กทม.ขอเป็นตัวกลางประสานระหว่างการท่าเรือ และผู้แทนชุมชนโรงหมู เพื่อจัดหาที่อยู่อาศัยถาวรแทนของเดิมที่ถูกไฟไหม้เมื่อคืน 25 หลังคาเรือน ขณะที่ชาวบ้านร้องประปาหัวแดงใช้งานไม่ได้ขณะเกิดเหตุ
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และคณะได้ตรวจเยี่ยมพื้นที่ชุมชนโรงหมู เขตคลองเตย หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้เมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมกล่าวว่าชุมชนดังกล่าวเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่รอบๆ เขตมีบ้านเรือนประชาชนจำนวน 500 หลังคาเรือน บนพื้นที่ 30 ไร่ แต่จากเหตุไฟไหม้เมื่อคืนได้เผาบ้านเรือนประชาชนจำนวน 25 หลังคาเรือน คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 3 งาน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 50 ครอบครัว ซึ่งทางเขตคลองเคยได้ตั้งเต็นท์อำนวยการเพื่อให้ประชาชนมาขอรับหลักฐานเพื่อนำไปขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งนี้ เบื้องต้นได้รับรายงานว่าบ้านเลขที่ 600/20 เป็นบ้านต้นเหตุซึ่งเจ้าของบ้านได้จุดเทียนทั้งไว้ แต่อย่างไรก็ตามต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ไฟไหม้ครั้งนี้ไม่มีรานงานว่ามีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ทั้งนี้ ชุมชนโรงหมูเป็นชุมชนที่บุกรุกพื้นที่ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ดังนั้น การช่วยเหลือเรื่องการจัดหาที่อยู่อาศัยในระยะยาว กทม.จะประสานงานระหว่างการท่าเรือแห่งประเทศไทยและผู้แทนชุมชนให้ประชุมร่วมกันว่าจะให้สร้างบ้านทั้งหมดในพื้นที่เดิมหรือไม่ เพราะโดยปรกติประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจะต้องอยากอยู่ที่เดิมอยู่แล้ว หรือหากไม่จะสามารถให้ความช่วยเหลืออย่างไรต่อไป ส่วนที่พักชั่วคราวทางเขตได้นำเต็นท์มากางเพื่อให้ความช่วยเหลือแล้ว ส่วนชุดนักเรียนจะประสานไปยังโรงเรียนที่เด็กแต่ละคนเรียนเพื่อขอความช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าว
นายอภิรักษ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้มาตรการป้องกันเหตุเพลิงไหม้ในชุมชนสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) ของ กทม.ได้ทำงานร่วมกับทางคณะกรรมการชุมชนมาตลอด มีการจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับดับไฟให้ แต่ทั้งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือช่วยกันดูแลในขณะที่เกิดเหตุด้วยเพราะตอนที่เกิดเหตุต้องดับเพลิงจากทางด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวบ้านเข้ามาร้องเรียนต่อนายอภิรักษ์เพื่อให้ช่วยดูประปาหัวแดงเนื่องจากขณะเกิดเหตุน้ำไม่ไหล ซึ่งนายอภิรักษ์ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบต่อไป
