“ลุงแอ้ด” ขอให้เด็กไทยยึดมั่นคำขวัญ “สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม” ระลึกถึงคุณพ่อ แม่ ผู้มีพระคุณ ตอบแทนคุณด้วยการทำความดี ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน พัฒนาตนเอง รักประเทศชาติ ส่วนผู้ปกครองช่วยกันสนับสนุน พัฒนาเด็กใกล้ชิด ให้เด็กมีเหตุผล เป็นตัวของตัวเอง
พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวในพิธีเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ที่จัดขึ้นที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ในปีนี้รูปแบบการจัดงานจะเปลี่ยนแปลงไปจากการจัดในทุกๆ ปี โดยจะงดเว้นกิจกรรมบันเทิง เนื่องจากอยู่ในช่วงไว้อาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ แต่จะเป็นการจัดงานที่มีมิติใหม่ที่จะให้ความสำคัญในเรื่องของเนื้อหาสาระความรู้มากขึ้น
พล.อ.สุรยุทธ กล่าวต่อว่า เด็กเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ทุกฝ่ายจึงต้องช่วยกันพัฒนา สนับสนุน ทุกวิถีทางทั้งด้านความรู้ คุณธรรม ความสามารถ สมานฉันท์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คนไทยสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ และอยากฝากให้ผู้ปกครองดูแลเอาใจใส่เด็ก โดยเฉพาะการใกล้ชิด และสังเกตพัฒนาการของเด็กว่าจะมีความสามารถพิเศษหรือไม่ เมื่อพบเด็กที่มีความสามารถทางสติปัญญา มีความเป็นตัวของตัวเอง ใช้เหตุผลสามารถแยกแยะความจริง ซึ่งหากผู้ปกครองเองพบเด็กที่มีพฤติกรรมเหล่านี้ ควรให้การดูแลเป็นอย่างดี เพื่อที่ประเทศไทยจะได้มีทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคต เด็กเองก็ควรมุ่งมั่นส่งเสริมตนเอง ความสามารถนั้นไม่ได้เกิดจากสมองเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมาจากการฝึกฝนด้วยตนเอง
จากคำขวัญในปีนี้ สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม อยากให้นำไปประพฤติปฏิบัติ ให้เกิดประโยชน์ ต่อตนเองและสังคม อยากเห็นเด็กระลึกถึงคุณของพ่อแม่ ผู้ใหญ่ ผู้มีพระคุณในบ้านเมือง ที่คอยให้สิ่งดีๆ แก่พวกเขา และให้ตอบสนองด้วยการทำความดี ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน พัฒนาตนเอง และรักประเทศชาติที่อยู่ให้มากยิ่งขึ้น"นายกรัฐมนตรี กล่าว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมร้องเพลงเด็กเอ๋ยเด็กดี ร่วมกับเด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมด้วย
พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวในพิธีเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ที่จัดขึ้นที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ในปีนี้รูปแบบการจัดงานจะเปลี่ยนแปลงไปจากการจัดในทุกๆ ปี โดยจะงดเว้นกิจกรรมบันเทิง เนื่องจากอยู่ในช่วงไว้อาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ แต่จะเป็นการจัดงานที่มีมิติใหม่ที่จะให้ความสำคัญในเรื่องของเนื้อหาสาระความรู้มากขึ้น
พล.อ.สุรยุทธ กล่าวต่อว่า เด็กเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ทุกฝ่ายจึงต้องช่วยกันพัฒนา สนับสนุน ทุกวิถีทางทั้งด้านความรู้ คุณธรรม ความสามารถ สมานฉันท์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คนไทยสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ และอยากฝากให้ผู้ปกครองดูแลเอาใจใส่เด็ก โดยเฉพาะการใกล้ชิด และสังเกตพัฒนาการของเด็กว่าจะมีความสามารถพิเศษหรือไม่ เมื่อพบเด็กที่มีความสามารถทางสติปัญญา มีความเป็นตัวของตัวเอง ใช้เหตุผลสามารถแยกแยะความจริง ซึ่งหากผู้ปกครองเองพบเด็กที่มีพฤติกรรมเหล่านี้ ควรให้การดูแลเป็นอย่างดี เพื่อที่ประเทศไทยจะได้มีทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคต เด็กเองก็ควรมุ่งมั่นส่งเสริมตนเอง ความสามารถนั้นไม่ได้เกิดจากสมองเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมาจากการฝึกฝนด้วยตนเอง
จากคำขวัญในปีนี้ สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม อยากให้นำไปประพฤติปฏิบัติ ให้เกิดประโยชน์ ต่อตนเองและสังคม อยากเห็นเด็กระลึกถึงคุณของพ่อแม่ ผู้ใหญ่ ผู้มีพระคุณในบ้านเมือง ที่คอยให้สิ่งดีๆ แก่พวกเขา และให้ตอบสนองด้วยการทำความดี ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน พัฒนาตนเอง และรักประเทศชาติที่อยู่ให้มากยิ่งขึ้น"นายกรัฐมนตรี กล่าว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมร้องเพลงเด็กเอ๋ยเด็กดี ร่วมกับเด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมด้วย