สธ.ประกาศ ผับ เธค สวนอาหาร ตลาดนัดจตุจักร เป็นเขตห้ามสูบบุหรี่ 100% ดีเดย์ 17 ก.พ.นี้ “หมอหทัย” เสนอตัวชี้แจงกลุ่มผู้ประกอบการร้านเหล้า ผับ เธค ให้เข้าใจ ชี้ไม่ได้ทุบหม้อข้าวหมอแกง มั่นใจอนาคตมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น เพราะคนไม่สูบบุหรี่มามากกว่า
นพ.หทัย ชิตานนท์ ประธานสถาบันส่งเสริมสุขภาพไทย มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การให้สถานบันเทิงทุกแห่งเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2550 และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2550 โดยจะมีผลบังคับใช้ภายใน 45 วัน ซึ่งจะตรงกับวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งมาตรการข้อห้ามการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะตามประกาศฉบับใหม่นั้น จะมีผลดีในหลายด้าน ซึ่งตนได้รวบรวมเอกสารงานวิจัยสนับสนุนมาตรการดังกล่าวทั้งภายในประเทศไทย และต่างประเทศ จัดทำเป็นรูปเล่มมีความหนา 100 กว่าหน้า ซึ่งตนได้ส่งเอกสารทั้งหมดให้ นพ.มงคล เรียบร้อยแล้ว
“เชื่อว่า การบังคับใช้ในระยะแรกจะมีปัญหาเรื่องการต่อต้านจากกลุ่มผู้ประกอบการผับ เธค พอสมควร เพราะไม่เข้าใจและคิดว่า สธ.จะไปทุบหม้อข้าวหม้อแกง การทำมาหากินของเขา กลัวว่า ลูกค้าจะลดน้อยลงและไม่เข้าไปเที่ยว ซึ่งหากมีการชุมนุมต่อต้านเกิดขึ้น ผมพร้อมที่จะให้ข้อมูลและเข้าไปพูดคุยกับกลุ่มผู้ประกอบการให้เข้าใจถึงมาตรการห้ามสูบบุหรี่ดังกล่าว โดยจะชี้แจงข้อมูลจากงานวิจัยที่ได้รวบรวมมาและเชื่อว่าจะยุติปัญหาได้” นพ.หทัย กล่าว
นพ.หทัย กล่าวต่อว่า งานวิจัยที่ตนได้รวบรวมมาสามารถสรุปเป็นประเด็นหลักได้ 6 ข้อ ดังนี้ 1.การห้ามสูบบุหรี่ในสถานธุรกิจ ผับ เธค ทำให้ประชาชนทั่วไปพอใจมากขึ้น 2.ไม่ทำให้รายได้ของสถานธุรกิจที่ถูกควบคุมลดน้อยลง แม้ว่าในระยะแรกอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็ไม่นาน แต่ในระยะยาวจะยิ่งมีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะได้ลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ไม่สูบบุหรี่ ซึ่งมีจำนวนมากกว่าผู้สูบบุหรี่ และสุดท้ายลูกค้าเดิมก็จะกลับมาเที่ยวตามเดิม 3.สุขภาพของพนักงานในร้าน และลูกค้าที่มาเที่ยวดีขึ้น 4.วงดนตรีที่เล่นสดในสถานธุรกิจมีความไพเราะขึ้น เพราะไม่มีควันบุหรี่เข้าไปจับตามเครื่องดนตรี หรือลำโพง ทำให้เสียงใสกว่าเดิม
สำหรับรายละเอียดในประกาศ ดังกล่าวมีการเพิ่มสถานที่ปลอดบุหรี่มากขึ้นอีก 4 ประเภท ได้แก่ 1.สถานที่จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม การจัดเลี้ยง ที่ติดเครื่องปรับอากาศห้ามสูบบุหรี่โดยสิ้นเชิง ซึ่งเดิมมีข้อยกเว้นหากจดทะเบียนเป็นสถานบริการ แต่ในประกาศฉบับใหม่จะตัดข้อยกเว้นดังกล่าวออกไป ดังนั้น ไม่ว่าจะจดทะเบียนอยู่ในประเภทใด ก็ห้ามสูบบุหรี่ แต่สามารถที่จะออกมาสูบบุหรี่บริเวณภายนอกร้านซึ่งจัดเป็นที่พิเศษได้ 2.สถานที่ทำงานเอกชน ซึ่งเดิมจะยกเว้นหากจดทะเบียนเป็นสถานบริการ ดังนั้น จะไม่มีข้อยกเว้นอีกต่อไป หากอยู่ในระบบปรับอากาศไม่ว่าจะจดทะเบียนเป็นสำนักงานหรือสถานบริการต้องเป็นเขตห้ามสูบบุหรี่สิ้นเชิงเช่นเดียวกัน
3.สำหรับร้านที่จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่อยู่ในระบบปรับอากาศ เช่น สวนอาหาร ถือเป็นเขตห้ามสูบบุหรี่ประเภทที่ 2 คือ สามารถจัดมุมสำหรับสูบบุหรี่ได้ แต่ต้องเป็นไปตามที่รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขกำหนด และ 4.ตลาดสด ตลาดนัด เป็นเขตปลอดบุหรี่ประเภทที่ 2 ฉะนั้นสวนจตุจักร ก็จะห้ามสูบบุหรี่ด้วย
อนึ่งตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535 หากประชาชนฝ่าฝืนสูบบุหรี่ในที่ห้ามสูบมีโทษปรับ 2,000 บาท ส่วนเจ้าของสถานที่จะถูกปรับ 20,000 บาท