ทีมแพทย์ไทยเริ่มลงพื้นที่สำรวจรอบเมืองโมเมียะแล้ว หลังใช้เวลาเดินทางนาน 11 ชั่วโมง เตรียมแบ่งเป็น 2 ทีมใหญ่แยกทำงานที่เมืองลาโบทา ห่างไปอีก 40 กม.
นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ผู้อำนวยการสำนักบริการการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (ศูนย์นเรนทร) ว่า หน่วยแพทย์พระราชทานในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เดินทางถึงเมืองโมเมียะ เมื่อเวลา 02.00 น.ของคืนวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ เนื่องจากต้องใช้เวลาเดินทางนานถึง 11 ชั่วโมง ทั้งที่เมืองโมเมียะอยู่ห่างจากกรุงย่างกุ้งไปทางใต้ประมาณ 300 กิโลเมตรเท่านั้น เนื่องจากเกือบตลอดเส้นทางเป็นถนนดินแดง หรือลูกรัง ไม่สะดวกเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หน่วยแพทย์พระราชทานได้เริ่มลงพื้นที่สำรวจความเป็นอยู่ผู้ประสบภัยในบริเวณรอบๆ ของเมืองโมเมียะแล้ว เพื่อประเมินสถานการณ์และให้การรักษาอาการเจ็บป่วยของผู้ประสบภัยชาวพม่า
ด้านนพ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า แผนการปฏิบัติงานเบื้องต้น จะแบ่งทีมแพทย์ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ โดยทีมแรกจะให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่รอดชีวิตในเขตเมืองโมเมียะ ส่วนอีกทีมจะเดินทางไปให้ความช่วยเหลือผู้รอดชีวิตที่เมืองลาโบทา ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองโมเมียะราว 40 กิโลเมตร แต่เป็นการเดินทางไปเช้าเย็นกลับ ทั้งนี้ ทราบว่า พื้นที่โดยรอบของเมืองโมเมียะได้รับความเสียหายค่อนข้างมาก ซึ่งหน่วยแพทย์ได้เริ่มให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว โดยคาดว่าในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ จะทราบข้อมูลเกี่ยวกับการเจ็บป่วยของผู้รอดชีวิตมากขึ้น
“ขอให้ทุกฝ่ายสบายใจได้ว่าหน่วยแพทย์พระราชทานทั้ง 30 คน มีความเป็นอยู่ไม่ยากลำบากมากนัก เนื่องจากเขตที่พักอยู่ใจกลางเมืองโมเมียะ ได้รับความเสียหายไม่มากนักแตกจากพื้นที่โดยรอบที่เสียหายค่อนข้างหนัก โดยแพทย์ทุกคนพักค้างคืนอยู่ภายในศูนย์ฏิบัติธรรม ซึ่งในเมืองมีศูนย์พักพิงของผู้ประสบภัยจำนวนมาก มีร้านจำหน่ายอาหาร มีน้ำประปาสะอาด และมีไฟฟ้าใช้ ถือว่ามีความปลอดภัยและสะดวกสบายในระดับหนึ่ง”นพ.สุรเชษฐ์ กล่าว
นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ผู้อำนวยการสำนักบริการการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (ศูนย์นเรนทร) ว่า หน่วยแพทย์พระราชทานในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เดินทางถึงเมืองโมเมียะ เมื่อเวลา 02.00 น.ของคืนวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ เนื่องจากต้องใช้เวลาเดินทางนานถึง 11 ชั่วโมง ทั้งที่เมืองโมเมียะอยู่ห่างจากกรุงย่างกุ้งไปทางใต้ประมาณ 300 กิโลเมตรเท่านั้น เนื่องจากเกือบตลอดเส้นทางเป็นถนนดินแดง หรือลูกรัง ไม่สะดวกเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หน่วยแพทย์พระราชทานได้เริ่มลงพื้นที่สำรวจความเป็นอยู่ผู้ประสบภัยในบริเวณรอบๆ ของเมืองโมเมียะแล้ว เพื่อประเมินสถานการณ์และให้การรักษาอาการเจ็บป่วยของผู้ประสบภัยชาวพม่า
ด้านนพ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า แผนการปฏิบัติงานเบื้องต้น จะแบ่งทีมแพทย์ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ โดยทีมแรกจะให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่รอดชีวิตในเขตเมืองโมเมียะ ส่วนอีกทีมจะเดินทางไปให้ความช่วยเหลือผู้รอดชีวิตที่เมืองลาโบทา ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองโมเมียะราว 40 กิโลเมตร แต่เป็นการเดินทางไปเช้าเย็นกลับ ทั้งนี้ ทราบว่า พื้นที่โดยรอบของเมืองโมเมียะได้รับความเสียหายค่อนข้างมาก ซึ่งหน่วยแพทย์ได้เริ่มให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว โดยคาดว่าในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ จะทราบข้อมูลเกี่ยวกับการเจ็บป่วยของผู้รอดชีวิตมากขึ้น
“ขอให้ทุกฝ่ายสบายใจได้ว่าหน่วยแพทย์พระราชทานทั้ง 30 คน มีความเป็นอยู่ไม่ยากลำบากมากนัก เนื่องจากเขตที่พักอยู่ใจกลางเมืองโมเมียะ ได้รับความเสียหายไม่มากนักแตกจากพื้นที่โดยรอบที่เสียหายค่อนข้างหนัก โดยแพทย์ทุกคนพักค้างคืนอยู่ภายในศูนย์ฏิบัติธรรม ซึ่งในเมืองมีศูนย์พักพิงของผู้ประสบภัยจำนวนมาก มีร้านจำหน่ายอาหาร มีน้ำประปาสะอาด และมีไฟฟ้าใช้ ถือว่ามีความปลอดภัยและสะดวกสบายในระดับหนึ่ง”นพ.สุรเชษฐ์ กล่าว
