เผยทั่วประเทศมีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี กว่า 11 ล้านคน ว่ายน้ำไม่เป็น สาธารณสุขนำร่องสอนทักษะว่ายน้ำให้ลูกหลานข้าราชการ สธ.ช่วงปิดเทอม เพื่อให้เด็กเอาตัวรอดได้หากมีอุบัติเหตุทางน้ำ และประชุมพัฒนารูปแบบป้องกันการจมน้ำในเด็ก ที่สุโขทัยในเดือนมิถุนายนนี้ ตั้งเป้าลดเด็กตายจากการจมน้ำให้ต่ำกว่า 1,200 คนต่อปี ภายในปี 2553
วันนี้ (26 มี.ค.) ที่สระว่ายน้ำ สนามกีฬากระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดโครงการฝึกสอนทักษะเด็กอายุ 5-15 ปีให้ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำได้ ออกกำลังกายดี มุ่งเน้นให้เด็กเอาตัวรอดได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ โดยในขั้นแรกกระทรวงสาธารณสุขร่วมมือกับสมาคมเพื่อช่วยชีวิตทางน้ำ นำร่องเปิดสอนให้บุตรหลานเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขฟรี เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี มีเด็กที่ว่ายน้ำไม่เป็นสมัครเข้าเรียนกว่า 400 คน โดยรุ่นแรกเปิดสอนเด็กอายุ 5-9 ปี จำนวน 104 คน เป็นหลักสูตร 20 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
นายไชยา กล่าวว่า ขณะนี้การจมน้ำเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี โดยพบในเด็กอายุ 5-9 ปีมากที่สุดร้อยละ 43 เนื่องจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ความประมาทของผู้ปกครอง/ผู้ดูแลเด็ก และจากการว่ายน้ำไม่เป็น และมักพบเด็กจมน้ำตายมากที่สุดในเดือนมีนาคม-เมษายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนและปิดเทอม โดยผลสำรวจเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งมีกว่า 13 ล้านคนทั่วประเทศ ในปี 2549 พบข้อมูลน่าวิตกอย่างยิ่งว่ามีเด็กว่ายน้ำเป็นเพียงร้อยละ 16 หรือว่ายน้ำเป็นแค่ 2 ล้านกว่าคน อีก 11 ล้านคนว่ายน้ำไม่เป็น เฉพาะลูกหลานเจ้าหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุขพบว่ายน้ำเป็นเพียงร้อยละ 15 และตั้งแต่ 1 มกราคม 2551 จนถึงขณะนี้ มีเด็กจมน้ำเสียชีวิตแล้ว กว่า 350 คน จึงต้องเร่งฝึกสอนทักษะให้เด็กว่ายน้ำให้เป็น เพื่อเอาตัวรอดหากเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ และจะขยายผลถึง การสอนทักษะการช่วยชีวิตคนจมน้ำ เพราะการจมน้ำตายหมู่ของเด็กมาจากปัญหาการช่วยชีวิตไม่เป็นด้วย
ทางด้าน นพ.ปราชญ์ กล่าวว่า ในปี 2551 นี้ กระทรวงสาธารณสุขมุ่งเน้นป้องกันปัญหาเด็กจมน้ำ โดยพุ่งเป้าไปที่กลุ่มพ่อแม่เด็กให้ดูแลลูกหลานใกล้ชิดยิ่งขึ้น ได้มอบนโยบายเจ้าหน้าที่ประจำคลินิกสุขภาพเด็กดี ของโรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศกว่า 800 แห่ง ให้ความรู้ผู้ปกครองที่พาเด็กมารับวัคซีนป้องกันโรคและตรวจพัฒนาการ เพื่อให้ตระหนักและป้องกันปัญหาเด็กจมน้ำเสียชีวิต เพราะหากเด็กที่ฉีดวัคซีนครบแล้วต้องมาเสียชีวิตจากการจมน้ำ จะเกิด การลงทุนที่สูญเปล่ารายละ 1,500 บาทต่อคน
สำหรับการพัฒนารูปแบบป้องกันการจมน้ำ ของเด็ก กรมควบคุมโรคได้จัดทำโครงการนำร่องในจังหวัดสุโขทัย โดยร่วมมือกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาท้องถิ่น จังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาล สถานีอนามัยทุกแห่ง และอสม.ในพื้นที่ เปิดสอนการว่ายน้ำให้เด็กในชนบท โดยประยุกต์สอนในแหล่งน้ำธรรมชาติแทนสระว่ายน้ำ ซึ่งจะทำให้เด็กเกิดทักษะ เคยชินต่อสภาพของแหล่งน้ำ เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กในชุมชนที่อยู่ห่างไกลได้เรียนว่ายน้ำเช่นเดียวกับเด็กในเมือง และจัดประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อสร้างการรับรู้ในเรื่องปัญหาการจมน้ำของเด็กในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้
ขณะเดียวกันจะทำการทบทวนกฎหมาย โดยเฉพาะ พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีบทบาท ดำเนินการป้องกันการจมน้ำในเด็กอย่างเป็นรูปธรรม โดยตั้งเป้าจะลดจำนวนเด็กตายจาก การจมน้ำให้ต่ำกว่า 1,200 คนต่อปี ภายในปี 2553