เศรษฐกิจย่ำแย่!! ชาวกรุงแห่พึ่งโรงรับจำนำ แค่ มี.ค.เดือนเดียวพุ่งกว่า 500 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันของปีที่แล้วกว่า 100 ล้านบาท คาด เม.ย.นี้ยอดไม่ต่างกัน โดยทองรูปพรรณต่างๆ ยังเป็นสิ่งของยอดฮิตที่นิยมนำมาจำนาตามด้วยอัญมณี ขณะที่โปรโมชันดอกเบี้ยต่ำพิเศษช่วยผู้ปกครอง-นักศึกษา ได้รับความนิยมมีลูกค้าแห่มาใช้บริการหลายร้อยราย
นายบุญเลิศ พัฒนารุ่งอโณทัย ผู้อำนวยการสำนักงานสถานธนานุบาล กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ที่สถานธนานุบาลกทม.ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษระหว่างวันที่ 1 เม.ย.-31 พ.ค. 2551 เพื่อให้ผู้ปกครอง นักเรียน นักศึกษาที่มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินสำหรับเปิดภาคเรียนใหม่
โดยได้ลดดอกเบี้ยการจำนำ 0.75% ต่อเดือนสำหรับลูกค้าที่จำนำไม่เกิน 5,000 บาท 0.90% ต่อเดือนสำหรับลูกค้าที่จำนำเกิน 5,000 บาท ซึ่งดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าปกติจะอยู่ที่ 1.30-1.50% ต่อเดือน ทั้งนี้ตั้งแต่เพิ่มโปรโมชันพิเศษมีลูกค้าให้ความสนใจจำนวนมากส่วนใหญ่เป็นผู้ปกครอง มีเข้ามาติดต่อที่สถานธนานุบาล กทม.หลายร้อยได้แต่ที่มีเอกสารครบถ้วน เช่น ใบเสร็จค่าเทอม ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเครื่องแต่งกายที่ระบุชื่อนักเรียนพร้อมบัตรประจำตัวผู้ปกครอง
หากเป็นผู้ปกครองที่ไม่ใช่บิดามารดาไม่ใช่ชื่อสกุลเดียวกันต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันการศึกษาว่าเป็นผู้ปกครองของนักเรียนนั้นๆ มีเพียงร้อยกว่ารายเท่านั้น คิดเป็นมูลค่าการรับจำนำตั้งแต่วันที่ 1-4 เม.ย. กว่า 2 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่นำทองรูปพรรณมาจำนำคิดเป็นกว่า 90% รองลงมาเป็นอัญมณี ตามด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ก็มีจำนวนน้อยเพราะตกรุ่นเร็วจึงไม่นิยมนำมาจำนำ ส่วนอีกหลายร้อยรายที่เอกสารไม่ครบทางสถานธนานุบาลกทม.รับจำนำดอกเบี้ยในอัตราปกติเพราะผู้ปกครองบางรายจำเป็นต้องใช้เงินแต่หากมีเอกสารมาครบสามารถที่จะขอใช้สิทธิตามโปรโมชันพิเศษย้อนหลังนี้ได้ซึ่งต้องยื่นหลักฐานให้ครบถ้วนภายในวันที่ 31 พ.ค.นี้เท่านั้น ทั้งนี้วงเงินการรับจำนำของโปรโมชั่นนี้ตลอด 2 เดือนรวมทุกตั๋วจำนำคนละไม่เกิน 50,000 บาท ซึ่งโดยเฉลี่ยยอดจำนำของผู้ปกครองแต่ละคนขณะนี้อยู่ที่ 20,000 บาทขึ้นไป
นายบุญเลิศ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เฉพาะเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาพบว่ามียอดการจำนำสูงถึง 500 กว่าล้านบาท ขณะที่เดือน มี.ค.ปี 2550 ยอดการรับจำนำอยู่ที่ 400 กว่าล้านบาทซึ่งสาเหตุที่ยอดสูงมากขนากนี้เนื่องมาจากสภาพเศรษฐกิจย่ำแย่ และโรงรับจำนำเป็นแหล่งหมุนเงินในระยะสั้น ดอกเบี้ยน้อย ส่วนตั้งแต่วันที่ 1-3 เม.ย.มียอดการรับจำนำในสถานธนานุบาล กทม.รวมแล้ว 75 ล้านบาท เฉพาะวันที่ 3 เม.ย.มียอดรับจำนำสูงถึง 27 ล้านบาท ทั้งนี้ จากการคำนวณยอดการรับจำนำของเดือน เม.ย.นี้และเปรียบเทียบกับเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาคาดว่าจะมียอดจำนำสูงกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบเทียบกับเดือน เม.ย.ปีที่แล้วยอดรวมอยู่ที่ 477 ล้านบาท
