xs
xsm
sm
md
lg

แฉ! ปลอมบวชเป็นชี ตกดึกสวมวิกออกขายบริการทางเพศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พิษเศรษฐกิจฟุบ คนปลอมบวชออกเรี่ยไรทานมากขึ้น เจ้าคณะกรุงเทพฯ เผยพบปลอมบวชทั้งตำบลเพื่อออกเรี่ยไรใน กทม. ขณะที่พุทธศาสนิกชนร้องเรียนย่านบางซื่อมีผู้หญิงรวมกลุ่มปลอมเป็นชีออกเรี่ยไรเงิน ตกดึกสวมวิกขายบริการทางเพศ ส่วนที่ รพ.สงฆ์ พระสงฆ์แย่งกันนอนเตียงริมประตูเพราะคนมาทำบุญเยอะ ถึงขนาดแอบฉันน้ำตาลเพิ่มน้ำตาลในเลือดจะได้นอนโรงพยาบาลต่อ


เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 23 มิ.ย.ที่วัดเสมียนนารี มีการประชุมพระสังฆาธิการ และพระวินยาธิการ (ตร.พระ) ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยมี พระธรรมสุธี เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และหัวหน้าพระวินยาธิการ เป็นประธานการประชุม พร้อมทั้งกล่าวให้โอวาทเปิดการประชุมตอนหนึ่งว่า ปัญหาการปลอมบวช และพระที่มาบิณฑบาตเรี่ยไรเงินในเขต กทม.มีให้เห็นโดยตลอด ซึ่งยอมรับว่าสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้เกิดปัญหาในการปลอมบวชมากขึ้น เพราะคนมองว่าการเป็นพระสงฆ์สามารถหาเงินได้ง่ายที่สุด แค่ยอมโกนหัว และห่มจีวร ออกมาบิณฑบาตก็สามารถหาเงินได้แล้ว ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง โดยเมื่อเร็วๆ นี้ พระวินยาธิการในเขต กทม.ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการจับกุมกับกลุ่มคนที่มาปลอมบวชกลุ่มหนึ่ง และเมื่อมีการสอบถามก็ทราบว่ามาจาก จ.ชัยภูมิ จึงมีการประสานไปยังเจ้าคณะผู้ปกครองใน จ.ชัยภูมิ ให้ไปตรวจสอบดู ก็พบว่าตำบลที่กลุ่มคนกลุ่มนี้อาศัยอยู่ ในช่วงฤดูกาลในการทำนาก็จะทำนากันตามปกติ แต่พอหมดการทำนาก็จะรวมกลุ่มกันแล้วปลอมบวชเป็นพระเข้ามาเรี่ยไรเงินใน กทม. เรียกว่าทำกันทั้งตำบล

“นอกจากนี้ยังมีคนร้องเรียนมายังพระวินยาธิการอีกด้วยว่า แถวย่านบางซื่อ มีผู้หญิงอยู่กลุ่มหนึ่งซึ่งจะยอมโกนหัวเพื่อที่ในช่วงกลางวันแต่งกายเลียนแบบแม่ชีเพื่อออกไปเรี่ยไรเงิน แต่พอตกกลางคืนผู้หญิงกลุ่มนี้ก็จะนำวิกผมมาใส่แล้วขายบริการทางเพศ ซึ่งกรณีนี้พระวินยาธิการไม่สามารถที่จะไปดำเนินการอะไรได้ จึงจะต้องนำข้อมูลไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เพื่อดำเนินการต่อไป จะเห็นได้ว่าปัญหาเกี่ยวกับความมั่นคงของพระพุทธศาสนามีอยู่มาก และหลากหลาย จึงอยากให้พระวินยาธิการเข้มแข็ง ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ เพื่อรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงของพระพุทธศาสนา”

พระธรรมสุธี กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน นอกจากปัญหาการปลอมบวชแล้วยังได้รับการร้องเรียนจากทางโรงพยาบาลสงฆ์ด้วยว่า พระสงฆ์บางรูปที่เข้าไปรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงฆ์ ก็เพื่อต้องการหาผลประโยชน์ เพราะในโรงพยาบาลสงฆ์จะมีประชาชนไปทำบุญอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะเตียงที่อยู่ใกล้ประตู ทำให้พระที่ต้องการหาผลประโยชน์พยายามจะวิ่งเต้นกับทางโรงพยาบาลเพื่อให้ได้นอนเตียงใกล้ประตู ขณะที่พระบางรูปก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้อยู่ที่โรงพยาบาลสงฆ์ต่อ โดยเมื่อแพทย์บอกว่าอาการดีขึ้นและวันต่อไปสามารถกลับวัดได้แล้ว ในคืนวันนั้นก็จะหาน้ำตาลมาฉัน เพื่อให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มมากขึ้น และให้ได้อยู่ที่โรงพยาบาลต่อ ทางโรงพยาบาลจึงต้องแจ้งมาที่พระวินยาธิการ เพื่อส่งให้เจ้าคณะผู้ปกครองดำเนินการต่อไป

ด้าน นายอำนาจ บัวศิริ ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า กรณีของกลุ่มผู้หญิงที่ปลอมเป็นแม่ชีตอนกลางวัน และพอตกกลางคืนจะนำวิกผมมาใส่แล้วขายบริการทางเพศ แถวย่านบางซื่อ นั้น ทางพระวินยาธิการ และสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ไม่สามารถไปดำเนินการได้ ต้องนำข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไป ส่วนกลุ่มคนปลอมบวชในตำบลหนึ่งของ จ.ชัยภูมินั้น จะต้องประสานไปยังเจ้าคณะผู้ปกครอง พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ให้คอยช่วยจับตาดูพฤติกรรม เพราะการปลอมบวชถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ทันที อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนาที่ในการตรวจดูคนปลอมบวช และพระที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม มี แค่ 19 คน ซึ่งไม่เพียงพอ ดังนั้นทางสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เตรียมที่จะประสานไปยัง กทม. เพื่อขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดตามพื้นที่ต่างๆ คอยเป็นสายให้กับสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เมื่อพบเห็นพระสงฆ์ที่มีพฤตติกรรมน่าสงสัยก็จะให้แจ้งมาที่สำนักงานพระพุทธศาสนาฯทันที โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ จะเป็นฝ่ายที่ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายเรื่องค่าโทรศัพท์ให้

รศ.ดร.สุภาพรรณ ณ บางช้าง (แม่ชีวิมุตติยา) ประธานหอพระไตรปิฎกนานาชาติ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า กรณีมีกลุ่มคนปลอมบวชเป็นแม่ชีในตอนกลางวัน แล้วตอนกลางคืน ใส่วิกผมไปเปิดซ่องนั้น ยังไม่เคยได้ยินเรื่องดังกล่าว แต่ถ้าพบกลุ่มคนประเภทนี้ที่ไหนต้องดำเนินการจับกุม และนำมาลงโทษอย่างหนักหน่วง รวมทั้งทำให้ประชาชนเห็นการลงโทษอย่างชัดเจนด้วย เพราะเป็นการกระทำผิดที่เห็นชัดเจนอยู่แล้ว คนในยุคนี้ ทำอะไรได้ทุกอย่าง แม้แต่ปลอมบวชเป็นแม่ชี เป็นพระ เพื่อประกอบอาชีพ ซึ่งเป็นสิ่งที่เลวมาก แต่คิดว่าเรื่องนี้ไม่น่ากระทบต่อภาพลักษณ์ของแม่ชีไทย เพราะบุคคลที่ทำนั้นเป็นกลุ่มคนปลอมบวช ไม่ใช่แม่ชีจริงๆ และพุทธศาสนิกชนมีวิจารณญาณแยกแยะว่ากลุ่มไหนกระทำผิด
กำลังโหลดความคิดเห็น