“พงศกร” เข้มสั่งการอาชีวศึกษาให้ดูแลกิจกรรมรับน้องใหม่ในช่วงเปิดภาคเรียน ห้ามใช้ความรุนแรง แต่ให้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์แทน ขู่ผู้บริหารสถานศึกษาหากปล่อยให้รับน้องโหดต้องรับผิดชอบ ถือว่าขัดนโยบาย ลั่นเชื่อครู อาจารย์รู้ว่านักศึกษาจัดรับน้อง อยู่ที่ว่าจะเข้าไปจัดการหรือไม่
นายพงศกร อรรณนพพร รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ว่า ตนได้มอบนโยบายผู้บริหาร สอศ. และผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัด สอศ.ทั้ง 404 แห่งว่า ก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2551 ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ให้ทุกสถาบันเตรียมความพร้อมรับเปิดเทอมใหม่ให้ดี โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการรับน้องในปีนี้จะต้องไม่มีการรับน้องโหดเหมือนปีที่ผ่านๆ มาอย่างเด็ดขาด แต่ยังเปิดโอกาสให้มีกิจกรรมรับน้องใหม่ที่สร้างสรรค์ เช่น รุ่นพี่อาจจะพาน้องใหม่ไปบำเพ็ญประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ โดยนำความรู้พื้นฐานเรื่องช่างพารุ่นน้องไปทำความดีบูรณะซ่อมแซมวัด ซ่อมแซมโรงเรียนให้กับน้องๆ นักเรียนโรงเรียนประถมศึกษา และมัธยมศึกษา หรือการเก็บขยะในที่สาธารณะต่างๆ เป็นต้น
“ต่อไปการจัดกิจกรรมรับน้องแบบเก่าที่มีการจัดเป็นซุ้ม แล้วรุ่นพี่ใช้ความรุนแรงกับรุ่นน้องจะต้องไม่มี และไม่ให้เกิดขึ้นอีก ครู อาจารย์จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมกิจกรรมที่สร้างสรรค์กับนักศึกษา ผมเชื่อว่าหากครู อาจารย์เข้ามาดูแลนักศึกษาอย่างจริงจัง ปัญหาเรื่องการรับน้องโหดจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ผมขอฝากให้เรื่องนี้เป็นนโยบายหลักที่ผู้บริหาร และครู อาจารย์ทุกคนจะต้องให้ความสำคัญ ถ้ามีนโยบายที่ชัดเจนแบบนี้ไปแล้วแต่สถานศึกษายังปล่อยปะละเลยให้เกิดเหตุการณ์ที่เศร้าสลดจากการรับน้องขึ้นมาอีก ผู้บริหารสถานศึกษา รวมทั้งครู อาจารย์ที่เกี่ยวข้องก็จะต้องรับผิดชอบทางวินัย เพราะถือว่าละเลยคำสั่งหรือนโยบายของผู้บริหาร
นายพงศกร กล่าวอีกว่า ตนไม่เชื่อว่าการที่เด็กจะจัดกิจกรรมรับน้องไม่ว่าจะในหรือนอกสถานบัน ครูอาจารย์จะไม่ทราบเรื่อง เพียงแต่ทราบแล้วจะเข้าไปดูแลหรือไม่เท่านั้น ส่วนรุ่นพี่ที่ยังฝ่าฝืนจัดกิจกรรมรับน้องโหดทั้งที่ได้มีการห้ามแล้วเมื่อเกิดปัญหาก็ต้องว่ากันไปตามระเบียบของสถาบัน และหากก่อเหตุจนมีการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตเกิดขึ้นก็ต้องรับผิดชอบตามกฎหมายบ้านเมืองต่อไป นอกเหนือจากเรื่องการรับน้องโหดที่ตนได้สั่งการให้แต่ละสถานศึกษาดูแลเป็นพิเศษแล้ว ตนยังได้กำชับให้สถานศึกษาเข้มงวดเรื่องการก่อเหตุทะเลาะวิวาทของนักศึกษาในช่วงเปิดเทอมใหม่ เนื่องจากสถิติที่ผ่านมามักพบการก่อเหตุบ่อยครั้งในช่วงนี้ โดยเฉพาะสถาบันการศึกษาที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งอาจจะต้องมีการระดมเครือข่ายโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชนเข้ามาร่วมพูดคุยกำหนดมาตรการป้องกันปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ ทั้งนี้ตนคิดว่าการหาทางป้องกันปัญหาไว้ก่อน ย่อมดีกว่าปล่อยให้เกิดปัญหาแล้วมาตามแก้ในภายหลัง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการที่ สอศ.ได้จัดกิจกรรมสร้างสรรค์โดยให้นักศึกษาได้เข้ามามีส่วนร่วมในรูปแบบต่างๆอย่างต่อเนื่องจะช่วยลดปัญหาพฤติกรรมในทางที่ไม่เหมาะสมของนักศึกษาได้ และทำให้คนในสังคมมองภาพลักษณ์ของเด็กอาชีวศึกษาไปในทางที่ดีขึ้นด้วย