังช่วยให้บุคคลทั่วไปเข้าใจอย่างดีว่า ทางการได้มีการเปิดโอกาสให้คนทุกเชื้อชาติศาสนาอย่างเท่าเทียมกันทุกคน เมื่อกลับไปแล้วขอให้ทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่ตามข้อเท็จจริง ศธ. มีความมุ่งมั่นที่จะให้ทุกคนได้เรียนโดยเท่าเทียมกัน แต่ยอมรับว่า ก็ยังมีความไม่เท่าเทียมกัน รวมถึงในพื้นที่ที่มีปัญหาความไม่สงบที่เป็นปัญหามาจากบุคคลภายนอก ส่งผลกระทบต่อการเรียน โรงเรียนถูกเผา ผู้ปกครองถูกทำร้าย ซึ่งกระทรวงจะพยายามช่วยเหลือแก้ไขเท่าที่จะทำได้ ทั้งดูแลสวัสดิภาพครู การเพิ่มการรักษาความปลอดภัย”

สำหรับปีการศึกษา 2551 นี้ มีนักเรียนเข้าร่วมโครงการจำนวน 155 คน ประกอบด้วย นักเรียนจากจังหวัดยะลา 43 คน จังหวัด ปัตตานี 46 คน จังหวัดนราธิวาส 35 คน จังหวัดสงขลา 12 คน และ จังหวัดสตูล 19 คน ซึ่ง สพฐ.ได้จัดหาโรงเรียน ที่ดีมีคุณภาพและมีชื่อเสียงในกรุงเทพมหานคร จำนวน 37 โรงเรียน เป็นสถานที่เรียนและที่พักอาศัยตลอดปีการศึกษา 2551 เพื่อให้นักเรียนได้มีโอกาสศึกษาหาความรู้ทางวิชาการ เพื่อเตรียมพร้อมและเพิ่มโอกาสในการ เข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาต่อไป

นายสมชาย กล่าวด้วยว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอให้ดูแลความปลอดภัยของครูในพื้นที่ โดยขอให้สร้างศูนย์เพื่อดูแลครู เพราะที่ผ่านมามีครูเสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่หลายราย ส่งผลให้เกิดความสูญเสียต่อครอบครัว ดังนั้นศูนย์นี้จะสามารถดูแลครูและครอบครัวของครูได้ ซี่งผมได้รับเรื่องนี้ใส่เกล้าใส่กระหม่อม และจะไปหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ศูนย์ดูแลครูปัจจุบันมีที่ปัตตานีเพียงที่เดียว

ด้าน นายกษมา ยิ่งยอดเยี่ยม จากโรงเรียนเบตง “วีระราษฎร์ประสาน” ตัวแทนนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า ตนได้เข้าร่วมโครงการเพื่อเรียนในโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ยอมรับว่า ตอนแรกรู้สึกตื่นเต้น ประหม่า เพราะไม่เคยอยู่ไกลบ้านมาก่อนแต่ทำให้เรียนรู้ว่าไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในประเทศไทยเราอยู่ด้วยกันได้ คนไทยมีความเอื้ออาทร มีไมตรีต่อกัน

น.ส.อัสมะ บูละ โรงเรียนดารุสสาลาม จ.นราธิวาส มาศึกษาต่อชั้น ม.4 โรงเรียนศึกษานารี กล่าวว่า ครั้งแรกที่เข้ามาเรียนรู้สึกอึดอัดมาก โดยเฉพาะการเรียนมีความแตกต่างจากโรงเรียนเดิม มีการบ้านเยอะจนทำเกือบไม่ทัน และเราก็ไม่ได้เก่งมาเหมือนเด็กกรุงเทพ ทำให้ต้องขยันมากกว่าเพื่อนร่วมห้องโดยอ่านหนังสือก่อนมาเรียน และวิชาไหนที่เรียนไม่ทันจะได้เพื่อนร่วมห้องช่วยสอน หรือช่วยติวให้ เมื่ออยู่ระยะหนึ่งเริ่มคลายความอึดอัดลงเพราะเพื่อนมีน้ำใจห่วงใยว่าจะเรียนไม่ทัน คอยถามเสมอว่าจะให้ช่วยอะไรบ้าง พอเอยปากก็จะมีเพื่อนมาช่วยเหลือทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม ตั้งใจจะเรียนให้ผลการเรียนออกมาดีที่สุดเพื่อศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยต่อไป

หากถามว่า รู้สึกคิดถึงบ้างไหม ยังคิดถึงบ้านจะใช้วิธีการโทรศัพท์ไปเล่าความเป็นอยู่ เรื่องการเรียน ให้พ่อแม่ฟังเกือบทุกวัน บอกว่าเพื่อนที่กรุงเทพเขาเก่งๆ กันทุกคน จึงต้องพัฒนาการเรียนตนเองให้เท่าเทียมกับเพื่อนๆ ให้ได้

นายบิลฮัก หะยีมะ โรงเรียนอัตตัรกียะอิสลามียะห์ จ.นราธิวาส มาเรียนต่อระดับ ม.6 โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี กล่าวว่า ทันทีที่ก้าวเข้ามาในรั้วโรงเรียนรู้สึกประหม่ากลัวเข้ากับเพื่อนไม่ได้ และเรียนตามเพื่อนไม่ทัน แต่เพื่อนใหม่และอาจารย์ให้ความเป็นกันเองจนตนสามารถปรับตัวเข้ากับเพื่อนๆ ได้ และเพื่อนที่กรุงเทพมักจะถามว่าสถานการณ์ภาคใต้เป็นอย่างไร พอบอกว่าไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิด พร้อมกันชวนไปเที่ยวเพื่อนก็ส่ายหัวไม่กล้าไปเพราะกลัวอันตราย สำหรับเรื่องการเรียนยอมรับว่ายังตามเพื่อนไม่ค่อยทัน แต่เพื่อนที่เก่งในแต่ละรายวิชาก็จะมาช่วยติวให้ และยิ่งรู้ว่าเขาตั้งใจสอบเข้าคณะทันตแพทย์เพื่อนๆ ก็ไปหาโบร์ชัวร์สถานที่ติวเพื่อเข้าเรียนคณะทันตแพทย์ให้

“ยังไม่มั่นใจว่า จะสอบเข้าคณะทันตแพทย์ได้หรือเปล่า เพราะรู้สึกเพื่อนร่วมชั้นเก่งกว่ามาก แต่อย่างไรก็ตามจะตั้งใจเรียนและตั้งใจสอบเพื่ออนาคตของตนเอง นอกจากนี้ อยากให้รัฐบาลจัดโครงการให้เด็กทางภาคใต้มาเรียนร่วมกับโรงเรียนดังๆ ในกรุงเทพฯ เพื่อสั่งสมประสบการณ์ที่โรงเรียนภาคใต้ไม่มีโดยเฉพาะด้านวิชาการที่เข้มแข็ง” นายบิลฮัก กล่าว