กทม.ตอบรับคำเชิญนายกเทศมนตรซิดนีย์ร่วมกิจกรรม Earth Hour ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น 1 ชั่วโมงตามถนนสายสำคัญต่างๆของเมืองกรุง ในวันที่ 29 มี.ค.นี้ คาดลดใช้พลังงานหยุดเพิ่มโลกร้อนได้ 1 ล้านกิโลวัตรต่อชั่วโมง หรือ 25% คิดเป็นเงินค่าไฟที่ลดได้ถึง 2 ล้านบาท/ชม.
วันนี้ (15 ก.พ.) นางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ประชุมร่วมกับผู้แทน 43 องค์กร เช่น องค์กร WWF การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กระทรวงศึกษาธิการ สมาคมโรงแรม ห้างสรรพสินค้า และเจ้าของอาคารสูง ในการจัดกิจกรรม Earth Hour หรือการร่วมปิดไฟพร้อมกันทั่วโลก
นางบรรณโศภิษฐ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า สืบเนื่องจาก กทม.ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ลดภาวะโลกร้อนโดยครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พ.ค.2550 ด้วยการรณรงค์ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น 15 นาที และต่อมาได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมผู้นำเมืองใหญในการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนที่ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งครั้งนั้นได้พบกับนายกเทศมนตรีเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรียเลียจึงได้เชิญ กทม.เข้าร่วมกิจกรรม Earth Hour ที่รณรงค์ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็นเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ซึ่ง กทม.ได้ตอบตกลงเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวโดยจะมีการจัดกิจกรรม Earth Hour ขึ้นในวันที่วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม นี้ระหว่างเวลา 20.00-21.00 น.ที่ลานเซ็นทรัล เวิลด์ ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักการปิดไฟในดวงที่ไม่จำเป็น ลดการใช้พลังงานแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน
นอกจากนี้ การจัดกิจกรรม Earth Hour ทางนายกเทศมนตรีซิดนีย์ยังได้เชิญชวนเมืองใหญ่กว่า 20 เมืองทั่วโลกร่วม เช่น เมืองโคเปนเฮเกน ชิคาโก กรุงมะนิลา และเซี่ยงไฮ้
นางบรรณโศภิษฐ์ กล่าวอีกว่า จากข้อมูลของการไฟฟ้านครหลวงพบว่าปรกติวันเสาร์ใน กทม.จะมีการใช้พลังงานไฟฟ้า 5 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง แต่ถ้าดับไฟดวงที่ไม่จำเป็นเป็นเวลา 1 ชั่วโมงจะสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ 1 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 25% คิดเป็นเงินค่าไฟที่ลดได้ถึง 2 ล้านบาท/ชม. โดยในวันดังกล่าวจะมีการขอความร่วมมือเจ้าของอาคารบนถนน 6 เส้นร่วมกันปิดไฟ คือ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ราชดำริ สีลม เยาวราช รัชดาภิเษก และถนนข้าวสาร โดยที่ประชุมได้เสนอถนนราชดำเนิน และสุขุมวิทอีก 2 เส้น ซึ่งจะมีการพิจารณาอีกครั้ง
