กทม.จับมือกรมอุตุฯ ใช้แผนที่ดิจิตอลวางแผนป้องกันเหตุแผ่นดินไหวในกรุงเทพฯ พร้อมประเมินความเสียหายหากเกิดแผ่นดินไหว และนำมาใช้วางผังเมือง จัดโซนนิ่งพื้นที่เสี่ยงภัยเมืองกรุง
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วยนายศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงศ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงการใช้ข้อมูลแผนที่เชิงรหัส และระบบโปรแกรมวิเคราะห์ความเสียหายจากแผ่นดินไหว ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม.โดยการลงนามดังกล่าวกรมอุตุฯ จะมอบข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงเนื่องจากภัยพิบัติจากแผ่นดินไหว และให้คำปรึกษาด้านความรู้เกี่ยวกับแผ่นดินไหวแก่ กทม. ขณะเดียวกัน กทม.จะเปิดเผยข้อมูลแผนที่เชิงรหัส (Digital Map) ให้กับกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งข้อมูลแผนที่เชิงรหัสจะเป็นประโยชน์ต่อการประเมินความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวของกรมอุตุนิยมวิทยา และกทม.สามารถนำข้อมูลประเมินความเสียหายดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนด้านความปลอดภัยของเมือง การควบคุมอาคาร สิ่งก่อสร้าง และการบริหารจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติแผ่นดินไหว
นายพงศ์ศักติฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาด้านภัยพิบัติเป็นปัญหาที่คนกรุงเทพฯ ให้ความสนใจกันมากขึ้น ซึ่งทาง กทม.ได้เตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอด โดยจัดเจ้าหน้าที่ออกให้ความรู้และคำปรึกษา พร้อมเตรียมการซักซ้อมป้องกันอัคคีภัยในตึกสูงและพื้นที่เสี่ยงภัยแก่ประชาชนอย่างสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาปรากฏว่าในพื้นที่กทม.ยังไม่พบพื้นที่เสี่ยง มีเพียงพื้นที่บริเวณจังหวัดกาญจนบุรีที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหว สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงเนื่องจากภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวนั้น กทม.จะนำมาใช้ในการปรับผังเมือง การกำหนดโซนนิ่งหรือเขตการก่อสร้างต่างๆ ให้ตรงกับข้อเท็จจริงจากข้อมูลที่ได้รับจากกรมอุตุนิยมวิทยา
ปลัด กทม.กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ กทม.จะส่งมอบแผนที่เชิงรหัสหรือแผนที่สารสนเทศภูมิศาสตร์ มาตราส่วน 1:4000 ในรูปแบบของแผ่นบันทึกข้อมูล (DVD-ROM) ในรูปแบบข้อมูล (Data Dictionary) และระดับความถูกต้อง (Accurary) รวมทั้งพจนานุกรมข้อมูลที่ กทม.ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน จำนวน 1 ชุด ให้กับกรมอุตุนิยมวิทยา โดยข้อมูลเหล่านี้ได้มีการปรับปรุงฐานข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ และมีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนนำไปใช้เพื่อสนับสนุนงานบริการในองค์กร อาทิ การไฟฟ้านครหลวง กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็นต้น โดยทาง กทม.ยินดีให้การสนับสนุนและแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ นำไปใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการองค์กร และมีส่วนร่วมในการปรับปรุงข้อมูลแผนที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วยนายศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงศ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงการใช้ข้อมูลแผนที่เชิงรหัส และระบบโปรแกรมวิเคราะห์ความเสียหายจากแผ่นดินไหว ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม.โดยการลงนามดังกล่าวกรมอุตุฯ จะมอบข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงเนื่องจากภัยพิบัติจากแผ่นดินไหว และให้คำปรึกษาด้านความรู้เกี่ยวกับแผ่นดินไหวแก่ กทม. ขณะเดียวกัน กทม.จะเปิดเผยข้อมูลแผนที่เชิงรหัส (Digital Map) ให้กับกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งข้อมูลแผนที่เชิงรหัสจะเป็นประโยชน์ต่อการประเมินความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวของกรมอุตุนิยมวิทยา และกทม.สามารถนำข้อมูลประเมินความเสียหายดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนด้านความปลอดภัยของเมือง การควบคุมอาคาร สิ่งก่อสร้าง และการบริหารจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติแผ่นดินไหว
นายพงศ์ศักติฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาด้านภัยพิบัติเป็นปัญหาที่คนกรุงเทพฯ ให้ความสนใจกันมากขึ้น ซึ่งทาง กทม.ได้เตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอด โดยจัดเจ้าหน้าที่ออกให้ความรู้และคำปรึกษา พร้อมเตรียมการซักซ้อมป้องกันอัคคีภัยในตึกสูงและพื้นที่เสี่ยงภัยแก่ประชาชนอย่างสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาปรากฏว่าในพื้นที่กทม.ยังไม่พบพื้นที่เสี่ยง มีเพียงพื้นที่บริเวณจังหวัดกาญจนบุรีที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหว สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงเนื่องจากภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวนั้น กทม.จะนำมาใช้ในการปรับผังเมือง การกำหนดโซนนิ่งหรือเขตการก่อสร้างต่างๆ ให้ตรงกับข้อเท็จจริงจากข้อมูลที่ได้รับจากกรมอุตุนิยมวิทยา
ปลัด กทม.กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ กทม.จะส่งมอบแผนที่เชิงรหัสหรือแผนที่สารสนเทศภูมิศาสตร์ มาตราส่วน 1:4000 ในรูปแบบของแผ่นบันทึกข้อมูล (DVD-ROM) ในรูปแบบข้อมูล (Data Dictionary) และระดับความถูกต้อง (Accurary) รวมทั้งพจนานุกรมข้อมูลที่ กทม.ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน จำนวน 1 ชุด ให้กับกรมอุตุนิยมวิทยา โดยข้อมูลเหล่านี้ได้มีการปรับปรุงฐานข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ และมีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนนำไปใช้เพื่อสนับสนุนงานบริการในองค์กร อาทิ การไฟฟ้านครหลวง กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็นต้น โดยทาง กทม.ยินดีให้การสนับสนุนและแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ นำไปใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการองค์กร และมีส่วนร่วมในการปรับปรุงข้อมูลแผนที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
