“สมเด็จพระพุฒาจารย์” ยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นต้นแบบพุทธศาสนิกชน ทรงสร้างความร่มเย็นให้เกิดกับชาวโลก ขณะที่ “สมัคร” ชวนคนไทยศึกษาประวัติพระพุทธศาสนา ประวัติพระพุทธเจ้า พร้อมท่องศีล 5 ให้คนไทยปฏิบัติตาม และชวนร่วมฉลองวันวิสาขบูชาในวันพรุ่งนี้
ในวันนี้(18 พ.ค.)ได้มีการประชุมผู้นำชาวพุทธ เนื่องใน “วันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2551” โดยมีประมุขสงฆ์ ผู้นำศาสนา และนักวิชาการ จาก 26 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ประมาณ 1,500 คน เข้าร่วม ณ หอประชุมองค์การสหประชาชาติ สมเด็จพระพุฒาจารย์(เกี่ยว อุปเสโณ) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กล่าวสัมโมทนียกถา ว่า รัฐบาลไทย และมหาเถรสมาคม ต่างเห็นความสำคัญของวันวิสาขบูชาและพระพุทธศาสนา เพราะพระพุทธศาสนาทำให้เกิดความสงบสุข ร่มเย็น และขณะนี้ทั่วโลกต้องการความสงบสุข ร่มเย็น และความเอื้อเฟื้อ ฉะนั้นเราชาวพุทธจะทำอย่างไรให้เกิดความร่มเย็นขึ้น โดยเฉพาะขณะนี้ 2 ประเทศ คือ พม่า และจีน ที่ประสบปัญหาภัยธรรมชาติ ซึ่งทั่วโลกต่างร่วมกันมีน้ำใจและเอื้อเฟื้อให้ความช่วยเหลือ พร้อมกันนี้ยังยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นต้นแบบพุทธศาสนิกชนชาวไทย ที่ทรงสร้างความร่มเย็นให้เกิดแก่ชาวโลก ดังจะเห็นได้จากน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงพระราชทานสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นให้กับทั้งสองประเทศ และรัฐบาลเอง ก็น้อมนำมาปฏิบัติ ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิบัติตามสิ่งที่ทรงพระราชทานแนวทางไว้
ด้านพระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ประธานคณะธรรมการดำเนินการจัดกิจกรรมนานาชาติเนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญของสหประชาชาติ กล่าวว่า การที่ทุกคนมารวมกัน ณ ที่นี้ เพื่อร่วมกันเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ตรงกับวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งในอดีตนั้น เจ้าชายสิทธัตถะ เคยกล่าวว่า การประสูติ หมายถึง ทรงเกิดในฐานะมนุษย์ เป็นเจ้าชายสิทธัตถะ และทรงเกิดในทางธรรม คือการบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ ฉะนั้น ขอให้ทุกฝ่ายที่ร่วมกันรำลึกถึงความสำคัญในวันสำคัญทางพุทธศาสนานี้ และเจริญรอยตามหลักธรรมคำสอน ของพระพุทธองค์ที่ทรงแสดงไว้ เพื่อนำความสงบ ร่มเย็นเกิดแก่ชาวโลก
ขณะที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “สนทนาประสามัคร” เกี่ยวกับวันวิสาขบูชาว่า วันวิสาขบูชาตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 ซึ่งองค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็นวันสำคัญของโลก เนื่องจากมีประชาชนหลายร้อยล้านคนนับถือพระพุทธศาสนา การที่องค์การสหประชาชาติกำหนดให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของโลกนั้น เพราะเห็นว่าพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่หนึ่งในโลกที่เป็นหลัก และเป็นศาสนาที่มีเหตุผล ถ้าเราเป็นชาวพุทธก็ควรจะรู้จักศาสนาของเรา เป็นศาสนาหลักศาสนาหนึ่งในโลก และเป็นศาสนาที่ไม่บังคับ จึงอยู่มาได้นานกว่า 2,500 ปี ชาวพุทธควรจะรู้และศึกษาว่าศาสดาของศาสนาพุทธมีความเป็นมาอย่างไร อ่านประวัติว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ตรงกันคือวันเพ็ญเดือน 6 ถือเป็นความอัศจรรย์
“หลักของศาสนาพุทธ คือ ทำความดี ละเว้นชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว และพุทธศาสนามีพระรัตนตรัยเป็นหลัก คือแก้ว 3 ประการ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์” นายกรัฐมนตรีกล่าว และว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้อริยสัจสี่ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้เรานำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ชัดเจนแน่นอน เช่น ไม่มีเงิน ไม่มีข้าวกิน ข้าวสารราคาแพง การจราจรติดขัด ก็เป็นทุกข์ ซึ่งทุกข์ที่เกิดขึ้นมีทั้งเหตุและหนทางแห่งการดับทุกข์ทั้งสิ้น
นายสมัคร กล่าวด้วยว่า วันพรุ่งนี้ (19 พ.ค.) เป็นวันฉลองวันวิสาขบูชา ขอเชิญชวนคนไทยศึกษา อ่านประวัติพระพุทธเจ้า มีพระรัตนตรัย อริยสัจสี่ ศีลห้า ทิศหก มรรคแปด ทศพิธราชธรรม เป็นต้น โดยเฉพาะศีลห้า คือ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่เอาของผู้อื่นเป็นของเราเอง ไม่ผิดลูกผิดเมียคนอื่น รักษาวาจาสัตย์ และไม่ดื่มสุรายาเมา
“ศีล 5 ข้อ คนไทยอย่างน้อยที่สุดควรจะท่องเป็นภาษาบาลีได้ คือ ปาณาติปาตา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ อทินนาทานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ มุสาวาทา เวรมณีสิกฺขาปทํ สมาทิยามิ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ” นายกรัฐมนตรีกล่าว และว่า ถ้าคนไทยถือศีล 5 ข้อตามที่พระพุทธเจ้าให้ไว้ คงไม่ต้องมีข่าวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์หัวสีเหมือนที่เป็นอยู่ในขณะนี้
ในวันนี้(18 พ.ค.)ได้มีการประชุมผู้นำชาวพุทธ เนื่องใน “วันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2551” โดยมีประมุขสงฆ์ ผู้นำศาสนา และนักวิชาการ จาก 26 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ประมาณ 1,500 คน เข้าร่วม ณ หอประชุมองค์การสหประชาชาติ สมเด็จพระพุฒาจารย์(เกี่ยว อุปเสโณ) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กล่าวสัมโมทนียกถา ว่า รัฐบาลไทย และมหาเถรสมาคม ต่างเห็นความสำคัญของวันวิสาขบูชาและพระพุทธศาสนา เพราะพระพุทธศาสนาทำให้เกิดความสงบสุข ร่มเย็น และขณะนี้ทั่วโลกต้องการความสงบสุข ร่มเย็น และความเอื้อเฟื้อ ฉะนั้นเราชาวพุทธจะทำอย่างไรให้เกิดความร่มเย็นขึ้น โดยเฉพาะขณะนี้ 2 ประเทศ คือ พม่า และจีน ที่ประสบปัญหาภัยธรรมชาติ ซึ่งทั่วโลกต่างร่วมกันมีน้ำใจและเอื้อเฟื้อให้ความช่วยเหลือ พร้อมกันนี้ยังยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นต้นแบบพุทธศาสนิกชนชาวไทย ที่ทรงสร้างความร่มเย็นให้เกิดแก่ชาวโลก ดังจะเห็นได้จากน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงพระราชทานสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นให้กับทั้งสองประเทศ และรัฐบาลเอง ก็น้อมนำมาปฏิบัติ ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิบัติตามสิ่งที่ทรงพระราชทานแนวทางไว้
ด้านพระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ประธานคณะธรรมการดำเนินการจัดกิจกรรมนานาชาติเนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญของสหประชาชาติ กล่าวว่า การที่ทุกคนมารวมกัน ณ ที่นี้ เพื่อร่วมกันเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ตรงกับวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งในอดีตนั้น เจ้าชายสิทธัตถะ เคยกล่าวว่า การประสูติ หมายถึง ทรงเกิดในฐานะมนุษย์ เป็นเจ้าชายสิทธัตถะ และทรงเกิดในทางธรรม คือการบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ ฉะนั้น ขอให้ทุกฝ่ายที่ร่วมกันรำลึกถึงความสำคัญในวันสำคัญทางพุทธศาสนานี้ และเจริญรอยตามหลักธรรมคำสอน ของพระพุทธองค์ที่ทรงแสดงไว้ เพื่อนำความสงบ ร่มเย็นเกิดแก่ชาวโลก
ขณะที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “สนทนาประสามัคร” เกี่ยวกับวันวิสาขบูชาว่า วันวิสาขบูชาตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 ซึ่งองค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็นวันสำคัญของโลก เนื่องจากมีประชาชนหลายร้อยล้านคนนับถือพระพุทธศาสนา การที่องค์การสหประชาชาติกำหนดให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของโลกนั้น เพราะเห็นว่าพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่หนึ่งในโลกที่เป็นหลัก และเป็นศาสนาที่มีเหตุผล ถ้าเราเป็นชาวพุทธก็ควรจะรู้จักศาสนาของเรา เป็นศาสนาหลักศาสนาหนึ่งในโลก และเป็นศาสนาที่ไม่บังคับ จึงอยู่มาได้นานกว่า 2,500 ปี ชาวพุทธควรจะรู้และศึกษาว่าศาสดาของศาสนาพุทธมีความเป็นมาอย่างไร อ่านประวัติว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ตรงกันคือวันเพ็ญเดือน 6 ถือเป็นความอัศจรรย์
“หลักของศาสนาพุทธ คือ ทำความดี ละเว้นชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว และพุทธศาสนามีพระรัตนตรัยเป็นหลัก คือแก้ว 3 ประการ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์” นายกรัฐมนตรีกล่าว และว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้อริยสัจสี่ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้เรานำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ชัดเจนแน่นอน เช่น ไม่มีเงิน ไม่มีข้าวกิน ข้าวสารราคาแพง การจราจรติดขัด ก็เป็นทุกข์ ซึ่งทุกข์ที่เกิดขึ้นมีทั้งเหตุและหนทางแห่งการดับทุกข์ทั้งสิ้น
นายสมัคร กล่าวด้วยว่า วันพรุ่งนี้ (19 พ.ค.) เป็นวันฉลองวันวิสาขบูชา ขอเชิญชวนคนไทยศึกษา อ่านประวัติพระพุทธเจ้า มีพระรัตนตรัย อริยสัจสี่ ศีลห้า ทิศหก มรรคแปด ทศพิธราชธรรม เป็นต้น โดยเฉพาะศีลห้า คือ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่เอาของผู้อื่นเป็นของเราเอง ไม่ผิดลูกผิดเมียคนอื่น รักษาวาจาสัตย์ และไม่ดื่มสุรายาเมา
“ศีล 5 ข้อ คนไทยอย่างน้อยที่สุดควรจะท่องเป็นภาษาบาลีได้ คือ ปาณาติปาตา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ อทินนาทานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ มุสาวาทา เวรมณีสิกฺขาปทํ สมาทิยามิ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ” นายกรัฐมนตรีกล่าว และว่า ถ้าคนไทยถือศีล 5 ข้อตามที่พระพุทธเจ้าให้ไว้ คงไม่ต้องมีข่าวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์หัวสีเหมือนที่เป็นอยู่ในขณะนี้