อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ชี้ แม้ภูมิศาสตร์ของไทยมีเทือกเขาช่วยบังพายุ แต่ประมาทไม่ได้ ต้องเฝ้าระวังการก่อตัวของพายุ มั่นใจเครื่องมือที่มีจะช่วยเตือนภัยก่อนเกิดพายุได้อย่างน้อย 1 สัปดาห์
นายศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงศ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ให้สัมภาษณ์ถึงความเสี่ยงของประเทศไทยกับการเกิดพายุรุนแรงเหมือนในพม่า ว่า พื้นที่ส่วนหนึ่งของประเทศ โดยเฉพาะภาคใต้ตั้งแต่ จ.สตูล พังงา กระบี่ ภูเก็ต ระนอง ติดกับทะเลอันดามันและส่วนหนึ่งติดฝั่งอ่าวเบงกอล และมหาสมุทรอินเดีย และจังหวัดทางตะวันตกของไทย ตั้งแต่ทางภาคเหนือ คือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลงมาถึงแถบกาญจนบุรี ปราจีนบุรี แต่ถือว่าโชคดีที่ไทยมีภูเขาบังอยู่ตั้งแต่เทือกเขาธงชัย เทือกเขาตะนาวศรี ดังนั้น พายุที่เข้ามาทางอ่าวเบงกอล จะถูกบังส่วนหนึ่งจากแนวเขาทำให้ความรุนแรงอ่อนตัวลงกลายเป็นพายุดีเปรสชันเป็นส่วนมาก
อย่างไรก็ตาม คงประมาทไม่ได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของพายุ ดังนั้น ต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลาในจังหวัดดังกล่าว รวมทั้งให้ความรู้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้มีระบบเฝ้าระวังติดตามภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะการก่อตัวของพายุ กลุ่มฝน สำหรับอุปกรณ์เครื่องมือที่กรมอุตุฯ มีอยู่ในปัจจุบันสามารถตรวจสอบการก่อตัวของพายุ การตรวจสอบกลุ่มฝนได้ดีระดับหนึ่ง ถ้ามีอะไรผิดปกติจะแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบก่อนเพื่อเตรียมตัวอย่างน้อย 1 สัปดาห์
นายศุภฤกษ์ กล่าวด้วยว่า พายุไซโคลนรุนแรงที่เกิดในประเทศพม่า ถือเป็นลูกแรกที่เกิดจากมหาสมุทรอินเดีย อาจมีส่วนหนึ่งมาจากความเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศของโลก ทำให้พายุที่เกิดขึ้นมีความแรงและจำนวนลูกมากขึ้น อยากให้ประชาชนตระหนักถึงภัยธรรมชาติมากขึ้น เพราะสิ่งแวดล้อมในโลกมีการเปลี่ยนแปลง ประกอบกับประเทศไทยอยู่ระหว่าง 2 ฝั่งของมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิก
นายศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงศ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ให้สัมภาษณ์ถึงความเสี่ยงของประเทศไทยกับการเกิดพายุรุนแรงเหมือนในพม่า ว่า พื้นที่ส่วนหนึ่งของประเทศ โดยเฉพาะภาคใต้ตั้งแต่ จ.สตูล พังงา กระบี่ ภูเก็ต ระนอง ติดกับทะเลอันดามันและส่วนหนึ่งติดฝั่งอ่าวเบงกอล และมหาสมุทรอินเดีย และจังหวัดทางตะวันตกของไทย ตั้งแต่ทางภาคเหนือ คือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลงมาถึงแถบกาญจนบุรี ปราจีนบุรี แต่ถือว่าโชคดีที่ไทยมีภูเขาบังอยู่ตั้งแต่เทือกเขาธงชัย เทือกเขาตะนาวศรี ดังนั้น พายุที่เข้ามาทางอ่าวเบงกอล จะถูกบังส่วนหนึ่งจากแนวเขาทำให้ความรุนแรงอ่อนตัวลงกลายเป็นพายุดีเปรสชันเป็นส่วนมาก
อย่างไรก็ตาม คงประมาทไม่ได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของพายุ ดังนั้น ต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลาในจังหวัดดังกล่าว รวมทั้งให้ความรู้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้มีระบบเฝ้าระวังติดตามภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะการก่อตัวของพายุ กลุ่มฝน สำหรับอุปกรณ์เครื่องมือที่กรมอุตุฯ มีอยู่ในปัจจุบันสามารถตรวจสอบการก่อตัวของพายุ การตรวจสอบกลุ่มฝนได้ดีระดับหนึ่ง ถ้ามีอะไรผิดปกติจะแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบก่อนเพื่อเตรียมตัวอย่างน้อย 1 สัปดาห์
นายศุภฤกษ์ กล่าวด้วยว่า พายุไซโคลนรุนแรงที่เกิดในประเทศพม่า ถือเป็นลูกแรกที่เกิดจากมหาสมุทรอินเดีย อาจมีส่วนหนึ่งมาจากความเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศของโลก ทำให้พายุที่เกิดขึ้นมีความแรงและจำนวนลูกมากขึ้น อยากให้ประชาชนตระหนักถึงภัยธรรมชาติมากขึ้น เพราะสิ่งแวดล้อมในโลกมีการเปลี่ยนแปลง ประกอบกับประเทศไทยอยู่ระหว่าง 2 ฝั่งของมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิก