นักเรียน ม.6 ที่ทราบผลคะแนนโอเน็ตและเอเน็ตแล้ว เริ่มซื้อระเบียบการสมัครแอดมิชชันเลือกคณะและมหาวิทยาลัยที่ต้องการ เผยเด็กยุคนี้เลือกเรียนแพทย์น้อยลงเพราะเรียนหนักแล้วยังถูกฟ้องร้องกันมาก หันไปเลือกคณะสายศิลป์มากขึ้น
หลังจากสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ประกาศผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ระดับชั้น ม.6 เมื่อค่ำวานนี้ (6 เม.ย.) ปรากฏว่านักเรียนทราบผลคะแนนกันเรียบร้อยแล้ว และมีนักเรียนบางรายไม่แน่ใจผลที่ได้ เดินทางไปที่สำนักงาน สทศ.ที่อาคารพญาไทพลาซ่า เพื่อขอดูกระดาษคำตอบ ซึ่งต้องผิดหวังเพราะวันนี้ สทศ.ปิดทำการ โดย ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการ สทศ.แจ้งไว้ล่วงหน้าแล้วว่า หากนักเรียนที่สงสัยคะแนนหลังทราบผล ให้ยื่นคำร้องผ่านทางออนไลน์ได้ตั้งแต่วันนี้ (7 เม.ย.) เป็นต้นไป หรือจะไปยื่นด้วยตัวเองที่สำนักงาน สทศ.ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (8 เม.ย.) และ สทศ.จะทยอยจัดคิวให้ดูกระดาษคำตอบได้ประมาณวันละ 500 ราย
นายวรกิตติ์ ศรีนิธิโกษิต ประธานนักเรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์ เปิดเผยว่า ทราบผลคะแนนโอเน็ตเมื่อวานนี้เวลา 16.00-17.00 น.จากเว็บไซต์อื่นที่ร่วมประกาศผล แล้วค่อยเข้าไปตรวจสอบเพื่อความมั่นใจจากเว็บไซต์ของ สทศ. ที่เว็บ niets.or.th อีกรอบ ค่อนข้างราบรื่นเรียบร้อยเพราะผ่านระบบนี้มา 3 ปีแล้ว แต่ได้ข่าวเช่นกันว่ามีบางคนติดใจคะแนน ซึ่งตนคิดว่าก็เป็นสิทธิที่นักเรียนจะไปยื่นขอดูกระดาษคำตอบได้ ส่วนการเลือกคณะในปีนี้นักเรียนส่วนใหญ่จะเลือกเรียนคณะแพทยศาสตร์น้อยลง เพราะเรียนหนักและแพทย์มีเรื่องฟ้องร้องมาก เช่นเดียวกับคณะนิเทศศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์อาหาร ก็มีนักเรียนเลือกน้อยลงเช่นกัน ดังนั้น ยุคนี้นักเรียนจะหันไปเลือกคณะที่ใช้สายศิลป์กันมากขึ้น เช่น บัญชี นิติศาสตร์
สำหรับบรรยากาศการขายระเบียบการรับสมัครบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาประจำปี 2551 หรือแอดมิชชัน วันแรกที่ศูนย์สอบมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อาคารจักรพันธุ์เพ็ญศิริ มีนักเรียนเดินทางซื้อระเบียบการจำนวนมาก เช่น นายนพรัตน์ ใจวงศ์ศา นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า กล่าวว่า ปีนี้ผลการสอบโอเน็ตและเอเน็ตยากกว่าที่คาดกันไว้ แต่พอทำได้ และไม่มีปัญหาสงสัยเรื่องคะแนนที่ได้ สำหรับการเลือกคณะตั้งใจว่าจะเลือกสอบเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์เครื่องกลของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่เลือกคณะนี้เพราะชอบและมั่นใจจบแล้วมีงานทำ
ด้านนายณัฐพรรษ ญาณวารี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) กล่าวว่า ตั้งใจจะเลือกสมัครเข้าในสายนิติศาสตร์ เพราะมองว่าปัจจุบันเป็นที่นิยม และส่วนตัวก็ชอบในการได้ช่วยเหลือคน เป็นอาชีพที่มีเกียรติ ตนตั้งเป้าหมายจะเป็นผู้พิพากษา ทั้งนี้ จากการคุยกับเพื่อน พบว่ามีคนเลือกเรียนสายแพทย์ หรือนิเทศศาสตร์น้อยลง แต่สัดส่วนเพื่อนที่ไปเลือกเรียนวิศวกรรมศาสตร์ หรือสถาปัตยกรรมศาสตร์ก็ยังมากอยู่ ขณะที่สาขานิติศาสตร์ หรือบริหารธุรกิจภาคพิเศษที่มีการสอนเป็นภาษาอังกฤษก็มีเพื่อนสนใจเลือกมากขึ้น
หลังจากสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ประกาศผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ระดับชั้น ม.6 เมื่อค่ำวานนี้ (6 เม.ย.) ปรากฏว่านักเรียนทราบผลคะแนนกันเรียบร้อยแล้ว และมีนักเรียนบางรายไม่แน่ใจผลที่ได้ เดินทางไปที่สำนักงาน สทศ.ที่อาคารพญาไทพลาซ่า เพื่อขอดูกระดาษคำตอบ ซึ่งต้องผิดหวังเพราะวันนี้ สทศ.ปิดทำการ โดย ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการ สทศ.แจ้งไว้ล่วงหน้าแล้วว่า หากนักเรียนที่สงสัยคะแนนหลังทราบผล ให้ยื่นคำร้องผ่านทางออนไลน์ได้ตั้งแต่วันนี้ (7 เม.ย.) เป็นต้นไป หรือจะไปยื่นด้วยตัวเองที่สำนักงาน สทศ.ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (8 เม.ย.) และ สทศ.จะทยอยจัดคิวให้ดูกระดาษคำตอบได้ประมาณวันละ 500 ราย
นายวรกิตติ์ ศรีนิธิโกษิต ประธานนักเรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์ เปิดเผยว่า ทราบผลคะแนนโอเน็ตเมื่อวานนี้เวลา 16.00-17.00 น.จากเว็บไซต์อื่นที่ร่วมประกาศผล แล้วค่อยเข้าไปตรวจสอบเพื่อความมั่นใจจากเว็บไซต์ของ สทศ. ที่เว็บ niets.or.th อีกรอบ ค่อนข้างราบรื่นเรียบร้อยเพราะผ่านระบบนี้มา 3 ปีแล้ว แต่ได้ข่าวเช่นกันว่ามีบางคนติดใจคะแนน ซึ่งตนคิดว่าก็เป็นสิทธิที่นักเรียนจะไปยื่นขอดูกระดาษคำตอบได้ ส่วนการเลือกคณะในปีนี้นักเรียนส่วนใหญ่จะเลือกเรียนคณะแพทยศาสตร์น้อยลง เพราะเรียนหนักและแพทย์มีเรื่องฟ้องร้องมาก เช่นเดียวกับคณะนิเทศศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์อาหาร ก็มีนักเรียนเลือกน้อยลงเช่นกัน ดังนั้น ยุคนี้นักเรียนจะหันไปเลือกคณะที่ใช้สายศิลป์กันมากขึ้น เช่น บัญชี นิติศาสตร์
สำหรับบรรยากาศการขายระเบียบการรับสมัครบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาประจำปี 2551 หรือแอดมิชชัน วันแรกที่ศูนย์สอบมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อาคารจักรพันธุ์เพ็ญศิริ มีนักเรียนเดินทางซื้อระเบียบการจำนวนมาก เช่น นายนพรัตน์ ใจวงศ์ศา นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า กล่าวว่า ปีนี้ผลการสอบโอเน็ตและเอเน็ตยากกว่าที่คาดกันไว้ แต่พอทำได้ และไม่มีปัญหาสงสัยเรื่องคะแนนที่ได้ สำหรับการเลือกคณะตั้งใจว่าจะเลือกสอบเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์เครื่องกลของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่เลือกคณะนี้เพราะชอบและมั่นใจจบแล้วมีงานทำ
ด้านนายณัฐพรรษ ญาณวารี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) กล่าวว่า ตั้งใจจะเลือกสมัครเข้าในสายนิติศาสตร์ เพราะมองว่าปัจจุบันเป็นที่นิยม และส่วนตัวก็ชอบในการได้ช่วยเหลือคน เป็นอาชีพที่มีเกียรติ ตนตั้งเป้าหมายจะเป็นผู้พิพากษา ทั้งนี้ จากการคุยกับเพื่อน พบว่ามีคนเลือกเรียนสายแพทย์ หรือนิเทศศาสตร์น้อยลง แต่สัดส่วนเพื่อนที่ไปเลือกเรียนวิศวกรรมศาสตร์ หรือสถาปัตยกรรมศาสตร์ก็ยังมากอยู่ ขณะที่สาขานิติศาสตร์ หรือบริหารธุรกิจภาคพิเศษที่มีการสอนเป็นภาษาอังกฤษก็มีเพื่อนสนใจเลือกมากขึ้น